MGR online - บช.ปส.แถลงผลจับเครือข่ายยานรก 10 คดี ได้ผู้ต้องหา 20 ราย ยึดของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด ไอซ์ เกือบ10กก.เฮโรอีน 15 กก.รวมมูลค่ากว่า 240 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่ลำเลียงเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองผบช.ปส. พล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3,พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4 และ พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดจำนวน 10 คดี ผู้ต้องหา 20 ราย โดยสามารถตรวจยึดยาเสพติดของกลางยาบ้า 1.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 9.45 กิโลกรัม ยาอี 8,060 เม็ด เฮโรอีน 15 กิโลกรัม กัญชา 1,105 กิโลกรัม โคเคน 1.5 กรัม เคตามีนชนิดน้ำ 60 ขวด แอลเอสดี 58 ชิ้น พร้อมของกลางรวมมูลค่ากว่า 240 ล้านบาท
พล.ต.ต.วัชระ กล่าวว่า คดีแรกจับกุม นายอาหมื่อ ตองแช อายุ 42 ปี ชาวเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด ไอซ์ 2 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนใส่กระสอบพลาสติกในห้องโดยสารของรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียน ผต 1253 เชียงราย รถจักยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง ทะเบียน 1กธ 7379 เชียงราย อาวุธปืนสั้น ขนาด 9 มม. 1 กระบอก จับกุมได้ที่ถนนพหลโยธิน บ้านหนองแหวน หมู่ 4 อ.แม่จัน จ.เชียงราย หลังจากที่นายอาหมื่อ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามคุ้มกันรถกระบะนายสละ ตองแช อายุ 22 ปี แต่นายสละ ถูกตำรวจวิสามัญเนื่องจากได้ยิงปืนต่อสู้ขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมพร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” ก่อนคุมตัวและของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดี
คดีที่ 2 จับกุมนายชิฟู เยเบียน อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้า 674,000 เม็ด ได้ที่บ้านหนองน้ำขุ่น หมู่ 1 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ต่อเนื่องถนนในหมู่บ้านสวนป่า ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเตรียมลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติบริเวณแนวชายแดนพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ชุดจับกุมสืบสวนจนทราบว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดที่บริเวณสวนป่าบ้านห้วยน้ำขุ่น ม.1 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ..เชียงราย จึงลาดตระเวนตรวจสอบและพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสะพายกระสอบเดินสลับวิ่งอยู่ข้างถนน เมื่อเข้าตรวจค้น ก็ถูกยิงตอบโต้ด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ก่อนที่กลุ่มบุคคลต้องสงสัยจะวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ชุดจับกุมจึงปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวจนสามารถจับกุมนายชิฟู ได้ จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 ดำเนินคดี
อีกคดีตำรวจ ตรวจยึดกัญชาอัดแท่ง 1,100 กิโลกรัม ภายหลังสืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติด ”นายทองคำ” ที่คอยสั่งการจากประเทศลาว จะให้ผู้ร่วมขบวนการนำรถกระบะอีซูซุ ดีแม็ก สีเทา ทะเบียน ผก 562 ขอนแก่น ซึ่งสวมทะเบียนปลอมลำเลียงยาเสพติดตามถนนมิตรภาพ หนองคาย-อุดรธานี เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงบ้านสามพร้าว ถนนสายเลี่ยงเมืองอุดรธานี ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ชุดจับกุมได้แสดงตัวขอตรวจค้นแต่ผู้ขับขี่ ขับรถชนรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ก่อนขับรถหลบหนีไป ตำรวจจึงติดตามไปก่อนจะพบรถดังกล่าวเสียหลักตกลงข้างทาง แต่ผู้ขับขี่ได้หลบหนีเข้าป่าอ้อยไป เมื่อตรวจค้นภายในรถพบกัญชาแห้งอัดแท่ง 25 กระสอบ ซ้อนกันอยู่หลังกระบะ จึงยึดไว้นำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2 ขยายผลจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี
คดีต่อมา จับกุมนายหยีเวิ่ง หรือตี๋ หรือแหวง ลุงชัย อายุ 35 ปี และนายอภิชาติ หรือตั๊ก กะรัตน์ อายุ 37 ปี พร้อมของกลางไอซ์ น้ำหนัก 3.25 กิโลกรัม และยาบ้า 53,000 เม็ด โดยจับกุมนายหยีเวิ่ง ได้หน้าห้องน้ำห้างสรรพสินค้าย่านบางกะปิ และจับกุมนายอภิชาติ ได้ที่โรงแรมในซอยลาดพร้าว 130 ย่านบางกะปิ
พล.ต.ต.กฤษณ์ กล่าวว่า ภายหลังตำรวจสืบสวนทราบว่าจะมีการซื้อขายยาเสพติดกันที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางกะปิ จึงไปตรวจสอบก่อนจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมไอซ์ของกลาง 3 กิโลกรัม ก่อนจะขยายผลตรวจสอบห้องพักของผู้ต้องหาที่แมนชั่นแห่งหนึ่งในซอยนวมินทร์ 42 ย่านบึงกุ่ม พบยาบ้า 53,000 เม็ด และไอซ์อีก 250 กรัม จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยามยามจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
พร้อมกันนี้ ตำรวจยังสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวไทยและต่างชาติได้ 4 ราย ตามโครงการAITF ร่วมกับกรมศุลกากรและหน่วยเกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ตรวจยึดพัสดุต้องสงสัยต้นทางจากประเทศโปรตุเกส ปลายทาง จ.ชลบุรี ก่อนพบยาอีจำนวน 2,260 เม็ด ซุกซ่อนในกล่องป้ายไฟ LED ก่อนขยายผลจับกุม น.ส.วิรสา อินทร์รักษา อายุ 37 ปี และนายชีเนดุ คริสเตียน โอเคเค อายุ 26 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมตรวจยึดยาอีเพิ่มเติมอีก 5,600 เม็ด รวมของกลางยาอีทั้งหมดจำนวน 7,860 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) เข้ามาในราชอาณาจักรฯ และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ไว้ในครอบครองฯ ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
คดีต่อมาจับกุมนายลี ชุน ฮุย และนายลี ชัย ปิง ทั้งคู่เป็นชาวไต้หวัน อายุ 39 ปี พร้อมเฮโรอีน 15 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง โดนบรรจุใส่กระป๋องแป้งและซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประหว่างกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศโดยขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามนำออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมขยายผลถึงผู้จ้างวานในประเทศต้นทางต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกหมายจับได้เร็วๆ นี้ เนื่องจากพบว่ามีการแบ่งหน้าที่เป็นขบวนการ ซึ่งน่าจะมีคนไทยร่วมด้วย
อีกคดีเจ้าหน้าที่ตรวจยึดพัสดุต้องสงสัยต้นทางจากประเทศเยอรมนี ตรวจสอบพบยาอีซุกซ่อนภายในลำโพงบลูทูธ จำนวน 130 เม็ด ต่อมาตำรวจสามารถจับกุม นายบวรวัสส์ จรัสศิริภักดี และ น.ส.อลินนันท์ หอมทรัพย์ พร้อมตรวจค้นห้องพักพบเมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน 50 กรัม,แอลเอสดี 58 ชิ้น,โคคาอีน 1.5 กรัม,กัญชา 5 กิโลกรัม และเงินสดอีก 2 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เอ็กซ์ตาซี)เข้ามาในราชอาณาจักรฯ, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอลเอสดี, เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองฯ และข้อหาอื่นอีกรวม 6 ข้อหา ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
คดีที่ 8 จับกุมนายจรัญ อุดาหน อายุ 29 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 4 ถุง น้ำหนัก 4 กิโลกรัม และรถจักรยานยนต์ 1 คัน โดยจับกุมได้ที่แผงขายของหน้าประตูทางเข้าวัดไตรรัตน์เจริญผล ถ.เพชรเกษม ต.ดอนขุนห้วย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องลานจอดรถปั๊มน้ำมันถ.เพชรเกษม(ขาเข้า) ต.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ภายหลังสืบสวนทราบว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำยาเสพติดในพื้นที่ จ.เพชรบุรี มาส่งให้กับลูกค้าที่ปั๊มน้ำมันริม ถ.เพชรเกษม กระทั่งพบนายจรัญ ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น โดยนายจรัญ รับว่าจะนำยาเสพติดมาส่งให้กับลูกค้า ก่อนพาไปยังจุดนำยาเสพติดไปวางไว้ พบไอซ์วางอยู่บนแผงขายของหน้าประตูทางเข้าวัดไตรรัตน์เจริญผล จึงตรวจยึดและควบคุมตัวนายจรัญ ไปแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย” นำตัวพร้อมส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี
คดีที่ 9 จับกุมนายบี หรือเจมส์ บัววัน อายุ 24 ปี,นายเรืองศักดิ์ หรือโจ้ แก้วสด อายุ 18 ปี,น.ส.สุธาทิพย์ หรือเจน อ่อนวอน อายุ 20 ปี และ น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 17 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด, รถยนต์กระบะ จับกุมได้ที่ริมถนนพหลโยธิน ระหว่างหลัก กม.ที่ 850 – 851 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” และขยายผลต่อไป
และคดีที่ 10 จับกุม น.ส.ทิพวรรณ หรือแอม กงทอง อายุ 21 ปี,นายชนนิกานต์ หรืออาร์ม พันนุช อายุ 19 ปี,นายปกรณ์ หรือแซน เต็มศิริพงศ์ อายุ 32 ปี,นายวารุตน์ หรือบอล กลิ่นเกษร อายุ 33 ปี พร้อมของกลางไอซ์ 2 กรัม,ยาอี 70 เม็ด,เคตามีน ชนิดเกล็ด 123 กรัม และชนิดน้ำ 60 ขวด ตรวจยึดทรัพย์สินรถยนต์ 4 คัน และเครื่องประดับคล้ายทองคำหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 3.6 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่หอพักบนถนนบางแสนสาย4 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 28/12 ซ.4 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ภายหลังตำรวจ บก.ปส.2 ได้ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบและพบว่ามีกลุ่มนักค้ายาเสพติดลักลอบจำหน่ายโดยนำมาวางไว้ตามสถานที่เปลี่ยวในพื้นที่ จ.ชลบุรี กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งสี่คน เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”และ “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” คุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.2