Youtube :Travel MGR
เพจกรมอุทยานฯ เผยภาพ ดอกนางพญาเสือโคร่งดอยขุนสถาน กำลังเบ่งบานสวยงาม โดยเฉพาะที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ซึ่งปลูกนางพญาเสือโคร่งมากที่สุดในพื้นที่
ฤดูหนาวปีนี้ มีอากาศหนาวเย็นกว่าทุกปี ส่งผลให้ต้นนางพญาเสือโคร่งในหลายพื้นที่ ออกดอกเบ่งบานเร็วกว่าปกติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือที่ “ดอยขุนสถาน” อ.นาน้อย จ.น่าน โดยทางเพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพและข้อมูลระบุว่า ช่วงนี้ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย บนดอยขุนสถานกำลังออกดอกเบ่งบานสวยงาม โดยเฉพาะที่ “สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน” ซึ่งมีการปลูกนางพญาเสือโคร่งมากที่สุดบนดอยแห่งนี้
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน อยู่เลยจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถานไปประมาณ 2 กม. สามารถขับรถเก๋งขึ้นดอยไปได้สบาย ๆ แม้เส้นทางจะมีความชันและคดโค้ง แต่ว่าก็ไม่มากเกินไป
บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดน้ำแหงก่อนที่จะไหลมารวมกับลำน้ำอื่น ๆ ในลุ่มน้ำน่าน ซึ่งทางสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ได้ดูแลพื้นที่และปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ต้นน้ำให้อุดมสมบูรณ์ โดยได้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งภายในและริมถนนด้านหน้าสถานีวิจัยฯ
ทุก ๆ ปีในช่วงฤดูหนาว เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมดอกนางพญาเสือโคร่งบนดอยขุนสถานจะพร้อมใจกันเบ่งบาน โดยเฉพาะที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ซึ่งมีการปลูกยางพญาเสือโคร่งจำนวนมาก เป็นดงขนาดใหญ่ต้นโตสูง ซึ่งเมื่อยามออกดอกพร้อมกันคงจะกลายเป็นบรรยากาศสีชมพูสะพรั่งดูงดงามน่าประทับใจ
นอกจากนี้ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานยังมีบ้านพักให้บริการจำนวนหนึ่ง (แต่อาจจะจองยากหน่อย เพราะคนแย่งกันจอง) แต่เราสามารถกางเต็นท์ชมความงามได้ เนื่องจากภายในสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีลานกางเต็นท์ให้บริการ (ประมาณ 100 หลัง) หรือจะกางเต็นท์นอนที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน และสามารถขับรถมาชมหรือมาถ่ายภาพที่สถานีฯ ก็ได้เช่นกัน
สำหรับ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” หรือที่ได้รับฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย” เป็นต้นไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น คือ วงศ์กุหลาบ (Rosaceae)
นางพญาเสือโคร่งอยู่ในสกุล Prunus เช่นเดียวกับต้นเชอร์รี แอปริคอต พลัม แอปเปิลท้อ และ สาลี่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น
ต้นนางพญาเสือโคร่งมักจะขึ้นตามไหล่เขา หรือบนสันเขา บริเวณเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ที่มีอากาศหนาวเย็น พบมากในภาคเหนือและอีสาน ทั้งตามธรรมชาติและตามแหล่งปลูกต่าง ๆ โดยในขณะนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งในหลาย ๆ แห่งได้เริ่มผลิบานให้เราได้ชมความสวยงามกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ ภูลมโล (จ.เลย) โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ (จ.เชียงใหม่) และที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดที่พัก การเดินทาง และข้อมูลการบานของดอกนางพญาเสือโคร่งบนดอยขุนสถานได้ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทร. 08-1602-3199, 09-0050-1049, 08-7286-3672
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
เพจกรมอุทยานฯ เผยภาพ ดอกนางพญาเสือโคร่งดอยขุนสถาน กำลังเบ่งบานสวยงาม โดยเฉพาะที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ซึ่งปลูกนางพญาเสือโคร่งมากที่สุดในพื้นที่
ฤดูหนาวปีนี้ มีอากาศหนาวเย็นกว่าทุกปี ส่งผลให้ต้นนางพญาเสือโคร่งในหลายพื้นที่ ออกดอกเบ่งบานเร็วกว่าปกติ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือที่ “ดอยขุนสถาน” อ.นาน้อย จ.น่าน โดยทางเพจ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ภาพและข้อมูลระบุว่า ช่วงนี้ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย บนดอยขุนสถานกำลังออกดอกเบ่งบานสวยงาม โดยเฉพาะที่ “สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน” ซึ่งมีการปลูกนางพญาเสือโคร่งมากที่สุดบนดอยแห่งนี้
สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ตั้งอยู่ที่ อ.นาน้อย จ.น่าน อยู่เลยจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถานไปประมาณ 2 กม. สามารถขับรถเก๋งขึ้นดอยไปได้สบาย ๆ แม้เส้นทางจะมีความชันและคดโค้ง แต่ว่าก็ไม่มากเกินไป
บริเวณนี้ถือเป็นพื้นที่ต้นกำเนิดน้ำแหงก่อนที่จะไหลมารวมกับลำน้ำอื่น ๆ ในลุ่มน้ำน่าน ซึ่งทางสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ได้ดูแลพื้นที่และปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่ต้นน้ำให้อุดมสมบูรณ์ โดยได้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งภายในและริมถนนด้านหน้าสถานีวิจัยฯ
ทุก ๆ ปีในช่วงฤดูหนาว เมื่อถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมดอกนางพญาเสือโคร่งบนดอยขุนสถานจะพร้อมใจกันเบ่งบาน โดยเฉพาะที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ซึ่งมีการปลูกยางพญาเสือโคร่งจำนวนมาก เป็นดงขนาดใหญ่ต้นโตสูง ซึ่งเมื่อยามออกดอกพร้อมกันคงจะกลายเป็นบรรยากาศสีชมพูสะพรั่งดูงดงามน่าประทับใจ
นอกจากนี้ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานยังมีบ้านพักให้บริการจำนวนหนึ่ง (แต่อาจจะจองยากหน่อย เพราะคนแย่งกันจอง) แต่เราสามารถกางเต็นท์ชมความงามได้ เนื่องจากภายในสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีลานกางเต็นท์ให้บริการ (ประมาณ 100 หลัง) หรือจะกางเต็นท์นอนที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน และสามารถขับรถมาชมหรือมาถ่ายภาพที่สถานีฯ ก็ได้เช่นกัน
สำหรับ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” หรือที่ได้รับฉายาว่า “ซากุระเมืองไทย” เป็นต้นไม้ที่จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น คือ วงศ์กุหลาบ (Rosaceae)
นางพญาเสือโคร่งอยู่ในสกุล Prunus เช่นเดียวกับต้นเชอร์รี แอปริคอต พลัม แอปเปิลท้อ และ สาลี่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ชอบอากาศหนาวเย็น
ต้นนางพญาเสือโคร่งมักจะขึ้นตามไหล่เขา หรือบนสันเขา บริเวณเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ที่มีอากาศหนาวเย็น พบมากในภาคเหนือและอีสาน ทั้งตามธรรมชาติและตามแหล่งปลูกต่าง ๆ โดยในขณะนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งในหลาย ๆ แห่งได้เริ่มผลิบานให้เราได้ชมความสวยงามกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่ ภูลมโล (จ.เลย) โครงการอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ (จ.เชียงใหม่) และที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน เป็นต้น
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดที่พัก การเดินทาง และข้อมูลการบานของดอกนางพญาเสือโคร่งบนดอยขุนสถานได้ที่ สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน โทร. 08-1602-3199, 09-0050-1049, 08-7286-3672
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR