ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดตื่นเต้น! ฉลามวาฬโผล่หาดในยาง หลังไม่พบมานานกว่า 30 ปี ฝากช่วยดูแลอย่าทำร้าย หรือเข้าใกล้จนทำให้เกิดอันตราย เชื่อสาเหตุที่ฉลามวาฬเข้ามาเกิดจากความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ เจ้าหน้าที่บริหาร 7 งานบริหารทั่วไปฝ่ายรักษาความปลอดภัยและดับเพลิง ท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังพานักเรียนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ไปหัดขับเรือที่บริเวณอ่าวในยาง ห่างจากหัวทางวิ่งสนามบินที่ 09 ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็พบกับปลาฉลามวาฬขนาดยาวประมาณ 4 เมตร โผล่ขึ้นมาบริเวณหัวเรือเพื่อจับปลาเล็กๆ กินเป็นอาหาร ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่ฉลามวาฬตัวดังกล่าวโผล่ขึ้นมาผิวน้ำไม่นานนักก็ดำดิ่งหายไป คิดว่าว่าน่าจะตกใจเสียงเครื่องยนต์เรือเพราะว่ายน้ำเข้ามาใกล้เรือมาก
สำหรับการพบฉลามวาฬบริเวณอ่าวในยาง ถือว่าเป็นการพบครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านเคยพบฉลามวาฬมาแล้ว 1 ตัว แต่ครั้งนั้นพบฉลามวาฬแบบป็นซากที่ตายติดอยู่กับอวนของชาวประมง และลอยมาเกยตื้นที่ชายหาด แต่ครั้งนี้เป็นการพบกับฉลามวาฬตัวเป็นๆ ที่ยังสามารถว่ายน้ำหากินเองได้ สำหรับการพบฉลามวาฬในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สื่อให้เห็นว่า ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณหาดในยางเริ่มกลับมาสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปะการัง หรือสัตว์ทะเลที่เราไม่เคยพบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬ หรือเต่าทะเล ที่ว่ายน้ำเข้ามาเพื่อที่จะวางไข่ที่หาดในยาง แต่ยังติดปัญหาเรื่องของความพลุกพล่าน และเสียงดังรบกวนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ที่หาดในยางแต่อย่างใด
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ ยังได้กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้หลังมีการพบฉลามวาฬ คือ เรื่องของการรุกราน ทั้งโดยนักท่องเที่ยว และเรือประมงที่อาจจะฉวยโอกาสแล่นเรือเข้าไปใกล้ฉลามวาฬ จนอาจเป็นอันตรายต่อฉลามวาฬได้ โดยเฉพาะในส่วนของการวางอวนจับปลาของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งเกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายได้ จึงอยากขอความร่วมมือให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย อยากให้ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้เพื่อให้อยู่คู่กับทะเลไทยไปอีกยาวนาน
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่แนวปะการัง และทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่หาดในยางกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งก็เนื่องจากหลายๆ หน่วยงาน ทั้งท่าอากาศยานที่มีอาสาสมัครนักดำน้ำ ทางอุทยานฯ และหน่วยงานอื่นๆ ได้รับกันอย่างเต็มที่ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล มีการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ จะจัดให้มีโครงการดำน้ำเก็บขยะที่อ่าวในยางอีกครั้งภายใต้การสนับสนุนของท่าอากาศยานภูเก็ต
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ เจ้าหน้าที่บริหาร 7 งานบริหารทั่วไปฝ่ายรักษาความปลอดภัยและดับเพลิง ท่าอากาศยานภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังพานักเรียนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ไปหัดขับเรือที่บริเวณอ่าวในยาง ห่างจากหัวทางวิ่งสนามบินที่ 09 ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็พบกับปลาฉลามวาฬขนาดยาวประมาณ 4 เมตร โผล่ขึ้นมาบริเวณหัวเรือเพื่อจับปลาเล็กๆ กินเป็นอาหาร ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่ฉลามวาฬตัวดังกล่าวโผล่ขึ้นมาผิวน้ำไม่นานนักก็ดำดิ่งหายไป คิดว่าว่าน่าจะตกใจเสียงเครื่องยนต์เรือเพราะว่ายน้ำเข้ามาใกล้เรือมาก
สำหรับการพบฉลามวาฬบริเวณอ่าวในยาง ถือว่าเป็นการพบครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านเคยพบฉลามวาฬมาแล้ว 1 ตัว แต่ครั้งนั้นพบฉลามวาฬแบบป็นซากที่ตายติดอยู่กับอวนของชาวประมง และลอยมาเกยตื้นที่ชายหาด แต่ครั้งนี้เป็นการพบกับฉลามวาฬตัวเป็นๆ ที่ยังสามารถว่ายน้ำหากินเองได้ สำหรับการพบฉลามวาฬในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สื่อให้เห็นว่า ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณหาดในยางเริ่มกลับมาสมบูรณ์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นปะการัง หรือสัตว์ทะเลที่เราไม่เคยพบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬ หรือเต่าทะเล ที่ว่ายน้ำเข้ามาเพื่อที่จะวางไข่ที่หาดในยาง แต่ยังติดปัญหาเรื่องของความพลุกพล่าน และเสียงดังรบกวนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ที่หาดในยางแต่อย่างใด
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ ยังได้กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้หลังมีการพบฉลามวาฬ คือ เรื่องของการรุกราน ทั้งโดยนักท่องเที่ยว และเรือประมงที่อาจจะฉวยโอกาสแล่นเรือเข้าไปใกล้ฉลามวาฬ จนอาจเป็นอันตรายต่อฉลามวาฬได้ โดยเฉพาะในส่วนของการวางอวนจับปลาของชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งเกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายได้ จึงอยากขอความร่วมมือให้ระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย อยากให้ทุกคนเล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์สัตว์เหล่านี้เพื่อให้อยู่คู่กับทะเลไทยไปอีกยาวนาน
นายชนะ วงศ์ธนวิรุฬห์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่แนวปะการัง และทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่หาดในยางกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งก็เนื่องจากหลายๆ หน่วยงาน ทั้งท่าอากาศยานที่มีอาสาสมัครนักดำน้ำ ทางอุทยานฯ และหน่วยงานอื่นๆ ได้รับกันอย่างเต็มที่ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล มีการจัดกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ จะจัดให้มีโครงการดำน้ำเก็บขยะที่อ่าวในยางอีกครั้งภายใต้การสนับสนุนของท่าอากาศยานภูเก็ต
