Youtube :Travel MGR
จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ “กราดยิงโคราช” ของจ่าคลั่งสุดเหี้ยม ในขณะที่จนท. ฝ่ายความมั่งคง ตำรวจ ทหาร และหน่วยสนับสนุน กู้ภัยทำงานกันอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อจะเร่งคลี่คลายสถานการณ์
แต่สื่อบางสำนักของเมืองไทยก็มุ่งแต่จะขายข่าวจนละเลยจริยธรรม จรรยาบรรณ บางสื่อกลายเป็นทำหน้าที่ชี้ช่องให้โจรร้ายไป (ผิดกับสื่อของช่อง 7 ที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้โดรนของช่อง 7 ร่วมค้นหาคนร้าย)
ขณะที่ในโลกโซเชียลที่ผู้คนส่วนใหญ่ ต่างมุ่งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กู้ภัย อาสา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้วิสามัญคนร้ายได้โดยไว รวมถึงขอพรจากย่าโมให้เมืองโคราช (นครราชสีมา) ผ่านพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี
กระนั้นก็ยังมีเกรียนคีย์บอร์ดบางส่วน (ซึ่งส่วนใหญ่ฝักใฝ่พรรคการเมืองหนึ่ง) กลับมุ่งคอยซ้ำเติมสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชมโจรร้าย เชียร์ให้ไปยิงผู้นำประเทศ รวมถึงด่า ด่า ด่า และก็ด่า ดังคำกล่าว ไม่ทำHa ด่าอย่างเดียว คือพวกนี้จะหาเรื่องมาด่ามาแซะได้แทบทุกอย่าง ถึงขนาดบางคนโชว์โง่มาแซะเรื่องการใช้คำภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ก็มีบางคนซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาส่วนไหนคิด หาเรื่องด่าแซะโยงไปจนถึง “ย่าโม” ศูนย์รวมจิตใจชาวโคราช โดยเกรียนคีย์บอร์ดหนุ่มบางคน นำย่าโมมาโยงโพสต์แซะว่า...เอามาไว้ซะสูง บอกให้ไปช่วยแต่ไม่มีบันไดให้ลง จะไปช่วยยังไง...
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจกับกับคนโคราช ลูกหลานชาวย่าโม และผู้ที่เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก ซึ่งต่างเข้าไปตำหนิ ต่อว่า และสั่งสอนเกรียนคีย์บอร์ดหนุ่มคนนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงไม่สำนึก โพสต์ข้อความแบบข้าง ๆ คู ๆ ต่อไปอีกว่า
...ข้อความข้างล่างไม่ค่อยเหมาะหรอกผมรู้ ที่สุดแล้วหากคนจะเสื่อมศรัทธาลงจริง ๆ มันไม่ใช่ที่ผมโพสต์หรอก แต่เป็นเพราะคนที่ศรัทธาแสดงกิริยาเกรี้ยวกราด จนคนที่รู้สึกเฉย ๆ ไม่อยากไปร่วมศรัทธาพร้อมกับคุณให้แปะเปื้อนครับ... ซึ่งก็ได้สร้างความโกรธเคืองแก่ชาวโคราช และผู้ที่นับถือย่าโมเป็นจำนวนมาก
เพราะย่าโม เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจชาวโคราช ที่ไม่เพียงแต่ชาวโคราชที่เคารพนับถือท่าน หากแต่มีคนไทยอีกเกือบทั้งประเทศนับถือท่าน
ย่าโม หรือ “คุณหญิงโม” หรือชื่อทางการ “ท้าวสุรนารี” ตามตำนานระบุว่าเป็นชาวเมืองนครราชสีมาแต่กำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา
คุณหญิงโม เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา เมื่ออายุได้ 25 ปี ได้แต่งงานกับนายทองคำขาว พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ที่ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระภักดีสุริยเดช” ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา
นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา “พระภักดีสุริยเดช” ได้เลื่อนเป็น “พระยาสุริยเดช” ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม
อย่างไรก็ดีชาวโคราชนิยมเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า “คุณหญิงโม” และ “พระยาปลัดทองคำ” และเนื่องจากท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวโคราชจึงพากันเรียกคุณหญิงโมว่า “แม่” พร้อมทั้งมีผู้มาฝากตัวเป็นลูกหลานกับคุณหญิงโมเป็นจำนวนมาก
คุณหญิงโม เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า เช่นเดียวกับผู้ชาย ท่ายมีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลานไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอ
คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ (ย่าเหลือ บุตรีของ หลวงเจริญ กรมการผู้น้อยแห่งเมืองนครราชสีมา) จึง รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด
ความนี้เมื่อทราบไปถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโม ขึ้นเป็น “ท้าวสุรนารี” เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 ซึ่งขณะนั้นคุณหญิงโมมีอายุได้ 57 ปี
คุณหญิงโม หรือ ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2395 สิริรวมอายุ 81 ปี ซึ่งเจ้าพระยามหิศราธิบดีผู้เป็นสวามี ได้ฌาปนกิจศพ และสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ ณ วัดศาลาลอย ในตัวเมืองนครราชสีมา
จากวีรกรรมความกล้าหาญของคุณหญิงโม ทำให้ท่านได้รับการยกย่องให้เป็น “วีรสตรีไทยตลอดกาล” ซึ่งต่อมาได้มีการสร้าง “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติของท่าน ในปี พ.ศ. 2510 ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบร่วมกับ พระเทวาภินิมมิตร (ฉาย เทียมศิลปไชย)
อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า “อนุสาวรีย์ย่าโม” ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูชุมพล (ประตูเมืองด้านทิศตะวันตก) ตัวอนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทานในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น ซื้อซ้ายท้าวเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนฐานไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งบรรจุอัฐิของท่าน
นอกจากคนโคราชแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยว หรือคนต่างถิ่นที่แวะเวียนมาเยือนเมืองนครราชสีมา ต่างก็มักจะมากราบสักการะย่าโมอยู่เสมอ จนมีคำกล่าวว่า “ใครมาโคราชถ้าไม่ได้ไปไหว้ย่าโม ก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงโคราช”
ทุก ๆ ปี จะมีการจัด งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) ขึ้นในช่วงระหว่าง วันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งงานประจำปีอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา
ปัจจุบันอนุสาวรีย์ย่าโมเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่เมืองนครราชสีมา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวโคราช ซึ่งแต่ละวันจะมีคนเดินทางมาสักการะขอพรย่าโมกันไม่ได้ขาด ในหลากหลายเรื่องตามความต้องการสมหวังของแต่ละคน อย่างไรก็ดีมีความเชื่อว่า ห้ามขอในเรื่องไม่ให้ติดทหารกับย่าโมเด็ดขาด เพราะย่าโมท่านเป็นคนรักชาติมาก ใครที่มาขอไม่ให้ติดทหารกับย่าโม นั้นจะได้ผลเป็นตรงกันข้ามคือติดทหารไปรับใช้ชาติแน่นอน
ทั้งนี้หลังเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงโคราชสิ้นสุดลง ในเช้าวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีชาวโคราชจำนวนมากต่างพร้อมใจกันมาร่วมจุดเทียนและวางดอกไม้แสดงความอาลัยให้กับผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี รวมถึงอัญเชิญ พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และพระสงฆ์จากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร 29 รูป มาสวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อีกด้วย
สำหรับย่าโมถือเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทย โดยเฉพาะคนโคราชให้ความเคารพนับถือ ดังนั้นการกระทำของคนจิตใจต่ำบางคนที่ไปลบหลู่ท่าน ไม่ว่าจะเป็นการนำภาพหน้าตัวเองไปตัดต่อแทนหน้าย่าโม หรือการไปโพสต์โยง แซะ เอาสาแกใจ เพื่อลบหลู่ท่าน จากเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงโคราช ซึ่งแม้ในข้อกฎหมายอาจจะไม่สามารถเอาผิดได้ แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ไม่สามารถหนีกฎแห่งกรรมจากการกระทำอันต่ำตมนี้ได้
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
จากเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญ “กราดยิงโคราช” ของจ่าคลั่งสุดเหี้ยม ในขณะที่จนท. ฝ่ายความมั่งคง ตำรวจ ทหาร และหน่วยสนับสนุน กู้ภัยทำงานกันอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อจะเร่งคลี่คลายสถานการณ์
แต่สื่อบางสำนักของเมืองไทยก็มุ่งแต่จะขายข่าวจนละเลยจริยธรรม จรรยาบรรณ บางสื่อกลายเป็นทำหน้าที่ชี้ช่องให้โจรร้ายไป (ผิดกับสื่อของช่อง 7 ที่ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้โดรนของช่อง 7 ร่วมค้นหาคนร้าย)
ขณะที่ในโลกโซเชียลที่ผู้คนส่วนใหญ่ ต่างมุ่งให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กู้ภัย อาสา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้วิสามัญคนร้ายได้โดยไว รวมถึงขอพรจากย่าโมให้เมืองโคราช (นครราชสีมา) ผ่านพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้ด้วยดี
กระนั้นก็ยังมีเกรียนคีย์บอร์ดบางส่วน (ซึ่งส่วนใหญ่ฝักใฝ่พรรคการเมืองหนึ่ง) กลับมุ่งคอยซ้ำเติมสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการชื่นชมโจรร้าย เชียร์ให้ไปยิงผู้นำประเทศ รวมถึงด่า ด่า ด่า และก็ด่า ดังคำกล่าว ไม่ทำHa ด่าอย่างเดียว คือพวกนี้จะหาเรื่องมาด่ามาแซะได้แทบทุกอย่าง ถึงขนาดบางคนโชว์โง่มาแซะเรื่องการใช้คำภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ก็มีบางคนซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอาส่วนไหนคิด หาเรื่องด่าแซะโยงไปจนถึง “ย่าโม” ศูนย์รวมจิตใจชาวโคราช โดยเกรียนคีย์บอร์ดหนุ่มบางคน นำย่าโมมาโยงโพสต์แซะว่า...เอามาไว้ซะสูง บอกให้ไปช่วยแต่ไม่มีบันไดให้ลง จะไปช่วยยังไง...
เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจกับกับคนโคราช ลูกหลานชาวย่าโม และผู้ที่เคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก ซึ่งต่างเข้าไปตำหนิ ต่อว่า และสั่งสอนเกรียนคีย์บอร์ดหนุ่มคนนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขายังคงไม่สำนึก โพสต์ข้อความแบบข้าง ๆ คู ๆ ต่อไปอีกว่า
...ข้อความข้างล่างไม่ค่อยเหมาะหรอกผมรู้ ที่สุดแล้วหากคนจะเสื่อมศรัทธาลงจริง ๆ มันไม่ใช่ที่ผมโพสต์หรอก แต่เป็นเพราะคนที่ศรัทธาแสดงกิริยาเกรี้ยวกราด จนคนที่รู้สึกเฉย ๆ ไม่อยากไปร่วมศรัทธาพร้อมกับคุณให้แปะเปื้อนครับ... ซึ่งก็ได้สร้างความโกรธเคืองแก่ชาวโคราช และผู้ที่นับถือย่าโมเป็นจำนวนมาก
เพราะย่าโม เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจชาวโคราช ที่ไม่เพียงแต่ชาวโคราชที่เคารพนับถือท่าน หากแต่มีคนไทยอีกเกือบทั้งประเทศนับถือท่าน
ย่าโม หรือ “คุณหญิงโม” หรือชื่อทางการ “ท้าวสุรนารี” ตามตำนานระบุว่าเป็นชาวเมืองนครราชสีมาแต่กำเนิด เกิดเมื่อปีระกา พ.ศ. 2314 มีนิวาสสถานอยู่ ณ บ้านตรงกันข้ามกับวัดพระนารายณ์มหาราช (วัดกลางนคร) ทางทิศใต้ของเมืองนครราชสีมา
คุณหญิงโม เป็นธิดาของนายกิ่มและนางบุญมา เมื่ออายุได้ 25 ปี ได้แต่งงานกับนายทองคำขาว พนักงานกรมการเมืองนครราชสีมา ที่ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น “พระภักดีสุริยเดช” ตำแหน่งรองปลัดเมืองนครราชสีมา
นางโม จึงได้เป็น คุณนายโม และต่อมา “พระภักดีสุริยเดช” ได้เลื่อนเป็น “พระยาสุริยเดช” ตำแหน่งปลัดเมืองนครราชสีมา คุณนายโมจึงได้เป็น คุณหญิงโม
อย่างไรก็ดีชาวโคราชนิยมเรียกท่านทั้งสองเป็นสามัญว่า “คุณหญิงโม” และ “พระยาปลัดทองคำ” และเนื่องจากท่านเป็นหมันไม่มีทายาทสืบสายโลหิต ชาวโคราชจึงพากันเรียกคุณหญิงโมว่า “แม่” พร้อมทั้งมีผู้มาฝากตัวเป็นลูกหลานกับคุณหญิงโมเป็นจำนวนมาก
คุณหญิงโม เป็นคนมีสติปัญญาหลักแหลม เล่นหมากรุกเก่ง มีความชำนาญในการขี่ช้าง ขี่ม้า เช่นเดียวกับผู้ชาย ท่ายมีม้าตัวโปรดสีดำ และมักจะพาลูกหลานไปทำบุญที่วัดสระแก้วเป็นประจำเสมอ
คุณหญิงโม และนางสาวบุญเหลือ (ย่าเหลือ บุตรีของ หลวงเจริญ กรมการผู้น้อยแห่งเมืองนครราชสีมา) จึง รวบรวมครอบครัวชาย หญิงชาวนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย เข้าต่อสู้ฆ่าฟันทหารลาวล้มตายเป็นอันมาก ณ ทุ่งสัมฤทธิ์ แขวงเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พุทธศักราช 2369 ช่วยให้ฝ่ายไทยสามารถกอบกู้เมืองนครราชสีมากลับคืนมาได้ในที่สุด
ความนี้เมื่อทราบไปถึง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโม ขึ้นเป็น “ท้าวสุรนารี” เมื่อ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 ซึ่งขณะนั้นคุณหญิงโมมีอายุได้ 57 ปี
คุณหญิงโม หรือ ท้าวสุรนารี ถึงแก่อสัญกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2395 สิริรวมอายุ 81 ปี ซึ่งเจ้าพระยามหิศราธิบดีผู้เป็นสวามี ได้ฌาปนกิจศพ และสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิไว้ ณ วัดศาลาลอย ในตัวเมืองนครราชสีมา
จากวีรกรรมความกล้าหาญของคุณหญิงโม ทำให้ท่านได้รับการยกย่องให้เป็น “วีรสตรีไทยตลอดกาล” ซึ่งต่อมาได้มีการสร้าง “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” ขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติของท่าน ในปี พ.ศ. 2510 ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี เป็นผู้ออกแบบร่วมกับ พระเทวาภินิมมิตร (ฉาย เทียมศิลปไชย)
อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือที่คนส่วนใหญ่นิยมเรียกกันว่า “อนุสาวรีย์ย่าโม” ตั้งอยู่ด้านหน้าประตูชุมพล (ประตูเมืองด้านทิศตะวันตก) ตัวอนุสาวรีย์เป็นรูปหล่อทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร แต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทานในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น ซื้อซ้ายท้าวเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่บนฐานไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสองซึ่งบรรจุอัฐิของท่าน
นอกจากคนโคราชแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยว หรือคนต่างถิ่นที่แวะเวียนมาเยือนเมืองนครราชสีมา ต่างก็มักจะมากราบสักการะย่าโมอยู่เสมอ จนมีคำกล่าวว่า “ใครมาโคราชถ้าไม่ได้ไปไหว้ย่าโม ก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึงโคราช”
ทุก ๆ ปี จะมีการจัด งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) ขึ้นในช่วงระหว่าง วันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งงานประจำปีอันยิ่งใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา
ปัจจุบันอนุสาวรีย์ย่าโมเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่เมืองนครราชสีมา เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวโคราช ซึ่งแต่ละวันจะมีคนเดินทางมาสักการะขอพรย่าโมกันไม่ได้ขาด ในหลากหลายเรื่องตามความต้องการสมหวังของแต่ละคน อย่างไรก็ดีมีความเชื่อว่า ห้ามขอในเรื่องไม่ให้ติดทหารกับย่าโมเด็ดขาด เพราะย่าโมท่านเป็นคนรักชาติมาก ใครที่มาขอไม่ให้ติดทหารกับย่าโม นั้นจะได้ผลเป็นตรงกันข้ามคือติดทหารไปรับใช้ชาติแน่นอน
ทั้งนี้หลังเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงโคราชสิ้นสุดลง ในเช้าวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีชาวโคราชจำนวนมากต่างพร้อมใจกันมาร่วมจุดเทียนและวางดอกไม้แสดงความอาลัยให้กับผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี รวมถึงอัญเชิญ พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา และพระสงฆ์จากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร 29 รูป มาสวดมนต์อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อีกด้วย
สำหรับย่าโมถือเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทย โดยเฉพาะคนโคราชให้ความเคารพนับถือ ดังนั้นการกระทำของคนจิตใจต่ำบางคนที่ไปลบหลู่ท่าน ไม่ว่าจะเป็นการนำภาพหน้าตัวเองไปตัดต่อแทนหน้าย่าโม หรือการไปโพสต์โยง แซะ เอาสาแกใจ เพื่อลบหลู่ท่าน จากเหตุการณ์จ่าคลั่งกราดยิงโคราช ซึ่งแม้ในข้อกฎหมายอาจจะไม่สามารถเอาผิดได้ แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นก็ไม่สามารถหนีกฎแห่งกรรมจากการกระทำอันต่ำตมนี้ได้
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR