xs
xsm
sm
md
lg

“คัมภีร์อัลกุรอานโบราณ”สมบัติแผ่นดินล้ำค่า ของดีนราฯที่น่าทึ่ง /ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)

Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
คัมภีร์อัลกุรอานโบราณ ที่มีกรอบลวดลายอันสวยงาม ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอ่านโบราณที่สวยงามที่สุดในโลก
“ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน”

คำขวัญจังหวัดนราธิวาส แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และของดีจำนวนหนึ่งของนราธิวาส ซึ่งนอกเหนือจากนี้นราฯยังมีของดีและสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลากหลาย ให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสกัน

หนึ่งในนั้นก็คือ “คัมภีร์อัลกุรอานและเอกสารโบราณ” ที่เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกของชาติอันทรงคุณค่า ซึ่งวันนี้ได้ถูกเก็บรักษาและดูแลเป็นอย่างดี พร้อมทั้งมีการนำส่วนหนึ่งมาจัดแสดงไว้ที่ “พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม”(ศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน) ที่ตั้งอยู่ใน“โรงเรียนสมานมิตรวิทยา”(ปอเนาะศาลาลูกไก่) ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส
คัมภีร์อัลกุรอานหลากหลายที่จัดแสดงที่ พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม
คัมภีร์และเอกสารโบราณที่อยู่ภายใต้การดูแลของพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม ถือเป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกของชาติอันทรงคุณค่า

ด้วยเหตุนี้ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ภูมิภาค ภาคใต้” จึงได้เข้ามาส่งเสริมประชาสัมพันธ์ ให้พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯ แหล่งเก็บรวบรวมมรดกชาติล้ำค่าเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

จากสิ่งไม่รู้ค่าสู่สิ่งล้ำค่า
อ.มาหะมะลุตฟี หะยีสาแม
สำหรับต้นทางที่มาของการรวบรวมและจัดแสดงสมบัติแผ่นดินอันทรงคุณค่าเหล่านี้ “อ.มาหะมะลุตฟี หะยีสาแม” หรือ “อ.ลุตฟี” ผู้บริหารสถานศึกษาสอนศาสนาอิสลามโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ผู้มีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในนราฯ จนได้รับรางวัลผู้อนุรักษ์มรดกไทยดีเด่น ในปี 2547 เล่าให้ผมฟังว่า

“เดิมผมมีคัมภีร์อัลกุรอานกับเอกสารโบราณอยู่ประมาณ 10 เล่ม แต่เราไม่มีข้อมูล ไม่รู้คุณค่า จึงเก็บไว้เฉยๆไม่ได้สนใจอะไร จนเมื่อได้เดินทางไปที่มาเลเซีย เห็นคัมภีร์ไม่กี่เล่มถูกนำมาจัดแสดงอย่างดี และมีคนมาเที่ยวชม จึงมานึกดูว่าบ้านเราก็มีและมีมากกว่าด้วย น่าจะทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้”
คัมภีร์อัลกุรอานแต่ละเล่มจะมีกรอบลวดลายที่สวยงามแตกต่างกัน
หลังจากนั้น อ.ลุตฟี ก็ได้เกิดประกายต้องการที่จะเผยแพร่คัมภีร์และเอกสารที่มีอยู่ จึงได้นำความมาบอกต่อชุมชนและบอกต่อให้หลายๆคนทราบ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะมีชาวบ้านในพื้นที่และชาวมุสลิมในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย นำคัมภีร์โบราณและเอกสารเก่าแก่มาบริจาคให้อาจารย์ช่วยเก็บรักษาดูแลและนำไปทำประโยชน์กันเป็นจำนวนมากรวมแล้วกว่า 70 เล่ม

อ.ลุตฟี บอกว่า คัมภีร์อัลกุรอานเก่าแก่เหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่คนในสมัยก่อนไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศแล้วนำคัมภีร์และเอกสารกลับมา เพราะที่นี่เคยเป็นปอเนาะโบราณ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนั้นสันนิษฐานว่า น่าจะเดินทางติดตัวมาจากผู้ที่มาทำการค้าขายแลกเปลี่ยน ซึ่งสมัยนั้นมีปัตตานีเป็นศูนย์กลาง มีท่าเรือใหญ่สำคัญอยู่ที่นั่น
คัมภีร์อัลกุรอานแต่ละเล่มจะมีกรอบลวดลายที่สวยงามแตกต่างกัน
สำหรับคัมภีร์และเอกสารโบราณเหล่านี้ ผมนำข้อมูลจากเอกสารและข้อมูลจากคำบอกเล่าของ อ.ลุตฟี มาประมวล สรุปความได้ว่า

...คัมภีร์อัล-กุรอาน เป็นเอกสารสำคัญที่บันทึกหลักคำสอนของพระศาสดา หลักการ และข้อปฏิบัติของผู้นับถือศาสนาอิสลามทุกคนทั่วโลก ซึ่งคัมภีร์อัล-กุรอานโบราณที่นี่ ได้มาจากพื้นที่ภาคใต้ของเมืองไทย จากคาบสมุทรมลายูนูซันตารา และจากบางประเทศในโลกมุสลิมที่เคยมาติดต่อค้าขายกับประเทศไทยในอดีต มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ราว 100 – 1,200 ปี
กรอบลวดลายรูปดอกไม้
...คัมภีร์มีหลายขนาด จากเล็กถึงใหญ่ และจากบางไปถึงหนามาก ปกคัมภีร์ทำด้วยหนังสัตว์ เช่น หนังกวาง หนังแพะ เนื้อในเป็นกระดาษสา หรือกระดาษเปลือกไม้ เขียนเป็นภาษาอาหรับโบราณ รวมถึงภาษาบาลี ตัวอักษรเขียนด้วยหมึกดำ หลายหน้ามีการตกแต่งด้วยการเขียนสีเป็นลวดลายต่างๆในแบบมุสลิม บ้างก็มีลวดลายศิลปะแบบจีน มลายู บ้างก็มีการตกแต่งด้วยแผ่นทองคำเปลว นับเป็นงานศิลปะโบราณอันสวยงามประณีต ที่มีลวดลายโบราณชวนให้ศึกษาค้นคว้า

....นอกจากคัมภีร์แล้วก็ยังมีเอกสารตำราโบราณ อาทิ เอกสารภาษาศาสตร์ เอกสารทางศาสนา วรรณคดี ศิลปะ ขนบธรรมเนียม ประเพณี กฎหมาย เวชศาสตร์ เป็นต้น...
คัมภีร์อุลกุรอานโบราณ ห่อหุ้มด้วยปกหนังสัตว์
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาได้เคยมีชาวต่างชาติมาเสนอขอซื้อคัมภีร์หลายๆเล่มจาก อ.ลุตฟี โดยบ้างก็ต้องการนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ บ้างเพื่อนำไปบูชา บ้างก็เพื่อนำไปสมบัติส่วนตัวอันเนื่องมาจากความนับถือศรัทธา แต่ อ.ลุตฟี ไม่ยอมขาย ซึ่งอาจารย์ได้ให้เหตุผลกับผมว่า

“ต้องการที่จะเก็บสิ่งเหล่านี้ไว้ให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกของชาติ”

เดินหน้าสู่พิพิธภัณฑ์สำคัญระดับโลก
คัมภีร์อัลกุรอานแต่ละเล่มจะมีกรอบลวดลายที่สวยงามแตกต่างกัน
“พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม”(ศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัล-กุรอาน) วันนี้ยังคงใช้ห้องเรียน(ชั้นล่าง)ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยาเป็นพื้นที่จัดแสดงแบบเรียบง่าย ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น มีการแบ่งออกเป็น 2 ห้องหลักๆ ได้แก่ ห้องเก็บคัมภีร์อัลกุรอาน และห้องเก็บเอกสารโบราณ
ห้องเก็บคัมภีร์อัลกุรอาน
ห้องเก็บคัมภีร์อัลกุรอาน จัดแสดงคัมภีร์อัลกุรอานเก่าแก่อันหลากหลายในตู้กระจก โดยมีคัมภีร์เด่นๆที่เป็นไฮไลท์ อาทิ คัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่เขียนด้วยลายมือ มีลวดลายกรอบประดับทองคำเปลว(แต่ละหน้ามีลวดลายไม่เหมือนกัน)ที่มีอยู่มากมายหลายเล่ม นำโดยเล่มที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก
หนึ่งในคัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก
นอกจากนี้ก็ยังมีคัมภีร์อัลกุรอานที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, คัมภีร์อัลกุรอานโบราณที่ปกทำจากหนังสัตว์ต่างๆ,คัมภีร์อัลกุรอานจากประเทศจีนที่ส่งมาร่วมจัดแสดงที่นี่ รวมถึงมีอุปกรณ์สาธิตเกี่ยวกับการบูรณะซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ ซึ่งประเทศที่เป็นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการซ่อมแซมคัมภีร์อัลกุรอานก็คือ“ตุรกี” ซึ่งคัมภีร์ของที่นี่ต่างก็ส่งไปทำการซ่อมแซมที่ประเทศตุรกี
ส่วนจัดแสดงการซ่อมแซมคัมภีร์
ส่วนห้องเก็บเอกสารโบราณ จัดแสดงเอกสารตำราโบราณต่างๆ อาทิ เอกสารภาษาศาสตร์ เอกสารทางศาสนา วรรณคดี ศิลปะ ขนบธรรมเนียม ประเพณี กฎหมาย เวชศาสตร์ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ซึ่งที่เด่นๆก็มีเอกสารสำคัญในการทำหัวกริชแบบโบราณที่มีการวาดลวดลายอันสวยงาม
ห้องเก็บเอกสารโบราณ
เอกสารการทำตัววายังกุลิตของอินโดนีเซีย(การละเล่นหุ่นเงาคล้ายหนังตะลุงของทางภาคใต้บ้านเรา,เอกสารหลักความเชื่อต่างๆของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เขียนด้วยภาษาชวาโบราณและบาลี ที่แสดงให้เห็นว่าศาสนาพราหมณ์-ฮินดูได้เข้ามาสู่แหลมมลายูก่อน ก่อนที่ศาสนาอิสลามจะตามเข้ามาและได้มีคนนับถือกันเป็นจำนวนมากในภายหลัง
เอกสารในการทำหัวกริชแบบโบราณ
นอกจากนี้ในห้องเก็บเอกสารโบราณยังมีการจัดแสดงภาพเขียนโบราณ เรือกอและจำลอง และภาพแสดงการทำเรือกอ ภาพบุคคลสำคัญในศาสนาอิสลาม รวมถึงหุ่นจำลองของมัสยิด 300 ปี (มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ) อันสวยงามที่ตั้งอยู่กลางห้อง ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นของที่นี่

นับได้ว่าพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เก็บมรดกของแผ่นดินล้ำค่า ซึ่งนอกจากจะมีคัมภีร์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว อ.ลุตฟี ยังบอกกับผมว่า โรงเรียนสมานมิตรฯ เป็นแหล่งรวบรวมคัมภีร์และเอกสารโบราณที่มีมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
ป้ายโครงการ “พิพิธภัณฑ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้ อัล-กุรอาน”
ด้วยความสำคัญของคัมภีร์อัลกุรอานและเอกสารโบราณ ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทางกรมศิลปากรจึงได้ทำการต่อยอด เข้ามาขึ้นทะเบียนคัมภีร์และเอกสารโบราณเหล่านี้ พร้อมๆกับเข้ามาช่วยทางโรงเรียนในการดำเนินการเก็บรักษา บูรณะ ซ่อมแซม ตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง

นอกจากนี้ทางภาครัฐยังอนุมัติงบประมาณให้กรมศิลป์ ดำเนินการจัดสร้าง “พิพิธภัณฑ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้ อัล-กุรอาน” ขึ้นใหม่ ณ บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ที่วันนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จอีกไม่นาน
พิพิธภัณฑ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้ อัล-กุรอาน ที่วันนี้(ก.ย. 60) กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง
พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯ เท่าที่ผมเห็นจากภาพในแบบของโครงการ และเห็นจากของจริงที่วันนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ ดูเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ จัดแสดงในรูปแบบสากล

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้หากสร้างเสร็จเมื่อไหร่ จะถือเป็นแม่เหล็กแห่งใหม่ที่จะช่วยดึงคนให้มาเยือนนราธิวาสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะชาวมุสลิมจากทั่วโลกที่ต่างก็ให้ความสำคัญและสนใจที่จะเดินทางมาชม มาศึกษา สิ่งล้ำค่า จากคัมภีร์และเอกสารโบราณเหล่านี้กันเป็นจำนวนมาก

นับเป็นอีกหนึ่งของดีเมืองนราอันน่าทึ่ง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญในระดับโลกเลยทีเดียว
คัมภีร์อัลกุรอานแต่ละเล่มจะมีกรอบลวดลายที่สวยงามแตกต่างกัน
**************************************************
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ พิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามฯ และสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ใน จ.นราธิวาส เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานจังหวัดนราธิวาส(รับผิดชอบพื้นที่นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) โทร. 0-7352-2411 , 0-7354-2345
กำลังโหลดความคิดเห็น