xs
xsm
sm
md
lg

"สงขลา" เมืองไมซ์ ชมพิพิธภัณฑ์ผ้าเมืองใต้ล้ำค่า ลูกปัดโนราห์สู่ผลิตภัณฑ์เก๋ไก๋

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Youtube :Travel MGR



"สงขลา" นอกจากจะเป็นหัวเมืองใหญ่ในภาคใต้ เป็นเมืองน่าเที่ยวชมที่มากไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและของกินอร่อยๆ แล้ว ทาง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) หรือ "ทีเส็บ" (TCEB) ยังชูให้สงขลาเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความโดดเด่นสำหรับการจัดกิจกรรม MICE ด้วย (การจัดประชุม - Meetings, การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล - Incentives, การประชุมวิชาชีพ - Conventions และการแสดงสินค้านานาชาติ - Exhibitions)

ทาง TCEB ได้พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ไมซ์ใหม่ในพื้นที่ไมซ์ซิตี้และเมืองรองใกล้เคียง อย่างเช่นในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งมีภูเก็ตเป็นไมซ์ซิตี้ ก็ได้ขยายพื้นที่ให้นครศรีธรรมราชและสงขลาเป็นเมืองรองสำหรับคนที่กำลังมองหาสถานที่เหมาะๆ สำหรับกลุ่มไมซ์ด้วย

สำหรับนักท่องเที่ยวเชิงธุรกิจหรือกลุ่มไมซ์ที่ไม่ได้อยากมาเจอแต่ห้องสี่เหลี่ยมเพียงอย่างเดียว แต่อยากจะทำกิจกรรมใหม่ๆ เพื่อเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ "สงขลา" ก็มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลายแห่งที่มีศักยภาพ มีความน่าสนใจและมีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์ได้ ที่เราอยากนำมาแนะนำกันในวันนี้

ปัญญา พูนสิน และผืนผ้าแดนใต้
เริ่มจากในอำเภอเมือง ในย่านเมืองเก่าบนถนนนครใน ที่ “238 Inspiration House” พิพิธภัณฑ์ผ้าเมืองใต้แห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมผ้าโบราณหายากมากกว่า 1,000 ผืน ที่มี ปัญญา พูนสิน เป็นเจ้าของและยังเป็นผู้นำชมด้วยตัวเอง โดย 238 นั้นเป็นเลขที่บ้าน โดยปัญญาตั้งใจว่าอยากให้บ้านหลังนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมทุกคน

ปัญญาโชว์ผ้าผืนงามให้ได้ชม
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวที่ยินดีต้อนรับผู้ที่สนใจเรื่องราวของผืนผ้า แต่เนื่องจากเจ้าของยังคงทำงานประจำ จึงต้องมีการพูดคุยนัดหมายกันก่อนเข้าชม แต่หากได้มาชมแล้วรับรองว่าคนรักผ้าจะไม่ผิดหวังเลย เพราะที่นี่เก็บรักษาผ้าโบราณล้ำค่าของเมืองใต้ไว้มากมาย โดยปัญญาเล่าถึงความตั้งใจรวบรวมผืนผ้าเหล่านี้ว่า เห็นว่าทางภาคเหนือ ภาคกลางภาคหรืออีสานมีคนเก็บรวบรวมผ้าเอาไว้มากมาย และสามารถนำไปอนุรักษ์ฟื้นฟูหรือต่อยอดต่างๆ ได้ แต่ทางภาคใต้ยังไม่มีก็เลยคิดอยากทำ เพราะเมืองสงขลานี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมองว่าผ้าก็เป็นสิ่งที่บอกว่าประวัติศาสตร์ได้

“ผมใช้เวลาเก็บรวบรวมผ้าประมาณ 5 ปี มีอยู่ประมาณ 1,000 ผืน โดยสงขลาเป็นเมืองท่าสำคัญที่มีคนชนชาติต่างๆ เดินทางเข้ามาค้าขายตั้งแต่โบราณ ผ้าที่รวบรวมไว้ก็เลยพบทั้งผ้าเก่าของอินเดีย พม่า ผ้าตระกูลมลายู รวมไปถึงผ้าจากอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลางด้วย อย่างที่เก่าแก่มากๆ ก็ผ้าซิ่นอินเลของพม่าอายุ 120 ปี ผ้าอินเดียอายุ 80 ปี ผ้าซองเก็ตของมลายูก็มีอายุตั้งแต่ 80-100 ปี แล้วก็มีผ้าปะลางิงซึ่งเป็นผ้าโบราณที่ใช้เทคนิคเย็บย้อมซึ่งค่อนข้างยาก เทคนิคการทำผ้าแบบนี้เกือบสูญหายไปแล้ว เพิ่งจะมีการฟื้นฟูใหม่ในช่วงหลัง นอกจากนั้นก็ยังมีผ้าไหมมัดหมี่ของภาคอีสาน แต่มีความแตกต่างที่กระบวนลายและสี เลยเป็นข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นการสั่งให้ทอขึ้นที่ภาคใต้ หรือมัดลายย้อมส่งมาแล้วมาทอที่ภาคใต้ก็เป็นไปได้”

เกราะอกของหญิงสูงศักดิ์
นอกจากนั้นปัญญายังโชว์ผ้าชิ้นไฮไลท์คือ “เสื้อทองคำ” ซึ่งทอด้วยเส้นทองคำที่ดึงให้เล็กเท่ากับเส้นไหม แล้วนำมาทอสลับกับไหม เสื้อแบบนี้ใช้สำหรับผู้มีฐานะทางสังคมอย่างเจ้าเมือง และ “เกราะอก” ซึ่งเป็นเสื้อเกราะสำหรับผู้หญิงสูงศักดิ์ ลักษณะกลมเหมือนกะลา ด้านนอกเป็นเงินผสมทองคำตอกลายเครือเถาแบบมลายู ส่วนด้านในเป็นดินเผากรุด้วยผ้าไหม มีอายุประมาณ 300 ปี นับเป็นของหายากที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ หากใครสนใจอยากติดต่อเข้าชมสามารถโทรมาก่อนได้ที่ 09 4598 1299

ด้านหน้า A.E.Y. Space
ไม่ไกลจาก 238 Inspiration House เป็นที่ตั้งของ “A.E.Y. Space” ตึกโบราณในย่านเก่าแก่กลางเมืองสงขลาบนถนนนางงาม ที่ได้รับการรีโนเวทใหม่จนกลายเป็นอาร์ตแกลอรี่ ด้วยความตั้งใจของ เอ๋ ปกรณ์ รุจิระวิไล ชาวสงขลาที่เรียนจบด้านศิลปะมาจากนิวยอร์ก กลับมาปรับปรุงบ้านเก่าสภาพทรุดโทรมให้เป็นพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ในชื่อ “A.E.Y. Space” โดยชั้นล่างเปิดพื้นที่ให้ศิลปินหลากฝีมือได้มาแสดงผลงาน และยังมีห้อง Theatre เล็กๆ สำหรับฉายหนัง หรือเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมสำหรับกลุ่มขนาดเล็กได้ด้วย

ส่วนชั้นบนนั้นจัดไว้เป็นพื้นที่สำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยน รวมถึงเป็นห้องพักสำหรับศิลปินที่นำผลงานมาจัดแสดง ซึ่งจัดตกแต่งไว้แบบมีสไตล์ โดยล่าสุดอาคารหลังนี้ก็ได้รับรางวัลด้านสถาปัตยกรรมจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย สนใจอยากมาชมหรือมาจัดกิจกรรมที่นี่ติดต่อได้ที่โทร.09 5649 9656

ด้านล่างเป็นแกลอรี่จัดแสดงงานศิลปะ

ด้านบนเป็นที่พักที่นั่งพูดคุยของศิลปิน

เตรียมลงเรือชมบรรยากาศเกาะยอ
เมื่อมาถึงสงขลาแล้วก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวชมทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะที่เกาะยอ ซึ่งเป็นชุมชนพื้นบ้านเก่าแก่ภายในทะเลสาบที่ยังรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้ ทั้งการทำนา ทำสวนผลไม้ เลี้ยงปลากะพงในกระชัง รวมถึงการทอผ้าเกาะยอที่มีชื่อเสียงอีกด้วย โดยวันนี้เราได้นั่งเรือล่องชมบรรยากาศวิถีประมงพื้นบ้านและทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะยอที่จัดโดย “ชมรมการท่องเที่ยวเกาะยอ” ชมทิวทัศน์ยามเย็นงดงามท่ามกลางลมเย็นของทะเลสาบ และยังได้ลิ้มรสยำสาหร่ายผมนาง ซึ่งเป็นเมนูอาหารถิ่นน่าลิ้มลองซึ่งหาชิมได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น สามารถติดต่อเพื่อนั่งเรือกับทางชมรมได้ที่ โทร. 08 1872 5206, 08 4998 0328

ทิวทัศน์ทะเลสาบสงขลา

ชุดโนราห์ที่ใช้ลูกปัดตกแต่ง
มาต่อกันที่ชุมชนบ้านขาว อำเภอระโนด ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “วิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์หัตถกรรมลูกปัดมโนราห์ บ้านขาว” ที่มี ป้อม เนติพงศ์ ไล่สาม ทายาทช่างศิลปหัตกรรมของ SACICT เป็นผู้ต่อยอดนำลูกปัดเม็ดจิ๋วที่ใช้ร้อยประดับบนชุดรำอันงดงามของโนรา มาปรับเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งเครื่องประดับ สร้อยคอ ต่างหู กระเป๋าถือ โคมไฟ ฯลฯ

เนติพงศ์เล่าให้ฟังถึงที่มาของวิสาหกิจชุมชนฯ ว่าแต่เดิมครอบครัวก็ทำชุดมโนราห์เพื่อใช้ในการแสดงอยู่แล้ว โดยชุดนั้นก็ต้องใช้ลูกปัดเพื่อประดับตกแต่งเป็นลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ทำเป็นตัวห้อยระย้า เวลาโนราสะบัดก็จะดูพลิ้วเหมือนขนนก

ลูกปัดนำมาร้อยทำเป็นเครื่องใช้ต่างๆ

เนติพงศ์ ไล่สาม และผ้าคล้องคอทำจากลูกปัด
ต่อมาเนติพงศ์ก็ได้ต่อยอดนำลูกปัดมโนราห์มาออกแบบดัดแปลงให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งของของใช้ของแต่งบ้าน เช่น แจกัน โคมไฟ ม่าน มู่ลี่ ผ้าปูโต๊ะ กระเป๋า ไปจนถึงเครื่องประดับอย่างต่างหู สร้อย หรือทำตามออร์เดอร์ของลูกค้า โดยทำในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี และยังนำสินค้าออกขายในแบรนด์ NATIPONG อีกด้วย

นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่นอกจากจะมาเลือกซื้อของน่ารักๆ ที่ทำจากลูกปัดแล้ว ก็จะได้มาทำเวิร์กช้อปการร้อยลูกปัดเป็นลวดลายต่างๆ โดยจะมีคนคอยช่วยและแนะนำขั้นตอนการทำ และสามารถเอาชิ้นงานกลับล้านได้เลย พร้อมกันก็มีการแสดงรำมโนราห์โดยเด็กๆ ในชุมชนบ้านขาวให้ชมกัน ติดต่อสอบถามได้ที่โทร. 08 8828 9922

ทดลองเวิร์กช้อปร้อยลูกปัดโนราห์

อาจารย์ผดุงเกียรติโชว์การขึ้นรูปเครื่องปั้นดินเผา
อีกหนึ่งเวิร์กช้อปที่น่าสนใจคือการมาทดลองทำเครื่องปั้นดินเผาที่ “Potter House” ใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งที่นี่เป็นบ้านและที่ทำงานของอาจารย์ผดุงเกียรติ รัตนศรี ศิลปินเซรามิกของสงขลา ที่มีผลงานการปั้นเซรามิกหลากหลายรูปแบบ

ผู้ที่ชื่นชอบเครื่องปั้นดินเผาสามารถมาเลือกช้อปสินค้าเครื่องปั้นเซรามิกสวยๆ ที่ทำขึ้นเป็นของใช้หลากหลาย และมีสีสันต่างกันไป ทั้งแบบดินเผาแดงด้าน และเผาเคลือบเป็นสีต่างๆ และยังสามารถมาเรียนรู้หรือจัดกิจกรรมการทำเซรามิกผ่านการเวิร์กชอป ทดลองปั้นชิ้นงานและลงสีด้วยตัวเองอีกด้วย สอบถามโทร. 09 3191 6364


เลือกซื้อเลือกหากันอย่างเพลิดเพลิน



อาหารฟิวชันจานเด็ดของร้าน PUN Eatery and Pottery
ในบริเวณเดียวกันกับ Potter House เป็นที่ตั้งของ "PUN Eatery and Pottery" ซึ่งเป็นร้านอาหารของเชฟปั้น คุณัชญ์ รัตนศรี ลูกชายของอาจารย์ผดุงเกียรติ ที่รังสรรค์อาหารไทยฟิวชันแปลกใหม่รสชาติดีและอาหารนานาชาติ เสิร์ฟมาบนจานเครื่องปั้นดินเผาฝีมือของพ่อ ผู้ที่มาชิมอาหารจึงได้ทั้งลิ้มลองอาหารอร่อยบนจานสวยๆ ซึ่งหากถูกใจใบไหนก็สามารถขอซื้อกลับไปเป็นเจ้าของได้เลย

สำหรับคนที่อยากมาจัดกิจกรรมที่นี่ก็สามารถเลือกได้ทั้งกิจกรรมเกี่ยวกับอาหาร เช่น เรียนการทำอาหารไทยฟิวชัน หรือจัดงานเลี้ยงพิเศษในสไตล์ Chef Table หรือกิจกรรมเกี่ยวกับเซรามิกที่ Potter House หรือจะจัดควบคู่กันไปก็ได้ สอบถามโทร. 08 2827 9154 หรือเฟซบุค PUN Eatery and Pottery

บรรยากาศด้านหน้าร้าน PUN Eatery and Pottery
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager



กำลังโหลดความคิดเห็น