Youtube :Travel MGR
เทศกาล “ตรุษจีน” ใกล้มาถึงแล้ว ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม ซึ่งตรุษจีน ก็คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ถือว่าเป็นวันมงคล เป็นวันที่ทุกคนจะพากันไปเที่ยวรับปีใหม่ อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว และกินอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข
แล้วเพื่อเป็นการร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน “ตระเวนกิน” เลยอยากจะพามิตรรักนักกินทุกคนตามไปอิ่มอร่อยกับอาหารจีนเลิศรสกัน โดยขอพามาที่ภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” (AN AN LAO) ตั้งอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 26 เป็นภัตตาคารจีนเจ้าเก่าแก่ เปิดที่แรกในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อปีพ.ศ. 2523 แล้วก็ได้ส่งตรงความอร่อยจากอำเภอเบตงใต้สุดแดนสยาม มาสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ซอยสุขุมวิท 26 สร้างตำนานรสชาติความอร่อยอันลือชื่อมาถึง 40 ปีแล้ว
เมื่อมาถึงภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” จะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบโปร่งโล่ง กรุกระจกใสรอบร้าน ชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะนั่งหลากหลายให้เลือกนั่งในห้องแอร์เย็นสบาย และยังมีห้องส่วนตัวให้บริการถึง 4 ห้อง เรียกว่าเลือกนั่งกันได้ตามชอบใจ
ส่วนอาหารของทางร้านแน่นอนว่าเน้นนำเสนออาหารจีนสูตรดั้งเดิมสไตล์เบตง ที่ทางร้านคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาตามสูตรเฉพาะ รวมถึงยังมีอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง จีนแคะ และอาหารจีนหลากหลายที่ทางร้านรังสรรค์ขึ้นมา เพื่อให้เป็นเมนูเด็ดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน อีกทั้งยังมีอาหารไทยและอาหารทะเลสดๆ ให้บริการหลากหลาย มีเมนูกว่า 300 รายการให้เลือกสั่งมาลองลิ้มกันอย่างจุใจ โดยทางร้านเน้นคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสดใหม่ แล้วเชฟก็ปรุงอย่างตั้งใจพิถีพิถัน เพื่อให้ได้มาซึ่งเมนูจานเด็ดที่สดใหม่ทุกจาน
สำหรับอาหารจีนจานเด็ดที่ไม่ควรพลาดสั่งมาลองลิ้มเมื่อมาถึงร้านก็มี เป็ดปักกิ่ง (350 บาท+) ที่ถือว่ามีราคาไม่แพง ก็จะได้ลิ้มรสกับเป็ดปักกิ่งเลิศรส ที่เชฟนำเป็ดเชอร์รี่ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี นำมาผ่านกระบวนการปรุงอย่างพิถีพิถันหลายขั้นตอนตามสูตรเด็ดเฉพาะ จนได้เป็ดปักกิ่งที่แล่เอาแต่หนังบางกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นแป้งที่ทางร้านทำเอง นึ่งมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มเป็ดสูตรเด็ดที่ทำเองเช่นกัน แล้วก็มีต้นหอมกับแตงกวามาพร้อมสรรพ
การกินเป็ดปักกิ่งให้อร่อย นำแผ่นแป้งมาแล้วใส่หนังเป็ดลงไป ใส่ต้นหอมกับแตงกวา แล้วราดด้วยนำจิ้ม ห่อม้วนเป็นคำส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมคำโต สัมผัสได้ถึงแป้งที่นิ่มนุ่มกำลังดี ได้รสชาติหนังเป็ดที่กรอบกรุบชุ่มน้ำจิ้มรสหวานนำถูกปากโดนใจยิ่งนัก ส่วนเนื้อเป็ดที่เหลือสามารถเลือกนำไปปรุงอาหารได้ 1 อย่าง ที่ขอแนะนำให้สั่งทำมากินก็คือ เป็ดผัดพริกเกลือรสชาติดีถูกลิ้น
เมนูต่อมาที่ไม่ควรพลาดคือ ไก่เบตง (ครึ่งตัว 400 บาท+ 1 ตัว 800 บาท+) หน้าตาชวนกิน เป็นไก่พันธุ์เบตงนำมาต้มกับน้ำซุปจนเนื้อไก่สุกได้ที่ หั่นเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ แล้วราดด้วยน้ำซีอิ๊วปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ กินไก่เบตงหนังบางเนื้อนุ่มฉ่ำปาก ได้รสชาติน้ำซีอิ๊วรสเค็มกลมกล่อมลิ้น และมีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเด็ดให้จิ้มเพิ่มรสชาติถูกปากยิ่งขึ้นไปอีก
ถัดมาลิ้มลองเมนู เคาหยก (300 บาท+ / 400 บาท+) หรือก็คือหมูอบผักดอง เชฟจะนำหมูสามชั้นเอาไปนึ่งกับผักดองตามสูตรเด็ด อบนานกว่า 4 - 5 ชม. เสิร์ฟมาในหม้อแบบมีควันฉุยชวนกิน จะสั่งหมั่นโถว (80 บาท+) มากินด้วยกันยิ่งเข้ากันดี นำหมั่นโถวจุ่มน้ำเคาหยกรสเค็มๆ ผักดองเปื่อยนุ่ม กินกับหมูสามชั้นเนื้อเปื่อยนิ่มลงตัวเข้ากันดีจริง
มาชิมอีกหนึ่งอาหารเบตงที่ชวนกินคือ ผักน้ำผัดน้ำมันหอย (120 บาท+ / 200 บาท+) ทางร้านคัดสรรผักน้ำสดๆ ส่งตรงมาจากเบตง นำมาผัดกับน้ำมันหอย ใส่กระเทียม (จะสั่งแบบใส่พริกก็ได้) มาร้อนๆ ผักเขียวสดกรอบน่ากินมาก คีบผักเข้าปากเคี้ยวผักน้ำกรุบกรอบสัมผัสได้ถึงความสดของผักน้ำที่ดีมีคุณภาพ รสชาติกลมกล่อมถูกปากดีนักแล
เพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยเมนูนี้ หัวปลากะพงผัดเผ็ด (300 บาท+ / 500 บาท+) สีสันจัดจ้านน่ากิน เชฟเลือกสรรหัวปลากะพงหัวใหญ่ และมีเนื้อปลากะพงสดๆ ด้วย นำมาผัดกับเครื่องแกงใต้ที่โขลกเองตามสูตรเฉพาะ ผัดมาแบบมีน้ำขลุกขลิก ลิ้มรสหัวปลากะพงสดๆ และเนื้อปลากะพงสดหวานเนื้อแน่นนุ่ม ได้รสชาติเครื่องแกงเผ็ดรสจัดจ้านที่ซึมถึงเนื้อในปลาโดนใจปากดีนักเชียว
แล้วมาอิ่มกันต่อกับเมนูซดน้ำอย่าง หัวปลาจีนต้มเผือก (300 บาท+ / 400 บาท+ / 600 บาท+) มีหัวปลาจีนที่ทอดก่อน แล้วนำมาต้มรวมกับเต้าหู้เหลืองเบตง เผือก และใส่ซี่โครงหมูอ่อนด้วย ทุกอย่างต้มรวมกันในน้ำสต็อกไก่ ปรุงรสตามสูตรเด็ด แล้วใส่มาในหม้อไฟ ให้ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ รสกลมกล่อมคล่องคอ หอมกลิ่นเผือกอ่อนๆ ส่วนหัวปลากินเพลินปากดีจริง
นอกจากเมนูเด่นๆ ที่ได้มาแนะนำมาแล้วนี้ ก็ยังมีรายการอาหารจีนอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีกเพียบ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหลอด (200 บาท+) ซี่โครงหมูรมควัน (250 บาท+) ขาห่านอบหม้อดิน (ขาละ 150 บาท+) หอยเชลล์ผัดซอสเอ็กซ์โอ (400 บาท+) และอีกสารพัดอาหารจีนหอเจี๊ยะ ที่ชวนกินแบบอิ่มท้อง เมื่อมายังภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” (AN AN LAO) ตั้งอยู่ที่ 122 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ร้านตั้งอยู่ใน A-Square ตรงข้าม K-Village เข้าได้จากทั้งซอยสุขุมวิท 26 และทางถนนพระรามสี่ มีที่จอดรถบริการ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. ถ้ามากินวันเสาร์ - อาทิตย์ และช่วงเทศกาลควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2261-8188-9 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ananlao.com หรือ Facebook : An An Lao อัน อัน เหลา
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
เทศกาล “ตรุษจีน” ใกล้มาถึงแล้ว ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 25 มกราคม ซึ่งตรุษจีน ก็คือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน ถือว่าเป็นวันมงคล เป็นวันที่ทุกคนจะพากันไปเที่ยวรับปีใหม่ อยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว และกินอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข
แล้วเพื่อเป็นการร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีน “ตระเวนกิน” เลยอยากจะพามิตรรักนักกินทุกคนตามไปอิ่มอร่อยกับอาหารจีนเลิศรสกัน โดยขอพามาที่ภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” (AN AN LAO) ตั้งอยู่ตรงซอยสุขุมวิท 26 เป็นภัตตาคารจีนเจ้าเก่าแก่ เปิดที่แรกในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เมื่อปีพ.ศ. 2523 แล้วก็ได้ส่งตรงความอร่อยจากอำเภอเบตงใต้สุดแดนสยาม มาสู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ซอยสุขุมวิท 26 สร้างตำนานรสชาติความอร่อยอันลือชื่อมาถึง 40 ปีแล้ว
เมื่อมาถึงภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” จะได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบโปร่งโล่ง กรุกระจกใสรอบร้าน ชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะนั่งหลากหลายให้เลือกนั่งในห้องแอร์เย็นสบาย และยังมีห้องส่วนตัวให้บริการถึง 4 ห้อง เรียกว่าเลือกนั่งกันได้ตามชอบใจ
ส่วนอาหารของทางร้านแน่นอนว่าเน้นนำเสนออาหารจีนสูตรดั้งเดิมสไตล์เบตง ที่ทางร้านคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาตามสูตรเฉพาะ รวมถึงยังมีอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง จีนแคะ และอาหารจีนหลากหลายที่ทางร้านรังสรรค์ขึ้นมา เพื่อให้เป็นเมนูเด็ดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของทางร้าน อีกทั้งยังมีอาหารไทยและอาหารทะเลสดๆ ให้บริการหลากหลาย มีเมนูกว่า 300 รายการให้เลือกสั่งมาลองลิ้มกันอย่างจุใจ โดยทางร้านเน้นคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสดใหม่ แล้วเชฟก็ปรุงอย่างตั้งใจพิถีพิถัน เพื่อให้ได้มาซึ่งเมนูจานเด็ดที่สดใหม่ทุกจาน
สำหรับอาหารจีนจานเด็ดที่ไม่ควรพลาดสั่งมาลองลิ้มเมื่อมาถึงร้านก็มี เป็ดปักกิ่ง (350 บาท+) ที่ถือว่ามีราคาไม่แพง ก็จะได้ลิ้มรสกับเป็ดปักกิ่งเลิศรส ที่เชฟนำเป็ดเชอร์รี่ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี นำมาผ่านกระบวนการปรุงอย่างพิถีพิถันหลายขั้นตอนตามสูตรเด็ดเฉพาะ จนได้เป็ดปักกิ่งที่แล่เอาแต่หนังบางกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับแผ่นแป้งที่ทางร้านทำเอง นึ่งมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มเป็ดสูตรเด็ดที่ทำเองเช่นกัน แล้วก็มีต้นหอมกับแตงกวามาพร้อมสรรพ
การกินเป็ดปักกิ่งให้อร่อย นำแผ่นแป้งมาแล้วใส่หนังเป็ดลงไป ใส่ต้นหอมกับแตงกวา แล้วราดด้วยนำจิ้ม ห่อม้วนเป็นคำส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมคำโต สัมผัสได้ถึงแป้งที่นิ่มนุ่มกำลังดี ได้รสชาติหนังเป็ดที่กรอบกรุบชุ่มน้ำจิ้มรสหวานนำถูกปากโดนใจยิ่งนัก ส่วนเนื้อเป็ดที่เหลือสามารถเลือกนำไปปรุงอาหารได้ 1 อย่าง ที่ขอแนะนำให้สั่งทำมากินก็คือ เป็ดผัดพริกเกลือรสชาติดีถูกลิ้น
เมนูต่อมาที่ไม่ควรพลาดคือ ไก่เบตง (ครึ่งตัว 400 บาท+ 1 ตัว 800 บาท+) หน้าตาชวนกิน เป็นไก่พันธุ์เบตงนำมาต้มกับน้ำซุปจนเนื้อไก่สุกได้ที่ หั่นเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ แล้วราดด้วยน้ำซีอิ๊วปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวหอมๆ กินไก่เบตงหนังบางเนื้อนุ่มฉ่ำปาก ได้รสชาติน้ำซีอิ๊วรสเค็มกลมกล่อมลิ้น และมีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสเด็ดให้จิ้มเพิ่มรสชาติถูกปากยิ่งขึ้นไปอีก
ถัดมาลิ้มลองเมนู เคาหยก (300 บาท+ / 400 บาท+) หรือก็คือหมูอบผักดอง เชฟจะนำหมูสามชั้นเอาไปนึ่งกับผักดองตามสูตรเด็ด อบนานกว่า 4 - 5 ชม. เสิร์ฟมาในหม้อแบบมีควันฉุยชวนกิน จะสั่งหมั่นโถว (80 บาท+) มากินด้วยกันยิ่งเข้ากันดี นำหมั่นโถวจุ่มน้ำเคาหยกรสเค็มๆ ผักดองเปื่อยนุ่ม กินกับหมูสามชั้นเนื้อเปื่อยนิ่มลงตัวเข้ากันดีจริง
มาชิมอีกหนึ่งอาหารเบตงที่ชวนกินคือ ผักน้ำผัดน้ำมันหอย (120 บาท+ / 200 บาท+) ทางร้านคัดสรรผักน้ำสดๆ ส่งตรงมาจากเบตง นำมาผัดกับน้ำมันหอย ใส่กระเทียม (จะสั่งแบบใส่พริกก็ได้) มาร้อนๆ ผักเขียวสดกรอบน่ากินมาก คีบผักเข้าปากเคี้ยวผักน้ำกรุบกรอบสัมผัสได้ถึงความสดของผักน้ำที่ดีมีคุณภาพ รสชาติกลมกล่อมถูกปากดีนักแล
เพิ่มรสชาติจัดจ้านด้วยเมนูนี้ หัวปลากะพงผัดเผ็ด (300 บาท+ / 500 บาท+) สีสันจัดจ้านน่ากิน เชฟเลือกสรรหัวปลากะพงหัวใหญ่ และมีเนื้อปลากะพงสดๆ ด้วย นำมาผัดกับเครื่องแกงใต้ที่โขลกเองตามสูตรเฉพาะ ผัดมาแบบมีน้ำขลุกขลิก ลิ้มรสหัวปลากะพงสดๆ และเนื้อปลากะพงสดหวานเนื้อแน่นนุ่ม ได้รสชาติเครื่องแกงเผ็ดรสจัดจ้านที่ซึมถึงเนื้อในปลาโดนใจปากดีนักเชียว
แล้วมาอิ่มกันต่อกับเมนูซดน้ำอย่าง หัวปลาจีนต้มเผือก (300 บาท+ / 400 บาท+ / 600 บาท+) มีหัวปลาจีนที่ทอดก่อน แล้วนำมาต้มรวมกับเต้าหู้เหลืองเบตง เผือก และใส่ซี่โครงหมูอ่อนด้วย ทุกอย่างต้มรวมกันในน้ำสต็อกไก่ ปรุงรสตามสูตรเด็ด แล้วใส่มาในหม้อไฟ ให้ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ รสกลมกล่อมคล่องคอ หอมกลิ่นเผือกอ่อนๆ ส่วนหัวปลากินเพลินปากดีจริง
นอกจากเมนูเด่นๆ ที่ได้มาแนะนำมาแล้วนี้ ก็ยังมีรายการอาหารจีนอื่นๆ ที่ชวนลิ้มลองอีกเพียบ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหลอด (200 บาท+) ซี่โครงหมูรมควัน (250 บาท+) ขาห่านอบหม้อดิน (ขาละ 150 บาท+) หอยเชลล์ผัดซอสเอ็กซ์โอ (400 บาท+) และอีกสารพัดอาหารจีนหอเจี๊ยะ ที่ชวนกินแบบอิ่มท้อง เมื่อมายังภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ภัตตาคาร “อัน อัน เหลา” (AN AN LAO) ตั้งอยู่ที่ 122 ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ร้านตั้งอยู่ใน A-Square ตรงข้าม K-Village เข้าได้จากทั้งซอยสุขุมวิท 26 และทางถนนพระรามสี่ มีที่จอดรถบริการ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น. ถ้ามากินวันเสาร์ - อาทิตย์ และช่วงเทศกาลควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2261-8188-9 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ananlao.com หรือ Facebook : An An Lao อัน อัน เหลา
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR