หากใครกำลังมาหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวผจญภัย ลุยๆ แอดเวนเจอร์แบบสุดๆ แต่ว่าไม่มีเวลาที่จะขับรถเดินทางออกไปปีนเขา ล่องแก่ง หรือไปในที่ไกลๆ อยากได้ที่ใกล้ๆกรุงเทพ สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ลองมาที่ “นครนายก” แล้วคุณจะรู้ว่าที่นี่ไม่ได้มีของดีแค่ พระพิฆเนศ
นครนายกเป็นเมืองขนาดกลางที่อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 105 กิโลเมตร อุดมไปด้วยแหล่งธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่หลายๆท่านเมื่อนึกถึงนครนายก ก็จะนึกถึงการไหว้พระทำบุญ และการมาสักการะพระพิฆเนศทั้งสามปาง แต่จริงๆแล้ว นครนายกก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจวัยรุ่น “Gen Y” วัยที่ชอบการผจนภัย ท้าทาย และความตื่นเต้น หรือการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์นั้นเอง
สถานที่แรกที่จะพาไปนั้นก็คือ เขตทหารน่าเที่ยว “เขาชะโงก” แหล่งรวมกิจกรรมผจญภัยต่างๆภายใน “โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า” ซึ่งก่อนจะไปทำกิจกรรม เจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์อาคาร 100 ปี โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า” เสียก่อน
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพระบรมราชานุสรณ์แห่ง “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” องค์ผู้พระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และเป็นอนุสรณ์แห่งเกียรติประวัติของศิษย์เก่า โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ที่ได้สร้างสมคุณงามความดี รวมทั้งการแสดงประวัติการก่อตั้งตั้งแต่แรกเริ่ม ภายในอาคารมีการจัดแสดงวัตถุโบราณ ของใช้ และเครื่องแบบของนักเรียนนายร้อยมากมาย ถือว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์และสร้างแรงบรรดาลใจให้เด็กชายหลายๆคนอยากเข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อย จปร.
เมื่อได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และปลุกความเป็นทหารในตัวแล้ว เราก็ต้องมาทำกิจกรรมของจริง กับการ “ยิงปืนจริง” ที่ “สนามยิงปืนรร.จปร.” สำหรับมือใหม่ไม่ต้องกลัว เพราะที่มีมีผู้ดูแลและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด และสามารถเลือกได้เลยว่าอยากได้ปืนสั้นปืนยาว แล้วแต่ความถนัด
มาต่อกันที่กิจกรรมทางน้ำ “พายเรือคยัค” (คนละ40บาท) ซึ่งเรือคยัคลำนึงจะพายสองคน โดยสามารถเพิ่มความสนุกด้วยการพายแข่งกันก็ได้ และหากใครที่อยากทำกิจกรรมทางน้ำแบบไม่ต้องใช้แรงมาก ที่เขาชะโงก ก็ยังมีจักรยานน้ำ(คนละ40บาท)ให้ปั่นเล่นกันแบบชิวๆอีกด้วย
หลังจากนั้น ก็มาต่อกันที่ด่านฝึกสมาธิ และความแม่นยำกันที่ “สนามยิงธนู” (คนละ50บาท) ซึ่งมีครูผู้สอนคอยแนะนำและดูแลอย่างใกล้ จึงม่ต้องห่วงเรื่องความอันตราย และยังมีเป้าวัดคะแนนให้ได้ถ่ายรูปไว้อวดโชว์ความแม่นยำกับเพื่อนๆอีกด้วย
ขยับความท้าทายขึ้นมาหน่อยกับกิจกรรมที่เล่นกันเป็นกลุ่มอย่าง “ยิงปืนเพ้นท์บอล” (คนละ200บาท) ซึ่งที่นี่ นอกจากจะมีสนามให้แข่งขันกันแบบเป็นธีมแล้ว ยังมีอุปกรณ์แต่งตัว ทั้งหน้ากากป้องกัน ชุดทหารและรองท้า ซึ่งอุปกรณ์พวกนี้ไม่ได้เพียงไว้เสริมหล่อเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการบาดเจ็บอีกด้วย
แต่หากใครที่ชื่นชอบการปั่นจักยาน ชมธรรมชาติ ก็ไม่ควรพลาดเส้นทางปั่นจักรยานที่ “อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ” วิวทิวทัศน์สองข้างทางที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเย็นสบาย ยิ่งมาปั่นจักรยานแบบเป็นกลุ่มในช่วงเช้าๆยิ่งสนุก วิวตอนเช้าที่นี้เรียกได้ว่าสวดจนต้องหยุดพักปั่นจักรยานชั่วครู่แน่นอน
หรือจะเป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่6 “เขื่อนขุนด่านปราการชล” หรือชื่อเดิมที่เรียกว่า “เขื่อนคลองท่าด่าน” ซึ่งเขื่อนขุนด่านปราการชลเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์ และปั่นจักรยานเหนือสันเขื่อน ซึ่งสามารถมองเห็นตัวเมืองนครนายกและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ที่สันเขื่อน นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือหางยาวเพื่อชมน้ำตกที่อยู่ลึกเข้าไปในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนได้อีกด้วย
และหากใครที่ชื่นชอบความไว และความท้าทาย ก็ไม่ควรพลาดกิจกรรม “ขับรถATV” เส้นทางชมสวนเลี้ยงกวาง ตะลุยทางเรียบลำธาร ที่ “RATV” ซึ่งมีบริเวณพื้นที่กว้างถึง 500 ไร่ มีรถ ATV ไว้รองรับบริการถึง 100 คัน และหากเป็นช่วงฤดูการของผลไม้ ก็สามารถแวะชิมสดๆในสวนได้ฟรี อาทิ ส้มโอ มะยมชิด เป็นต้น
เส้นทางไปกลับมี 3 เส้นทางให้เลือก แล้วแต่ความชื่นชอบโดยแต่ละเส้นทางจะมีวิวทิวทัศน์และระยะทางที่ต่างกันออกไป รวมถึงความวิบากของเส้นทางเช่นกัน เรียกได้ว่ายิ่งไกลยิ่งโหด เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึง เพราะทาง ARTV จะมีสตาฟดูแลนักท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง ราคาเริ่มต้นที่คันละ 600 บาท
เมื่อทำกิจกรรมจนเหนื่อยล้า ก็ควรที่จะแวะผ่อนคล้ายกันบ้าง ที่ “วังรี รีสอร์ท” แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่นี่มีจุดเด่นก็คือ “อบเซาน่าเกลือ” (คนละ 1,200บาท ไม่จำกัดเวลา) แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นถ้ำเกลือสร้างจากเกลือบริสุทธิ์ที่ผ่านการเผาด้วยความร้อน 1,000C ช่วงล้างพิษออกจากร่างกาย ผิวพรรณสดใส และยังมีบริการนวดแผนไทย นวดนำมัน และบริการอื่นๆไว้รองรับอีกด้วย
ก่อนจะกลับก็แวะซื้อ “เมล่อน” ปลอดสารพิษกันที่ “พ.ฟาร์ม” อำเภอบ้านนา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของนครนายก ที่นี่นอกจากจะมีแปลงเมล่อนหลากหลายสายพันธุ์ให้ชมและทานกันแล้ว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากเมล่อนให้ชิมและจำหน่าย อาทิ ไอศกรีมเมล่อน ซาลาเปาเมล่อน สาคูเมล่อนนมสด ซึ่งหากใครติดใจอยากซื้อเมล่อนกลับบ้าน ก็สามารถซื้อได้ในราคาส่งจากฟาร์มอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก (รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครนายก, ปราจีนบุรี, สระเก้ว) โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com
