เคทีซี ร่วมกับ เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกรมศิลปากร จัดแถลงข่าวโครงการ “7 โบราณสถาน กับ 5 ตำนานสุวรรณภูมิ (เรื่องเล่าหลายชาติบนแผ่นดินแหลมทอง)” ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นการสานต่อนโยบายประชารัฐด้านการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้และมุ่งสร้างความยั่งยืน ภายใต้แนวคิดเรื่องโบราณสถานที่เคยรุ่งเรืองจำนวน 7 แห่ง และตำนานต่างๆ จาก 5 ดินแดนในประเทศแถบอาเซียน ผ่านการเดินทางไปยังสถานที่จริงรวม 12 ทริปต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2561 กับเหล่านักประวัติศาสตร์ตัวจริง โดยเริ่มทริปแรกสู่เมืองละโว้ “ศิลาแลงเล่าเรื่อง เมืองลิงสร้าง” จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 27-28 สิงหาคม 2559
นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เคทีซีได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มและการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีการเติบโตสูงขึ้น จึงสานต่อพลังประชารัฐร่วมกับบริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ จำกัด บริษัทชั้นนำด้านการท่องเที่ยวแนวใหม่ จัดโครงการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ “7 โบราณสถาน กับ 5 ตำนานสุวรรณภูมิ (เรื่องเล่าหลายชาติบนแผ่นดินแหลมทอง)” ด้วย 3 เป้าหมายหลักคือ เสริมสร้างความยั่งยืนของการท่องเที่ยว ยกระดับรายได้จากการท่องเที่ยว และเกิดการกระจายรายได้ด้วยการเปิดมิติการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ นอกจากนั้นทางเคทีซีได้จัดเตรียมข้อเสนอและสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกรวมถึงผู้ที่สนใจร่วมทริปเดินทาง ที่ชำระผ่านบัตรเครดิตเคทีซีทุกประเภท โดยจะได้รับบริการแบ่งชำระ 0% นาน 6 เดือน
นายปุญญภาพ ดินวูน หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ จำกัด กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้คือ เพื่อสร้างกระแสท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ในสังคมไทย และมุ่งให้ตระหนักถึงคุณค่าของโบราณสถานและโบราณวัตถุ รวมถึงเพื่อสร้างความเข้าใจในรากเหง้าของความเป็นไทยที่แท้จริง ทั้งด้านความหลากหลายของชาติพันธุ์ที่ร่วมสร้างวัฒนธรรมบนพื้นที่สุวรรณภูมิ ก่อนจะถูกผสมผสานกลมกลืนจนมาถึงปัจจุบัน โดยเริ่มออกทริปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 - ต้นปี 2561 ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักคือ ทริปเยือน 7 โบราณสถานและทริปเยือน 5 ดินแดนที่เป็นตำนานสุวรรณภูมิ
นายปุญญภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ “7 โบราณสถาน” จะประกอบด้วย เมืองละโว้ ดินแดนต้นกำเนิดของคนไทย หนึ่งในศูนย์กลางพุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เมืองสุโขทัย ที่เป็นต้นกำเนิดของตัวอักษรไทย ชมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่งดงามอย่างไทยแท้ รวมถึงร่วมไขปริศนาว่า สุโขทัยที่แท้แล้วคือรุ่งอรุณแห่งความสุขหรือเป็นเพียงดินแดนเนรมิต, เมืองพิมาย ถิ่นดั้งเดิมของราชวงศ์ผู้สร้างนครวัด-นครธมในกัมพูชา พร้อมตำนานความรู้ของเทพฮินดูและการเสื่อมอำนาจของอดีตเมืองอันยิ่งใหญ่, เมืองศรีโคตรบูรณ์ สักการะพระอุรังคธาตุ ณ พระธาตุพนม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ยาวนานของศาสนาผีพื้นเมืองตั้งแต่ดั้งเดิม ไปจนถึงคติของวัดป่าอันเคร่งครัดของพุทธศาสนิกชนริมสองฝั่งโข่ง, ดินแดนล้านนา ที่ถูกประกอบเป็นภาคเหนือของประเทศไทยในปัจจุบัน, กรุงศรีอยุธยา 1 ใน 16 อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ยืนยาวมากกว่า 4 ศตวรรษ และเมืองนครศรีธรรมราช เมืองท่ายิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ ที่รับศาสนาพุทธเข้าสู่ดินแดนสุวรรณภูมิ
ด้าน นายชาญศักดิ์ พันธุ์ทองดี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ บริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ จำกัด กล่าวว่า ทริป “5 ตำนานสุวรรณภูมิ (เรื่องเล่าหลายชาติบนแผ่นดินแหลมทอง)” จะเริ่มในปลายปีนี้ซึ่งมีทั้งหมด 5 ทริปใหญ่ เริ่มจาก ชมความงามของนครวัด-นครธมที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา, กระซิบรักเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว, ท่องประวัติศาสตร์ที่เมืองเชียงตุง ประเทศพม่า, เปิดตำนานมะเมียะสัญญาใจที่เมาะลำไย หรือเมืองมะละเหม่ง ประเทศพม่า ปิดท้ายที่มะละกา ประเทศมาเลเซีย
ภายในงานได้เชิญนักประวัติศาสตร์ทั้ง 4 ท่านได้แก่ อาจารย์ศิริพงษ์ เหล่ามานะเจริญ นักวิชาการและนักเขียน อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดีศิลปากร, อาจารย์คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปกร, อาจารย์อัครพล ค่ำคูณ อาจารย์ประจำวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ และอาจารย์สมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ พิธีกรและอาจารย์พิเศษในหลักสูตรอุษาคเนย์ศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จะร่วมเดินทางไปกับทั้ง 12 ทริป มาร่วมแถลงข่าวและให้รายละเอียดของโครงการเพิ่มเติมว่า การท่องเที่ยวครั้งนี้นอกจากจะได้ความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ไทยที่มากกว่าด้านการทำสงครามที่ได้เรียนในตำรา อาทิ ด้านวัฒนธรรม, ด้านอาหารการกิน, ด้านสังคมเศรษฐกิจ เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังสนุกไปกับตำนานเรื่องเล่ามากมาย โดยเฉพาะตำนานเรื่องผีต่างๆ รวมถึงได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และเกิดความรักในแผ่นดินไทย อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย
กิจกรรมที่จัดขึ้นในงานแถลงข่าวได้เปิดให้เข้าสักการะพระประธานภายในพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาราม หรือ “วัดพระแก้ววังหน้า” เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งปกติจะไม่เปิดให้ประชาชนเข้าไปด้านใน รวมถึงเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธสิหิงค์ ภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ นอกจากนั้นยังได้เข้าชม “โบราณวัตถุ” ชิ้นสำคัญที่บ่งบอกถึงอาณาจักรโบราณต่างๆ ที่เคยรุ่งเรืองอยู่ในดินแดนไทย ณ พระที่นั่งศิวโภกขพิมาน พร้อมได้รับฟังการบรรยายจากนักประวัติศาสตร์ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งช่วยให้ความรู้และเทคนิคการรับชมโบราณวัตถุต่างๆ อาทิ การชมเศียรของพระพุทธรูป ควรมองจากมุมต่ำจะทำให้เห็นภาพสวยงามมากกว่ามองจากระดับสายตา เป็นต้น และรับชมการแสดงโชว์ชุดพิเศษ “ระบำโบราณดี” จากกรมศิลปากร
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com