Youtube :Travel MGR
จากข่าวไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นกำเนิดการแพร่ระบาดมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทำให้หลายๆ คนสนใจอยากรู้เรื่องราวของเมืองนี้มากขึ้น ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร หน้าตาของเมืองนี้เป็นแบบไหน ไปจนถึงเรื่องอาหารการกิน
และเมนูที่ต้องถือว่าเป็นเอกลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ และเป็นอาหารประจำเมืองอู่ฮั่น ก็ได้แก่ “เล่อกันเมี่ยน”
สำหรับเมนู “เล่อกันเมี่ยน” มีความหมายแปลตรงตัวว่า ก๋วยเตี๋ยวร้อนและแห้ง (เมี่ยน แปลว่าก๋วยเตี๋ยว) ได้รับความนิยมอย่างมาทั้งจากชาวเมืองอู่ฮั่นและชาวจีนทั่วไป เมนูนี้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการพิจารณาขอเป็นมรดกโลกด้านอาหารขององค์การ UNESCO ควบคู่กับหม้อไฟของนครฉงชิ่ง นอกจากนั้นยังได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 10 ของเมนูประเภทก๋วยเตี๋ยวของประเทศจีนจากรัฐบาลกลางตั้งแต่ปี 2556
แม้ประวัติและที่มาของเล่อกันเมี่ยนนี้ จะไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ากำเนิดขึ้นได้อย่างไร แต่จากการอ้างอิงในหลักฐานที่มีการจดบันทึกไว้เรื่องหนึ่งพบว่า เล่อกันเมี่ยนน่าจะอยู่คู่กับสังคมจีนเกือบร้อยปีแล้ว
หน้าตาของเมนูนี้ ก็คล้ายๆ กับสปาเก็ตตี้ โดยตัวเส้นนั้นมีสีเหลือง ลักษณะกลมๆ เส้นเล็กคล้ายเส้นบะหมี่ แต่ไม่มีรอยหยักแบบบะหมี่เหลืองที่เราคุ้นเคยกัน เป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวชนิดแห้งไม่มีน้ำซุป นักศึกษาต่างชาติบางคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ในเมืองนี้ถึงกับเรียกเมนูนี้ว่า Chinese Spaghetti ไปเลยด้วยความคล้ายคลึงกัน
ส่วนวิธีการทำเมนูนี้ เริ่มจากพื้นฐานของเส้นก๋วยเตี๋ยวคือการลวกเส้นบะหมี่จนสุก ตักขึ้นพักไว้แล้วคลุกกับน้ำมันงา ก่อนจะนำมากินให้นำเส้นที่เย็นลงแล้วมาผ่านกระบวนการลวกอีกครั้ง แล้วราดด้วยซอสหวานโรยด้วยต้นหอม อาจเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยน้ำมันพริก บางสูตรอาจใช้น้ำมันพริกเสฉวนที่มีสวนผสมของหมาล่าก็เพิ่มรสชาติได้ดี นั่นเป็นวิธีการทำเล่อกันเมี่ยนแบบดั้งเดิม
ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรเล่อกันเมี่ยนให้มีความแตกต่างกันไปจนเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน แต่ก็ต้องมีพื้นฐานเดิมอยู่คือรสชาติของน้ำมันงาและซีอิ๊วขาว รวมถึงกลิ่นกระเทียมและน้ำมันพริก ที่เหลือก็จะแตกต่างกันตรงวัตถุดิบที่ใส่เพิ่มเติม เช่น หมู ปลา ไก่ กุ้ง หรือผลไม้
ชาวอู่ฮั่นนิยมกินเล่อกันเมี่ยนเป็นอาหารเช้าและอาหารกลางวัน หรือในมื้อที่ต้องรีบเร่งแต่ยังต้องการสารอาหารให้แก่ร่างกาย เนื่องมาจากว่าเล่อกันเมี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวแบบแห้ง ไม่มีซุป ไม่หกง่าย เหมาะกับการเดินกินในเวลาสั้นๆ ร้านที่เปิดขายเล่อกันเมี่ยนมักจะเปิดในช่วงเช้า แต่ก็มีร้านที่เปิดขายไปจนดึกดื่นด้วยเช่นกัน มีทั้งร้านอาหารแบบนั่งกิน ร้านแบบต่อแถวซื้อกลับบ้าน (หรือใส่ถ้วยพร้อมกิน) มีการขยายแฟรนชายส์ร้าน ไปจนถึงการพัฒนามาให้อยู่ในรูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เรียกว่าหากใครได้ไปเยือนเมืองอู่ฮั่นก็มักจะได้เห็นเมนูเล่อกันเมี่ยนอยู่ตามท้องถนนทั่วไป เป็นเมนูที่สามารถหากินได้ง่าย และได้รับความนิยมอย่างสูง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
จากข่าวไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต้นกำเนิดการแพร่ระบาดมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทำให้หลายๆ คนสนใจอยากรู้เรื่องราวของเมืองนี้มากขึ้น ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร หน้าตาของเมืองนี้เป็นแบบไหน ไปจนถึงเรื่องอาหารการกิน
และเมนูที่ต้องถือว่าเป็นเอกลักษณ์ เป็นสัญลักษณ์ และเป็นอาหารประจำเมืองอู่ฮั่น ก็ได้แก่ “เล่อกันเมี่ยน”
สำหรับเมนู “เล่อกันเมี่ยน” มีความหมายแปลตรงตัวว่า ก๋วยเตี๋ยวร้อนและแห้ง (เมี่ยน แปลว่าก๋วยเตี๋ยว) ได้รับความนิยมอย่างมาทั้งจากชาวเมืองอู่ฮั่นและชาวจีนทั่วไป เมนูนี้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการพิจารณาขอเป็นมรดกโลกด้านอาหารขององค์การ UNESCO ควบคู่กับหม้อไฟของนครฉงชิ่ง นอกจากนั้นยังได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 10 ของเมนูประเภทก๋วยเตี๋ยวของประเทศจีนจากรัฐบาลกลางตั้งแต่ปี 2556
แม้ประวัติและที่มาของเล่อกันเมี่ยนนี้ จะไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่ากำเนิดขึ้นได้อย่างไร แต่จากการอ้างอิงในหลักฐานที่มีการจดบันทึกไว้เรื่องหนึ่งพบว่า เล่อกันเมี่ยนน่าจะอยู่คู่กับสังคมจีนเกือบร้อยปีแล้ว
หน้าตาของเมนูนี้ ก็คล้ายๆ กับสปาเก็ตตี้ โดยตัวเส้นนั้นมีสีเหลือง ลักษณะกลมๆ เส้นเล็กคล้ายเส้นบะหมี่ แต่ไม่มีรอยหยักแบบบะหมี่เหลืองที่เราคุ้นเคยกัน เป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวชนิดแห้งไม่มีน้ำซุป นักศึกษาต่างชาติบางคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ในเมืองนี้ถึงกับเรียกเมนูนี้ว่า Chinese Spaghetti ไปเลยด้วยความคล้ายคลึงกัน
ส่วนวิธีการทำเมนูนี้ เริ่มจากพื้นฐานของเส้นก๋วยเตี๋ยวคือการลวกเส้นบะหมี่จนสุก ตักขึ้นพักไว้แล้วคลุกกับน้ำมันงา ก่อนจะนำมากินให้นำเส้นที่เย็นลงแล้วมาผ่านกระบวนการลวกอีกครั้ง แล้วราดด้วยซอสหวานโรยด้วยต้นหอม อาจเพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยน้ำมันพริก บางสูตรอาจใช้น้ำมันพริกเสฉวนที่มีสวนผสมของหมาล่าก็เพิ่มรสชาติได้ดี นั่นเป็นวิธีการทำเล่อกันเมี่ยนแบบดั้งเดิม
ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรเล่อกันเมี่ยนให้มีความแตกต่างกันไปจนเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละร้าน แต่ก็ต้องมีพื้นฐานเดิมอยู่คือรสชาติของน้ำมันงาและซีอิ๊วขาว รวมถึงกลิ่นกระเทียมและน้ำมันพริก ที่เหลือก็จะแตกต่างกันตรงวัตถุดิบที่ใส่เพิ่มเติม เช่น หมู ปลา ไก่ กุ้ง หรือผลไม้
ชาวอู่ฮั่นนิยมกินเล่อกันเมี่ยนเป็นอาหารเช้าและอาหารกลางวัน หรือในมื้อที่ต้องรีบเร่งแต่ยังต้องการสารอาหารให้แก่ร่างกาย เนื่องมาจากว่าเล่อกันเมี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวแบบแห้ง ไม่มีซุป ไม่หกง่าย เหมาะกับการเดินกินในเวลาสั้นๆ ร้านที่เปิดขายเล่อกันเมี่ยนมักจะเปิดในช่วงเช้า แต่ก็มีร้านที่เปิดขายไปจนดึกดื่นด้วยเช่นกัน มีทั้งร้านอาหารแบบนั่งกิน ร้านแบบต่อแถวซื้อกลับบ้าน (หรือใส่ถ้วยพร้อมกิน) มีการขยายแฟรนชายส์ร้าน ไปจนถึงการพัฒนามาให้อยู่ในรูปแบบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เรียกว่าหากใครได้ไปเยือนเมืองอู่ฮั่นก็มักจะได้เห็นเมนูเล่อกันเมี่ยนอยู่ตามท้องถนนทั่วไป เป็นเมนูที่สามารถหากินได้ง่าย และได้รับความนิยมอย่างสูง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR