Facebook :Travel @ Manager
เวลาที่ท้องร้องหิวอาหาร แน่นอนว่าเราก็ต้องรีบดับความหิว ด้วยการเมียงมองหาร้านอาหารที่ดูดีชวนนั่ง และมีอาหารที่ชวนกิน เหมือนที่ในมื้อนี้เมื่อ “ตระเวนกิน” ผ่านมาแถวศาลาแดงซอย 1 กระเพาะน้อยๆ ก็ร้องเสียงดังเรียกร้องอยากจะกินอาหารอร่อยๆ ให้อิ่มแน่นท้อง
หลังจากที่เรามองหาร้านอาหารอยู่ไม่นาน สายตาก็มาสะดุดเข้ากับร้านแห่งนี้ “หุงเส้น” ที่แค่เห็นชื่อร้านก็โดนใจ เพราะว่าเราชื่นชอบกินเมนูเส้นอยู่แล้ว แถมด้านหน้าร้านบอกว่ามีก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ เราจึงไม่รีรอรีบเปิดประตูเดินเข้าร้านทันที
เมื่อเข้ามายังด้านในร้านก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแนวโมเดิร์นเก๋ไก๋มีสไตล์ ดูโล่งโปร่งสบายด้วยเพดานสูง ภายในร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมีโต๊ะนั่งแบบโซฟายาวสีน้ำเงิน ที่ผนังอิฐประดับตกแต่งด้วยรูปภาพเมนูอาหารที่ล้วนแล้วแต่น่ากินทั้งนั้น เดินขึ้นมาที่ชั้นบนมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมตามชอบใจ บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นกันเองชวนนั่งสบายๆ และที่ผนังก็มีภาพอาหารหลากหลายเมนูประดับไว้เช่นกัน ซึ่งภาพอาหารเหล่านี้ช่างยั่วยวนใจชวนให้อยากกินอาหารเสียเหลือเกิน
เมื่อขอเมนูอาหารมาเปิดดู ก็ทำให้เราถึงกับต้องร้องอู้ฮู!! เพราะว่าอาหารของที่นี่ไม่ได้มีแค่เมนูเส้นเท่านั้น ทว่ายังมีอาหารไทยหลายหลาก มีทั้งอาหารจานเดียวจานด่วน ของกินเล่น และอาหารไทยจานหลักให้สั่งมากินกับข้าวกันได้แบบอิ่มท้อง เรียกว่ามีเมนูอาหารไทยที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเองเป็นพิเศษโดยเฉพาะให้ได้เลือกลิ้มลองเป็น 100 เมนู และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ซึ่งอาหารของที่นี้ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้ม เพราะทางร้านใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบที่คัดสรรแต่ของดี มีคุณภาพ มีความสดใหม่ และเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมียม มาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนกินมากมาย
อย่างเมนูจานเด็ดที่ได้ลองลิ้มจนติดใจ แล้วต้องขอแนะนำก็มี ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยหมูคุโรบูตะ (135 บาท+) สามารถเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ มีทั้งเส้นหมี่ขาว เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เกี้ยมอี๋ วุ้นเส้น มาม่า ในชามมีเครื่องสารพัดอย่างใส่มา มีหมูสับ หมูเด้งที่ทางร้านทำเอง หมูแดงก็ทำเองเช่นกัน ลูกชิ้นหมู เนื้อหมูคุโรบูตะ ใส่กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาว แผ่นเกี้ยวทอดกรอบ และไข่ต้มยางมะตูม ทางร้านจะปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ชิมก๋วยเตี๋ยวรสชาติถูกปากรสเข้มข้นเปรี้ยวหวานกลมกล่อมลิ้นดี เครื่องเคราพวกหมูทุกอย่างที่ใส่มาเคี้ยวนุ่มโดนใจ
เมนูเส้นถัดมาที่ชวนกิน คือ ข้าวซอยไก่ (115 บาท+) เป็นข้าวซอยสูตรทางเหนือที่ทางร้านนำมาปรับสูตรให้เป็นของตัวเองโดยเฉพาะ ข้าวซอยไก่รสเด็ดโดดเด่นตรงน้ำซุปรสจัดจ้านเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเองปรุงรสกับน้ำกะทิเข้มข้น หอมกรุ่นเครื่องเทศกำลังดี เส้นข้าวซอยเป็นบะหมี่เส้นแบนที่เหนียวนุ่มเคี้ยวละมุนลิ้น ส่วนไก่เป็นเนื้อส่วนสะโพกกับน่องที่ตุ๋นรวมกับเครื่องแกงจนนุ่มได้ที่ เนื้อไก่เคี้ยวนุ่มถูกปาก มีเส้นข้าวซอยทอดกรอบให้เคี้ยวกรุบกรอบ และมาพร้อมผักเครื่องเคียงครบสูตร พร้อมกับพริกคั่วที่ทางร้านคั่วเอง มีความหอมและเผ็ดลิ้นมาก
อีกหนึ่งเมนูจานเส้นชวนลิ้มรส คือ ก๋วยเตี๋ยวกุ้งใหญ่ผัดมันกุ้ง (160 บาท+) หน้าตาน่ากินมาก ทางร้านนำเส้นใหญ่ไปผัดกับมันกุ้งแท้ๆ ที่โขลกรวมกับเครื่องเทศไทยด้วย ผัดให้เส้นและมันกุ้งเข้ากันจนได้ที่แบบแห้งหน่อย มีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ทอดใส่มาด้วย พร้อมกับมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดที่ใช้เฉพาะพริกขี้หนูสีเขียวเท่านั้น ลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เคี้ยวนุ่มลิ้นได้รสชาติมันกุ้งที่หอมหวานมันซึมเข้าถึงเส้นเป็นอย่างดี กินคู่กับกุ้งเนื้อแน่นนุ่มหวาน ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บหอมกลิ่นพริกขี้หนูช่างเข้ากันดีเสียงจริงเชียว
แนะนำเมนูจานเส้นไปหลายอย่างแล้ว ชวนมาชิม เปาะเปี๊ยะกุยช่าย (80 บาท+) เป็นเมนูของกินเล่น โดยทางร้านนำกุยช่ายมาผัดปรุงรสตามสูตรเฉพาะ แล้วห่อกับแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะทอดจนเหลืองกรอบ หั่นเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ พอดีคำ มาพร้อมกับน้ำจิ้มกุยช่ายสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงเอง จิ้มเปาะเปี๊ยะกับน้ำจิ้มแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวกร้วมทั้งคำสัมผัสได้ถึงความกรุบกรอบของแป้งและไส้กุยช่ายรสดี น้ำจิ้มออกหวานนิดเปรี้ยวหน่อยถูกปากดีแท้
ถ้าใครชอบกินส้มตำนำเสนอจานนี้ ตำหลวงพระบาง (80 บาท+) ส้มตำหน้าตาชวนกิน เส้นมะละกอเป็นแบบเส้นใหญ่ที่สไลด์ออกมาเป็นแผ่นบางๆ นำมาตำแบบส้มตำครบเครื่อง ใส่ถั่วลิสงที่ทางร้านคั่วเองแบบสดใหม่ โดดเด่นตรงที่ใส่กะปิหอมที่สั่งมาจากระยองเป็นพิเศษตำใส่มาด้วย แล้วก็ใส่กุ้งสดลวก กินส้มตำมะละกอเคี้ยวกรอบกรุบชุ่มน้ำส้มตำรสแซ่บเด็ดถึงเครื่อง ได้กลิ่นกะปิหอมๆ ด้วย
แล้วชวนมาอิ่มท้องกับเมนู ข้าวกะเพราสามหมู (155 บาท+) เป็นข้าวกะเพราที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนร้านไหน ตรงที่มีหมูสามแบบ คือ มีทั้งหมูสับ กากหมูทอด และเบคอนทอด ที่นำมาผัดกับเครื่องกะเพราตามสูตรเด็ดของทางร้าน โรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบหอมๆ กินกะเพราสามหมูกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ ขอยกนิ้วให้เลยเมนูนี้ เพราะหมูทั้งสามแบบรสชาติดีถึงพริกถึงเครื่องกะเพรารสเข้มข้น หมูสับเนื้อนุ่ม กากหมูเคี้ยวกรุบ เบคอนเคี้ยวกรอบ แถมเสิร์ฟมาพร้อมกับแกงจืดสาหร่ายหมูเด้งรสกลมกล่อมให้ซดร้อนๆ คล่องคอโดนใจ
ต่อด้วยเมนูซดน้ำร้อนๆ ที่น่าลองลิ้มอย่าง ต้มส้มปลากะพงหม้อไฟโบราณ (255 บาท+) เมนูนี้ทางร้านทำตามสูตรโบราณ ตัวน้ำซุปใส่กะปิ หอมแดง และขิง ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวสด ใส่เนื้อปลากะพงสดที่แล่เอาแต่เนื้อมาแบบชิ้นใหญ่ โรยด้วยต้มหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ น้ำซุปซดลื่นคล่องคอ รสชาติกลมกล่อมลิ้นออกเปรี้ยวนิดๆ หอมกลิ่นขิงอ่อนๆ เนื้อปลากะพงนุ่มแน่นสดหวานถูกปากอย่างมาก
ใช่ว่าเมนูจานเด็ดที่ชวนชิมจะมีแค่ที่กล่าวมานี้เท่านั้น เพราะว่ายังมีอาหารไทยเลิศรสที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ เต้าหู้ทอดหมี่กรอบราดซอสมะขาม (95 บาท+) ตำหนองคาย (79 บาท+) ลาบหมูคั่วกรอบ (120 บาท+) ก๋วยเตี๋ยวหมูเด้งต้มยำน้ำข้นไข่ลาวา (135 บาท+) และอีกสารพัดเมนูอาหารไทยรสชาติถูกปาก พร้อมทั้งยังมีเครื่องดื่มสมุนไพร และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากหลาย ที่อยากจะขอชวนให้มิตรรักนักกินทั้งหลาย ได้มาลิ้มลองกันด้วยตัวเอง มาสัมผัสกับความอิ่มอร่อยแน่นท้อง ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ ของร้าน “หุงเส้น” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“หุงเส้น” ตั้งอยู่ที่ศาลาแดง ซอย 1 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ (ประมาณ 10 เมตร เดินจากตึกอื้อจือเหลียง) สามารถจอดรถได้ที่ตึกอื้อจือเหลียง ประทับตราที่ร้านฟรี 1.30 ชม. เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00-21.30 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-21.00 น. โทร. 0-2233-7455 หรือจะสั่งความอร่อยผ่าน UberEATS , Honest bee หรือ Line Man และทางร้านยังมีบริการจองสถานที่จัดงานprivate จัดcatering และlunch box นอกสถานที่ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/hungsen.noodle
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
เวลาที่ท้องร้องหิวอาหาร แน่นอนว่าเราก็ต้องรีบดับความหิว ด้วยการเมียงมองหาร้านอาหารที่ดูดีชวนนั่ง และมีอาหารที่ชวนกิน เหมือนที่ในมื้อนี้เมื่อ “ตระเวนกิน” ผ่านมาแถวศาลาแดงซอย 1 กระเพาะน้อยๆ ก็ร้องเสียงดังเรียกร้องอยากจะกินอาหารอร่อยๆ ให้อิ่มแน่นท้อง
หลังจากที่เรามองหาร้านอาหารอยู่ไม่นาน สายตาก็มาสะดุดเข้ากับร้านแห่งนี้ “หุงเส้น” ที่แค่เห็นชื่อร้านก็โดนใจ เพราะว่าเราชื่นชอบกินเมนูเส้นอยู่แล้ว แถมด้านหน้าร้านบอกว่ามีก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ เราจึงไม่รีรอรีบเปิดประตูเดินเข้าร้านทันที
เมื่อเข้ามายังด้านในร้านก็สัมผัสได้กับบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแนวโมเดิร์นเก๋ไก๋มีสไตล์ ดูโล่งโปร่งสบายด้วยเพดานสูง ภายในร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างมีโต๊ะนั่งแบบโซฟายาวสีน้ำเงิน ที่ผนังอิฐประดับตกแต่งด้วยรูปภาพเมนูอาหารที่ล้วนแล้วแต่น่ากินทั้งนั้น เดินขึ้นมาที่ชั้นบนมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายมุมตามชอบใจ บรรยากาศดูอบอุ่นเป็นกันเองชวนนั่งสบายๆ และที่ผนังก็มีภาพอาหารหลากหลายเมนูประดับไว้เช่นกัน ซึ่งภาพอาหารเหล่านี้ช่างยั่วยวนใจชวนให้อยากกินอาหารเสียเหลือเกิน
เมื่อขอเมนูอาหารมาเปิดดู ก็ทำให้เราถึงกับต้องร้องอู้ฮู!! เพราะว่าอาหารของที่นี่ไม่ได้มีแค่เมนูเส้นเท่านั้น ทว่ายังมีอาหารไทยหลายหลาก มีทั้งอาหารจานเดียวจานด่วน ของกินเล่น และอาหารไทยจานหลักให้สั่งมากินกับข้าวกันได้แบบอิ่มท้อง เรียกว่ามีเมนูอาหารไทยที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาเองเป็นพิเศษโดยเฉพาะให้ได้เลือกลิ้มลองเป็น 100 เมนู และยังมีเมนูใหม่ๆ หมุนเวียนมาอยู่เสมอ ซึ่งอาหารของที่นี้ล้วนแล้วแต่น่าลองลิ้ม เพราะทางร้านใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบที่คัดสรรแต่ของดี มีคุณภาพ มีความสดใหม่ และเลือกวัตถุดิบเกรดพรีเมียม มาปรุงเป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนกินมากมาย
อย่างเมนูจานเด็ดที่ได้ลองลิ้มจนติดใจ แล้วต้องขอแนะนำก็มี ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยหมูคุโรบูตะ (135 บาท+) สามารถเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยวได้ มีทั้งเส้นหมี่ขาว เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เกี้ยมอี๋ วุ้นเส้น มาม่า ในชามมีเครื่องสารพัดอย่างใส่มา มีหมูสับ หมูเด้งที่ทางร้านทำเอง หมูแดงก็ทำเองเช่นกัน ลูกชิ้นหมู เนื้อหมูคุโรบูตะ ใส่กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาว แผ่นเกี้ยวทอดกรอบ และไข่ต้มยางมะตูม ทางร้านจะปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ชิมก๋วยเตี๋ยวรสชาติถูกปากรสเข้มข้นเปรี้ยวหวานกลมกล่อมลิ้นดี เครื่องเคราพวกหมูทุกอย่างที่ใส่มาเคี้ยวนุ่มโดนใจ
เมนูเส้นถัดมาที่ชวนกิน คือ ข้าวซอยไก่ (115 บาท+) เป็นข้าวซอยสูตรทางเหนือที่ทางร้านนำมาปรับสูตรให้เป็นของตัวเองโดยเฉพาะ ข้าวซอยไก่รสเด็ดโดดเด่นตรงน้ำซุปรสจัดจ้านเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเองปรุงรสกับน้ำกะทิเข้มข้น หอมกรุ่นเครื่องเทศกำลังดี เส้นข้าวซอยเป็นบะหมี่เส้นแบนที่เหนียวนุ่มเคี้ยวละมุนลิ้น ส่วนไก่เป็นเนื้อส่วนสะโพกกับน่องที่ตุ๋นรวมกับเครื่องแกงจนนุ่มได้ที่ เนื้อไก่เคี้ยวนุ่มถูกปาก มีเส้นข้าวซอยทอดกรอบให้เคี้ยวกรุบกรอบ และมาพร้อมผักเครื่องเคียงครบสูตร พร้อมกับพริกคั่วที่ทางร้านคั่วเอง มีความหอมและเผ็ดลิ้นมาก
อีกหนึ่งเมนูจานเส้นชวนลิ้มรส คือ ก๋วยเตี๋ยวกุ้งใหญ่ผัดมันกุ้ง (160 บาท+) หน้าตาน่ากินมาก ทางร้านนำเส้นใหญ่ไปผัดกับมันกุ้งแท้ๆ ที่โขลกรวมกับเครื่องเทศไทยด้วย ผัดให้เส้นและมันกุ้งเข้ากันจนได้ที่แบบแห้งหน่อย มีกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ทอดใส่มาด้วย พร้อมกับมีน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดที่ใช้เฉพาะพริกขี้หนูสีเขียวเท่านั้น ลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่เคี้ยวนุ่มลิ้นได้รสชาติมันกุ้งที่หอมหวานมันซึมเข้าถึงเส้นเป็นอย่างดี กินคู่กับกุ้งเนื้อแน่นนุ่มหวาน ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บหอมกลิ่นพริกขี้หนูช่างเข้ากันดีเสียงจริงเชียว
แนะนำเมนูจานเส้นไปหลายอย่างแล้ว ชวนมาชิม เปาะเปี๊ยะกุยช่าย (80 บาท+) เป็นเมนูของกินเล่น โดยทางร้านนำกุยช่ายมาผัดปรุงรสตามสูตรเฉพาะ แล้วห่อกับแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะทอดจนเหลืองกรอบ หั่นเสิร์ฟมาเป็นชิ้นๆ พอดีคำ มาพร้อมกับน้ำจิ้มกุยช่ายสูตรเด็ดที่ทางร้านปรุงเอง จิ้มเปาะเปี๊ยะกับน้ำจิ้มแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวกร้วมทั้งคำสัมผัสได้ถึงความกรุบกรอบของแป้งและไส้กุยช่ายรสดี น้ำจิ้มออกหวานนิดเปรี้ยวหน่อยถูกปากดีแท้
ถ้าใครชอบกินส้มตำนำเสนอจานนี้ ตำหลวงพระบาง (80 บาท+) ส้มตำหน้าตาชวนกิน เส้นมะละกอเป็นแบบเส้นใหญ่ที่สไลด์ออกมาเป็นแผ่นบางๆ นำมาตำแบบส้มตำครบเครื่อง ใส่ถั่วลิสงที่ทางร้านคั่วเองแบบสดใหม่ โดดเด่นตรงที่ใส่กะปิหอมที่สั่งมาจากระยองเป็นพิเศษตำใส่มาด้วย แล้วก็ใส่กุ้งสดลวก กินส้มตำมะละกอเคี้ยวกรอบกรุบชุ่มน้ำส้มตำรสแซ่บเด็ดถึงเครื่อง ได้กลิ่นกะปิหอมๆ ด้วย
แล้วชวนมาอิ่มท้องกับเมนู ข้าวกะเพราสามหมู (155 บาท+) เป็นข้าวกะเพราที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนร้านไหน ตรงที่มีหมูสามแบบ คือ มีทั้งหมูสับ กากหมูทอด และเบคอนทอด ที่นำมาผัดกับเครื่องกะเพราตามสูตรเด็ดของทางร้าน โรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบหอมๆ กินกะเพราสามหมูกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ ขอยกนิ้วให้เลยเมนูนี้ เพราะหมูทั้งสามแบบรสชาติดีถึงพริกถึงเครื่องกะเพรารสเข้มข้น หมูสับเนื้อนุ่ม กากหมูเคี้ยวกรุบ เบคอนเคี้ยวกรอบ แถมเสิร์ฟมาพร้อมกับแกงจืดสาหร่ายหมูเด้งรสกลมกล่อมให้ซดร้อนๆ คล่องคอโดนใจ
ต่อด้วยเมนูซดน้ำร้อนๆ ที่น่าลองลิ้มอย่าง ต้มส้มปลากะพงหม้อไฟโบราณ (255 บาท+) เมนูนี้ทางร้านทำตามสูตรโบราณ ตัวน้ำซุปใส่กะปิ หอมแดง และขิง ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวสด ใส่เนื้อปลากะพงสดที่แล่เอาแต่เนื้อมาแบบชิ้นใหญ่ โรยด้วยต้มหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ น้ำซุปซดลื่นคล่องคอ รสชาติกลมกล่อมลิ้นออกเปรี้ยวนิดๆ หอมกลิ่นขิงอ่อนๆ เนื้อปลากะพงนุ่มแน่นสดหวานถูกปากอย่างมาก
ใช่ว่าเมนูจานเด็ดที่ชวนชิมจะมีแค่ที่กล่าวมานี้เท่านั้น เพราะว่ายังมีอาหารไทยเลิศรสที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ เต้าหู้ทอดหมี่กรอบราดซอสมะขาม (95 บาท+) ตำหนองคาย (79 บาท+) ลาบหมูคั่วกรอบ (120 บาท+) ก๋วยเตี๋ยวหมูเด้งต้มยำน้ำข้นไข่ลาวา (135 บาท+) และอีกสารพัดเมนูอาหารไทยรสชาติถูกปาก พร้อมทั้งยังมีเครื่องดื่มสมุนไพร และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากหลาย ที่อยากจะขอชวนให้มิตรรักนักกินทั้งหลาย ได้มาลิ้มลองกันด้วยตัวเอง มาสัมผัสกับความอิ่มอร่อยแน่นท้อง ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งสบายๆ ของร้าน “หุงเส้น” แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“หุงเส้น” ตั้งอยู่ที่ศาลาแดง ซอย 1 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ (ประมาณ 10 เมตร เดินจากตึกอื้อจือเหลียง) สามารถจอดรถได้ที่ตึกอื้อจือเหลียง ประทับตราที่ร้านฟรี 1.30 ชม. เปิดวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 11.00-21.30 น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-21.00 น. โทร. 0-2233-7455 หรือจะสั่งความอร่อยผ่าน UberEATS , Honest bee หรือ Line Man และทางร้านยังมีบริการจองสถานที่จัดงานprivate จัดcatering และlunch box นอกสถานที่ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/hungsen.noodle
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager