Youtube :Travel MGR
หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 หลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มมีมาตรการทยอยปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมักจะมีนักท่องเที่ยวอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ในหลายประเทศ และหลายเมือง ยังมีมาตรการปิดประเทศ-ปิดเมือง ควบคุมการเดินทางเข้า-ออก รวมถึงการที่ประชาชนจะออกไปทำกิจกรรมในที่สาธารณะ การรวมตัวกันของคนจำนวนมาก มีการปิดสถานศึกษา โรงภาพยนตร์ ร้านค้า ยกเลิกคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ต่างๆ
มาสำรวจกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
หอไอเฟล และ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศมาตรการเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการห้ามประชาชนรวมตัวกันเพิน 100 คน ปิดสถานที่สาธารณะที่ไม่จะเป็น จึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างหอไอเฟล และ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปิดทำการ ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วย
“หอไอเฟล” หอคอยโครงสร้างเหล็กอันเป็นสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ออกแบบโดย กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส มีความสูง 300 เมตร หรือตึกสูงประมาณ 75 ชั้น
“พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดแสดงผลงานมากมาย จึงว่ากันว่า หากต้องการชมผลงานทุกชิ้น อาจจะต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย
รัฐบาลอินเดียมีคำสั่งให้ปิดการเข้าชมทัชมาฮาล เนื่องจากต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของอินเดียเพิ่งประกาศว่า จะปิดการเข้าชมอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้
“ทัช มาฮาล” สิ่งก่อสร้างที่ได้ชื่อว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่คนทั้งโลกต่างรู้จัก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เหตุผลที่คนทั่วโลกมุ่งหน้ามาชมทัช มาฮาล นั่นเพราะที่นี่ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกใน ค.ศ.1983 เป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด เป็นงานสถาปัตยกรรมที่รวมเอาความงดงามสุดยอดที่สร้างด้วยมือมนุษย์ และยังถือเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่ชายคนหนึ่งมอบให้กับหญิงอันเป็นที่รักอีกด้วย
กะบะฮ์ นครเมกกะห์ ประเทศซาอุดิอาราเบีย
ทางการซาอุดิอาระเบียประกาศด้ามศาสนิกชาวต่างชาติทุกคนเข้าเยี่ยมสถานที่สำคัญทางศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ ยังสั่งระงับวีซ่าของนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
“กะบะฮ์” ถือเป็นศูนย์รวมของมุสลิมทั่วโลก เป็นที่ที่อัลลอฮ์กำหนดให้เป็นที่สักการะพระองค์ เป็นทิศกิบลัตสำหรับการละหมาดของชาวมุสลิม และเป็นสถานที่ฏอวาฟ (เวียนรอบ) ในการประกอบพิธีอุมเราะฮ์และฮัจญ์
น้ำพุเทรวี และ โคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี
รัฐบาลอิตาลีประกาศปิดประเทศทั้งหมด ภายหลังจากการปิดเฉพาะแคว้นลอมบาเดียร์ ทางตอนเหนือ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โดยมาตรการปิดประเทศนั้นมีการสั่งห้ามเดินทาง ปิดพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีทุกแห่งทั่วประเทศ ยกเลิกกิจกรรมทุกอย่าง ร้านอาหารต้องมีระยะห่างระหว่างกัน 3 ฟุต และปิดให้บริการ 18.00 น. เป็นต้น โดยอิตาลีถือเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มีการประกาศปิดประเทศ
“น้ำพุเทรวี” ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) และกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม โดยนอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้วที่นี่ยังมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับการโยนเหรียญอธิษฐานที่เป็นเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชม
“โคลอสเซียม” เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา
ที่ว่าการเมืองหลังเก่า และ จัตุรัสเมืองเก่า กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
สาธารณรัฐเช็ก ระงับวีซ่าท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ และไม่อนุญาตให้ชาวเช็กเดินทางออกนอกประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีมาตรการกักตัวพลเมืองเช็กที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนาน 14 วัน ห้ามจัดงานรวมกลุ่มมากกว่า 30 คน ปิดสถานศึกษา สถานบันเทิงและสถานที่สันทนาการ มีการกำหนดระยะเวลาทำการของร้านอาหาร
“ที่ว่าการเมืองหลังเก่า” ที่กรุงปราก มีไฮไลต์อยู่ที่ “นาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ” ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ก็ยังใช้กลไกที่ซับซ้อนเป็นตัวขับเคลื่อน สามารถบอกได้ทั้งเวลา ข้างขึ้นข้างแรม จักรราศี และตำแหน่งการเดินทางของพระอิทตย์ พระจันทร์ และโลก ในระบบสุริยจักรวาล บริเวณด้านหน้าที่ว่าการเมืองหลังเก่านี้ จะมีนักท่องเที่ยวมารอชมนาฬิกากันในทุกๆ ต้นชั่วโมง ซึ่งจะมีรูปปั้นอัครสาวก 12 องค์ ที่ประดับอยู่บนนาฬิกาออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างยกกล้องขึ้นบันทึกภาพความประทับใจนี้
“จัตุรัสเมืองเก่า” ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่นัดพบของชาวปรากและนักท่องเที่ยว โดยบริเวณลานจัตุรัสนั้นมีอนุสาวรีย์ ยาน ฮุส นักปฏิรูปศาสนา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ ส่วนทางทิศตะวันออกของจัตุรัสก็คือ “โบสถ์แม่พระ” โบสถ์เก่าแก่ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ส่วนภายในนั้นตกแต่งตามสไตล์บาโรค มีจุดเด่นให้สังเกตก็คือยอดแหลม 2 ยอด ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล อีกมุมของจัตุรัสก็มี “St. Nicholas Church” ซึ่งเป็นโบสถ์ในสไตล์บาโรค ด้านในตกแต่งอย่างงดงาม
วิหารบาร์เซโลนา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศภาวะฉุกเฉิน ปิดประเทศเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ ประกาศภาวะฉุกเฉินมีผลหลายประการ อาทิ การสั่งปิดร้านค้า (ยกเว้นร้านจำหน่ายสินค้าจำเป็น), บาร์, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, โรงเรียน และมหาวิทยาลัย รวมถึงจำกัดการเดินทางของประชากรทั้งประเทศ
“วิหารบาร์เซโลนา” เป็นวิหารสไตล์คลาสสิกโกธิคซึ่งมีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 นักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อชมพิธีมิสซาแบบดั้งเดิมภายใต้เพดานทรงโค้งอันยิ่งใหญ่ ทั่วทั้งวิหารนี้สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะการตกแต่งจากศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา รวมถึงระเบียงโบสถ์หรือลานรอบๆ ที่มีน้ำพุและฝูงห่าน จากดาดฟ้าจะสามารถมองเห็นวิวได้ทั่วเมือง
ทั้ง 9 แห่งนี้ เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็มีนักท่องเที่ยวบางตาลงเช่นกัน เห็นหลายๆ ประเทศมีมาตรการรับมืออย่างชัดเจนแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าภาครัฐของไทยจะมีมาตรการออกมารับมือกับการระบาดของโควิด-19 อย่างชัดเจนและเห็นผลอย่างเร็ววัน ก่อนที่จะมีคนป่วยด้วยโควิด-19 จนล้นประเทศ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 หลายๆ ประเทศทั่วโลกเริ่มมีมาตรการทยอยปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมักจะมีนักท่องเที่ยวอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ในหลายประเทศ และหลายเมือง ยังมีมาตรการปิดประเทศ-ปิดเมือง ควบคุมการเดินทางเข้า-ออก รวมถึงการที่ประชาชนจะออกไปทำกิจกรรมในที่สาธารณะ การรวมตัวกันของคนจำนวนมาก มีการปิดสถานศึกษา โรงภาพยนตร์ ร้านค้า ยกเลิกคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ต่างๆ
มาสำรวจกันว่าสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ระหว่างก่อนและหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19
หอไอเฟล และ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศมาตรการเข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการห้ามประชาชนรวมตัวกันเพิน 100 คน ปิดสถานที่สาธารณะที่ไม่จะเป็น จึงทำให้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างหอไอเฟล และ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปิดทำการ ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วย
“หอไอเฟล” หอคอยโครงสร้างเหล็กอันเป็นสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีสที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ออกแบบโดย กุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส มีความสูง 300 เมตร หรือตึกสูงประมาณ 75 ชั้น
“พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์” เป็นพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวาง มีการจัดแสดงผลงานมากมาย จึงว่ากันว่า หากต้องการชมผลงานทุกชิ้น อาจจะต้องใช้เวลาราว 1 สัปดาห์เลยทีเดียว
ทัชมาฮาล ประเทศอินเดีย
รัฐบาลอินเดียมีคำสั่งให้ปิดการเข้าชมทัชมาฮาล เนื่องจากต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของอินเดียเพิ่งประกาศว่า จะปิดการเข้าชมอนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้
“ทัช มาฮาล” สิ่งก่อสร้างที่ได้ชื่อว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่คนทั้งโลกต่างรู้จัก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย เหตุผลที่คนทั่วโลกมุ่งหน้ามาชมทัช มาฮาล นั่นเพราะที่นี่ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกใน ค.ศ.1983 เป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันฉลาด เป็นงานสถาปัตยกรรมที่รวมเอาความงดงามสุดยอดที่สร้างด้วยมือมนุษย์ และยังถือเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่ชายคนหนึ่งมอบให้กับหญิงอันเป็นที่รักอีกด้วย
กะบะฮ์ นครเมกกะห์ ประเทศซาอุดิอาราเบีย
ทางการซาอุดิอาระเบียประกาศด้ามศาสนิกชาวต่างชาติทุกคนเข้าเยี่ยมสถานที่สำคัญทางศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ ยังสั่งระงับวีซ่าของนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
“กะบะฮ์” ถือเป็นศูนย์รวมของมุสลิมทั่วโลก เป็นที่ที่อัลลอฮ์กำหนดให้เป็นที่สักการะพระองค์ เป็นทิศกิบลัตสำหรับการละหมาดของชาวมุสลิม และเป็นสถานที่ฏอวาฟ (เวียนรอบ) ในการประกอบพิธีอุมเราะฮ์และฮัจญ์
น้ำพุเทรวี และ โคลอสเซียม กรุงโรม ประเทศอิตาลี
รัฐบาลอิตาลีประกาศปิดประเทศทั้งหมด ภายหลังจากการปิดเฉพาะแคว้นลอมบาเดียร์ ทางตอนเหนือ ที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โดยมาตรการปิดประเทศนั้นมีการสั่งห้ามเดินทาง ปิดพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีทุกแห่งทั่วประเทศ ยกเลิกกิจกรรมทุกอย่าง ร้านอาหารต้องมีระยะห่างระหว่างกัน 3 ฟุต และปิดให้บริการ 18.00 น. เป็นต้น โดยอิตาลีถือเป็นประเทศแรกในยุโรปที่มีการประกาศปิดประเทศ
“น้ำพุเทรวี” ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นน้ำพุที่มีความสูง 25.9 เมตร (85 ฟุต) และกว้าง 19.8 เมตร (65 ฟุต) และน้ำพุแบบบาโรกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงโรม โดยนอกจากในเรื่องของความสวยงามแล้วที่นี่ยังมีเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อเกี่ยวกับการโยนเหรียญอธิษฐานที่เป็นเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชม
“โคลอสเซียม” เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา
ที่ว่าการเมืองหลังเก่า และ จัตุรัสเมืองเก่า กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
สาธารณรัฐเช็ก ระงับวีซ่าท่องเที่ยวให้กับชาวต่างชาติ และไม่อนุญาตให้ชาวเช็กเดินทางออกนอกประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีมาตรการกักตัวพลเมืองเช็กที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนาน 14 วัน ห้ามจัดงานรวมกลุ่มมากกว่า 30 คน ปิดสถานศึกษา สถานบันเทิงและสถานที่สันทนาการ มีการกำหนดระยะเวลาทำการของร้านอาหาร
“ที่ว่าการเมืองหลังเก่า” ที่กรุงปราก มีไฮไลต์อยู่ที่ “นาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ” ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ก็ยังใช้กลไกที่ซับซ้อนเป็นตัวขับเคลื่อน สามารถบอกได้ทั้งเวลา ข้างขึ้นข้างแรม จักรราศี และตำแหน่งการเดินทางของพระอิทตย์ พระจันทร์ และโลก ในระบบสุริยจักรวาล บริเวณด้านหน้าที่ว่าการเมืองหลังเก่านี้ จะมีนักท่องเที่ยวมารอชมนาฬิกากันในทุกๆ ต้นชั่วโมง ซึ่งจะมีรูปปั้นอัครสาวก 12 องค์ ที่ประดับอยู่บนนาฬิกาออกมาเดินผ่านหน้าต่างเล็กๆ ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต่างยกกล้องขึ้นบันทึกภาพความประทับใจนี้
“จัตุรัสเมืองเก่า” ปัจจุบันนี้เป็นสถานที่นัดพบของชาวปรากและนักท่องเที่ยว โดยบริเวณลานจัตุรัสนั้นมีอนุสาวรีย์ ยาน ฮุส นักปฏิรูปศาสนา ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ ส่วนทางทิศตะวันออกของจัตุรัสก็คือ “โบสถ์แม่พระ” โบสถ์เก่าแก่ที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ส่วนภายในนั้นตกแต่งตามสไตล์บาโรค มีจุดเด่นให้สังเกตก็คือยอดแหลม 2 ยอด ที่สามารถมองเห็นได้แต่ไกล อีกมุมของจัตุรัสก็มี “St. Nicholas Church” ซึ่งเป็นโบสถ์ในสไตล์บาโรค ด้านในตกแต่งอย่างงดงาม
วิหารบาร์เซโลนา เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศภาวะฉุกเฉิน ปิดประเทศเป็นเวลา 15 วัน ตั้งแต่ 16 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ ประกาศภาวะฉุกเฉินมีผลหลายประการ อาทิ การสั่งปิดร้านค้า (ยกเว้นร้านจำหน่ายสินค้าจำเป็น), บาร์, ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์, โรงเรียน และมหาวิทยาลัย รวมถึงจำกัดการเดินทางของประชากรทั้งประเทศ
“วิหารบาร์เซโลนา” เป็นวิหารสไตล์คลาสสิกโกธิคซึ่งมีประวัติย้อนไปถึงศตวรรษที่ 13 นักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อชมพิธีมิสซาแบบดั้งเดิมภายใต้เพดานทรงโค้งอันยิ่งใหญ่ ทั่วทั้งวิหารนี้สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะการตกแต่งจากศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา รวมถึงระเบียงโบสถ์หรือลานรอบๆ ที่มีน้ำพุและฝูงห่าน จากดาดฟ้าจะสามารถมองเห็นวิวได้ทั่วเมือง
ทั้ง 9 แห่งนี้ เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 อย่างเห็นได้ชัดเจน ส่วนในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ก็มีนักท่องเที่ยวบางตาลงเช่นกัน เห็นหลายๆ ประเทศมีมาตรการรับมืออย่างชัดเจนแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าภาครัฐของไทยจะมีมาตรการออกมารับมือกับการระบาดของโควิด-19 อย่างชัดเจนและเห็นผลอย่างเร็ววัน ก่อนที่จะมีคนป่วยด้วยโควิด-19 จนล้นประเทศ
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR