หลังจากเกิดปัญหาปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง ในที่สุด “เกาะตาชัย” ก็เดินทางมาถึงจุดนี้ ที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกมาประกาศปิดเกาะตาชัยอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้ธรรมชาติพักฟื้น เพราะที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวบนเกาะตาชัยกันเป็นจำนวนมากจนล้นเกาะ ทำให้เกิดปัญหาความเสื่อมโทรมของแนวปะการัง รวมถึงเกิดปัญหาลูกโซ่หลายอย่างตามมา
“หน้าท่องเที่ยวผู้จัดการออนไลน์” จึงขอพาไปย้อนรอยเกาะตาชัยนับตั้งแต่เริ่มเปิดตัวเป็นดังสวรรค์แห่งใหม่ในอันดามัน จนประสบกับปัญหาต่างๆจนสวรรค์ล่ม อันนำมาสู่การปิดเกาะ!!! อย่างไม่มีกำหนด
เกาะตาชัย สวรรค์แห่งใหม่ในอันดามัน
“เกาะตาชัย” เป็นเกาะในน่านน้ำทะเลพังงา ตั้งอยู่ระหว่างหมู่เกาะสิมิลันกับหมู่เกาะสุรินทร์ ในปี พ.ศ. 2541 เกาะตาชัยถูกผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน” จ.พังงา โดยจากบนฝั่งเกาะตาชัยสามารถเดินทางไปได้ทั้งจากจังหวัดพังงาและภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชม.
แม้จะเป็นเกาะเล็กๆที่มีพื้นที่เพียง 12 ตร.กม. และมีชายหาดเพียงแห่งเดียวอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะยาวประมาณ 700 ม.(คนท้องถิ่นเรียกกันว่า “หาดหน้าเกาะ”) แต่หลังจากที่เกาะตาชัยเปิดตัวให้โลกรับรู้ ในฐานะเกาะท้องเที่ยวน้องใหม่แห่งท้องทะเลอันดามันเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้นไม่นานเกาะตาชัยโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืนกับสภาพธรรมชาติอันสวยงามของเกาะแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น แนวหาดทรายยาวขาวสะอาดและมีความละเอียดดุจแป้ง น้ำทะเลที่สวยใสราวกระจก ที่มีโลกใต้ทะเลอันสวยงามทั้งแนวปะการังและปลาหลากหลายชนิด สามารถเล่นน้ำ ดำน้ำตื้น รวมไปถึงสามารถดำน้ำลึกได้ที่บริเวณกองหินใต้น้ำใกล้หัวแหลมทางด้านใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นจุดที่นักดำน้ำมีโอกาสจะพบเห็นฉลามวาฬและปลากระเบนราหูได้มากที่สุดจุดหนึ่งของทะเลไทยฝั่งอันดามัน
นอกจากนี้บนเกาะตาชัยยังมีจุดชมวิวหลังเกาะที่สวยงาม มีพืชและสัตว์เฉพาะถิ่นอย่าง สาหร่ายใบมะกรูด ปูเสฉวนยักษ์ “หอยมรกต”(The Emerald Green Snail)ที่เป็นหอยสปีชีส์ใหม่ พบเพียงแห่งเดียวบนเกาะตาชัย รวมถึง“ปูไก่”ปูน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีเสียงร้องคล้ายไก่ ซึ่งมีเป็นจำนวนมากบนเกาะตาชัย
ด้วยองค์ประกอบของความงดงามต่างๆทำให้เกาะตาชัยที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ได้รับการยกให้เป็นดัง“สวรรค์แห่งใหม่”แห่งท้องทะเลอันดามัน อันเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ
โด่งดังจนนักท่องเที่ยวล้นทะลัก
แม้เกาะตาชัย จะเปิดเกาะให้เที่ยวแบบวันเดย์ทริป ทั้งไม่มีที่พักบนเกาะและไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักค้างบนเกาะ รวมถึงเปิดเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว(ตั้งแต่ 1 พ.ย.-30 เม.ย. หรือ 1 พ.ย. - 15 พ.ค.ของแต่ละฤดูกาล ซึ่งแต่ละปีอาจมีปรับเปลี่ยนบ้างตามสภาพอากาศ คลื่นลม)
แต่กระนั้นก็ไม่สามารถหยุดยั้งความโด่งดังของเกาะตาชัยได้ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในยุคแรกๆเมื่อเริมเปิด เกาะตาชัยถูกบรรจุเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญ(Signature Destination) ไม่แพ้ภูเก็ต กระบี่ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาสู่ยุคของนักท่องเที่ยวจีนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมักจะมีพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์ของนักท่องเที่ยวจีนบางกลุ่ม บางคน ปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาวอยู่อย่างต่อเนื่อง
หลังเกาะตาชัยเปิดให้เที่ยวได้แค่ประมาณ 2 ปีแรก ปัญหาสำคัญที่เกาะแห่งนี้ประสบก็คือการมีผู้คนมาเที่ยวมากเกินไป หรือที่เรียกง่ายๆว่า “มีนักท่องเที่ยวล้นเกาะ” อันเนื่องมาจากการมุ่งแต่จะกอบโกยของผู้ประกอบการบางราย ที่คิดเพียงแต่ขนคนมาเที่ยวเกาะตาชัยให้มากๆเพื่อให้เม็ดเงินเข้ากระเป๋าบริษัทตัวเอง โดยไม่ได้นึกถึงผลกระทบต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เหมือนดังการชำเราให้เกาะตาชัยย่อยยับเร็วขึ้น
ขณะที่การบริหารจัดการของทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันก็ยังทำได้ไม่ดี เพราะคาดไม่ถึงว่าจะมีคนสนใจมาเที่ยวที่เกาะตาชัยมากถึงเพียงนี้ ทำให้ไม่มีการควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลระบุว่า เกาะตาชัยสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ในปริมาณจำกัด ดังนั้นจึงต้องจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวบนเกาะตาชัยไม่ให้เกินวันละ 200 คน
แต่ที่ผ่านมาในช่วงก่อนที่จะเกิดเป็นปัญหาโด่งดัง มีนักท่องเที่ยวขึ้นเที่ยวบนเกาะในวันธรรมดาหลายร้อยคน ส่วนถ้าเป็นในวันหยุดยาวก็มีนับพันคน จนบรรยากาศของเกาะตาชัยดูไม่ต่างอะไรจากตลาดนัดดีๆนี่เอง
ปัญหาลูกโซ่จากนักท่องเที่ยวล้น
เมื่อมีนักท่องเที่ยวล้นเกาะตาชัย ปัญหาต่างๆก็ตามมา เริ่มจากบนฝั่งที่มีบริษัททัวร์บางรายขายตัดราคากัน มีการขนนักท่องเที่ยวบรรทุกเกินปริมาณปลอดภัยของเรืออันสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัย เมื่อเดินทางมาถึงเกาะตาชัยก็จอดเรือทิ้งสมอกันระเกะระกะที่หน้าหาดจนทั้งนำมันเรือและสมอเรือส่งผลเสียหายต่อแนวปะการัง
จากนั้นเมื่อมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาบนเกาะตาชัยเป็นจำนวนมากก็ยากที่จะควบคุม แถมไกด์และบริษัททัวร์บางแห่งยังปล่อยปละละเลย ไม่ได้ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวที่ถูกต้อง จึงเกิดปัญหามีนักท่องเที่ยวบางชาติไปไล่แหย่ปูไก่ให้ออกจากรูเพื่อถ่ายรูป ไปจับปูไก่มาถ่ายรูป บางรายไปจับปูไก่มาฉีกก้ามถ่ายรูป หรือที่แสบสุดก็คือไกด์บางคนเป็นคนไปจับปูไก่มาให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเสียเอง
นอกจากนี้การที่มีนักท่องเที่ยวล้น ก็ทำให้เกิดปัญหาเรื่องขยะตามมา เพราะในช่วงแรกอุทยานฯอนุญาตให้มีการตั้งซุ้มอาหาร ของกินเล่น และเครื่องดื่ม บนเกาะได้ (อาหารส่วนหนึ่งให้สั่งจากทางอุทยานฯ อีกส่วนหนึ่งบริษัททัวร์นำมาเอง) ซึ่งถึงแม้ทางบริษัททัวร์จะมีการนำขยะที่ทางกลุ่มของตัวเองนำมากลับขึ้นไปทิ้งบนฝั่ง และทางอุทยานฯก็ได้มีการเก็บขยะที่หลงเหลือไปทิ้งบนฝั่งด้วยเช่นกัน แต่กระนั้นก็ยังมีขยะตกค้างหลงเหลืออยู่บนเกาะตาชัยอยู่ไม่น้อย ทั้งจากขยะที่นักท่องเที่ยวมักง่ายตั้งใจทิ้ง หรือหลุดหล่นไปจากความเผอเรอ
ปัญหาต่างๆเหล่านี้ที่กล่าวมาค่อยๆสะสมและส่งผลกระทบต่อธรรมชาติสิ่งแวดล้อมบนเกาะตาชัย ไม่ว่าจะเป็นปูไก่ที่ถูกทำร้าย ก้ามหาย ขาหาย ทำให้ปูไก่ต้องบาดเจ็บล้มตายหายไปจากเกาะตาชัยเป็นจำนวนมาก หรือหอยมรกตที่ได้รับผลกระทบจากการที่มีคนขึ้นไปท่องเที่ยวกันจนล้นเกาะ
ขณะที่อีกปัญหาสำคัญก็คือผลกระทบต่อแนวปะการังหน้าเกาะ ทั้งจากน้ำมันเรือ การทิ้งสมอเรือจากเรือจำนวนมากที่ไปทำให้ปะการังเสียหาย อันนำมาสู่การตีแผ่เรื่องราวปัญญาต่างๆของเกาะตาชัยเมื่อต้นปี 2558 จนปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ส่งผลกระเทือนต่อผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวบนเกาะตาชัย ทำให้ต้องมีการมาพูดคุยปัญหาสร้างข้อตกลงกันใหม่ ระหว่างอุทยานฯกับผู้ประกอบการ
อันนำมาสู่มาตรการการแก้ปัญหา(เบื้องต้น)ของเกาะตาชัยในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปี 2559 ที่ผ่านมา
ตัดคะแนนก็แก้ไม่ได้
สำหรับมาตรการการแก้ปัญหาต่างๆ บนเกาะตาชัยในฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้(2559) นายณัฐ โก่งเกษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เคยออกมาให้ข้อมูลกับ “หน้าท่องเที่ยวผู้จัดการออนไลน์” ว่า ตั้งแต่มีปัญหามาเกาะตาชัยก็ปิดการจำหน่ายอาหารบนเกาะ นักท่องเที่ยวหรือทัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวไปยังเกาะจะต้องเตรียมอาหารไปเองและนำขยะกลับมาทิ้งเอง โดยในเรื่องของขยะ ทางอุทยานฯ มีนโยบายอยู่แล้วว่าเอามาเท่าไหร่ก็เอากลับเท่านั้น ไม่ให้เป็นภาระบนเกาะ และปีนี้ไม่มีการทำอาหารบนเกาะแน่นอน
นอกจากนั้นก็ยังมีเรื่องเกี่ยวกับการทิ้งสมอของเรือท่องเที่ยวที่อาจทำลายปะการังใต้น้ำ โดยทางอุทยานฯ ได้ทำทุ่นเพื่อผูกจอดเรือไว้ให้ จะไม่ให้เรือท่องเที่ยวทิ้งสมอแล้วถอยเรือมายังชายหาด นอกจากนั้นก็จะไม่ให้เรือจอดแช่อยู่ที่ชายหาด แต่จะให้เฉพาะเข้าไปรับ-ส่งนักท่องเที่ยว เมื่อส่งเสร็จก็กลับออกมา เวลาจะกลับก็เข้าไปรับ
ส่วนปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวล้นเกาะที่มีคนพูดวิพากษ์วิจารณ์กันมาก และมองว่าควรมีการจำกัดนักท่องเที่ยวบนเกาะตาชัย เรื่องนี้ หัวหน้าอุทยานฯ หมู่เกาะสิมิลัน กล่าวว่า
“เราจะใช้การกระจายนักท่องเที่ยวแทนการจำกัดจำนวน โดยจะกระจายนักท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ แทน เช่น สมมตินักท่องเที่ยว 500 คนจะมาเที่ยวที่เกาะ เราก็จะให้นักท่องเที่ยว 250 คนเที่ยวอยู่บนเกาะ อีก 250 คนออกไปดำน้ำในทะเล แล้วค่อยหมุนเวียนกัน และเราได้จัดตารางเรือ เพื่อลดความหนาแน่นของจำนวนนักท่องเที่ยวบนหาด โดยทางเจ้าหน้าที่จะทราบล่วงหน้าว่าวันนี้จะมีเรือมากี่ลำ จะมีนักท่องเที่ยวมากี่คน และจะใช้การประมาณจำนวนนักท่องเที่ยวเอาจากช่วงการท่องเที่ยวครั้งที่ผ่านมา และเราจะให้ตารางแก่บริษัททัวร์ว่าเวลาไหนเขาควรทำอะไร ทัวร์ก็จะจัดแล้วก็แจ้งนักท่องเที่ยวไป แล้วค่อยวนกันใช้ประโยชน์ จะได้กระจายจำนวนนักท่องเที่ยวไป เพราะการจำกัดนักท่องเที่ยวจริงๆ น่าจะทำได้ยาก เราจึงดึงเขา(บริษัททัวร์) มาเป็นส่วนร่วมกับเราดีกว่า” นายณัฐกล่าว
นอกจากนี้ทางอุทยานฯยังมีมาตรการใหม่ ซึ่งนายณัฐกล่าวว่า มีระบบตัดคะแนนผู้ประกอบการที่ไม่ทำตามข้อตกลงกับอุทยานฯ โดยใช้การให้คะแนนเป็นการคัดคุณภาพบริษัททัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวมายังเกาะตาชัย
“เราจะมีระบบตัดคะแนนผู้ประกอบการรายใดที่ไม่ทำตามข้อตกลงกับอุทยานฯ โดยเกณฑ์การให้คะแนนจะแบ่งเป็น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ ด้านความปลอดภัย ด้านบริการนักท่องเที่ยว ถ้าคะแนนไม่ถึง 60% บริษัทนั้นก็จะไม่ได้เข้าอุทยานฯ ในการให้คะแนนจะเน้นเรื่องของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นหลัก เรื่องการทิ้งสมอ เรื่องการให้อาหารปลา การทิ้งขยะ การไม่นำสิ่งของกลับ พวกนี้จะหนักหน่อย แต่ถ้าเดินออกเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้าหน้าที่ พวกนี้ก็น้อยหน่อย ซึ่งกฎเกณฑ์เหล่านี้เราได้อบรมไกด์แล้วจำนวน 300 คน แบ่งเป็น 2 รุ่น เป็นการอบรมก่อนเปิดเกาะ เพื่อให้เข้าใจระเบียบของอุทยาน การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเบื้องต้น และการกู้ภัยทางทะเล ให้เขามีความรู้ความเข้าใจในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานฯ”
เมื่อถามว่ามาตรการเหล่านี้จะได้ผลในการจัดระเบียบบนเกาะตาชัยมากน้อยแค่ไหน นายณัฐกล่าวว่า ทางอุทยานฯ จะมีการประเมินผลกันอีกที
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ามาตรการต่างๆที่ทางอุทยานฯออกมา จะไม่สามารถเยียวยาปัญหาผลกระทบต่างๆบนเกาะตาชัยได้ จนมีผลการวิจัยจากหลายที่ ชี้ชัดถึงความเสื่อมโทรมของแนวปะการังชายฝั่งรอบเกาะตาชัยขยายวงอย่างรวดเร็ว ทำให้ล่าสุดในฤดูปิดเกาะตาชัยปีนี้(15 พ.ค. 59) ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาประกาศปิดเกาะตาชัยอย่างไม่มีกำหนด เพื่อให้ธรรมชาติบนเกาะพักฟื้น ซึ่งอาจจะกินเวลาในระยะสั้น 2-3 ปี หรือระยะยาวหลายปี หรือตลอดไป
นับได้ว่าในที่สุดเกาะตาชัยก็เดินทางมาถึงจุดนี้ จุดที่ต้องทำการปิดเกาะ!!!
ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องของผู้คนจำนวนมาก
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com