xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยว “นครศรีฯ” ดูของดีที่ “ขนอม” โลมาน่ารัก-สปาปลาจั๊กจี้เท้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พระบรมธาตุเมืองนครฯที่กำลังอยู่ระหว่างการบูรณะ
“นครศรีธรรมราช” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ได้รับการส่งเสริมจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้เป็น "เมืองต้องห้าม...พลาด" เพราะในจังหวัดนี้เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจซึ่งนักท่องเที่ยวบางคนอาจยังไม่เคยได้เข้ามาสัมผัส และนอกจากจะเป็นเมืองที่ไม่อยากให้พลาดมาเที่ยวชมแล้ว ครั้งนี้ ททท.ยังได้จัดทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับผู้หญิง หรือ Lady's Journey ให้ผู้หญิงได้ออกเดินทางมาชมสิ่งสวยๆ งามๆ และแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และชมธรรมชาติที่อำเภอขนอมกันด้วย

เมื่อมาถึงเมืองคอน ก็ต้องไม่พลาดมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ที่มี “พระบรมธาตุเจดีย์” อันศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ เป็นที่เคารพของผู้คนในแถบนี้ องค์เจดีย์เป็นทรงลังกาหรือระฆังคว่ำ ปลียอดหรือยอดเจดีย์หุ้มด้วยทองคำแท้ ขณะที่รอบองค์พระมหาธาตุเจดีย์ก็มีเจดีย์รายรอบอย่างสวยงามถึง 158 องค์ แต่ขณะนี้องค์พระธาตุกำลังอยู่ระหว่างการบูรณะ แต่เชื่อว่าไม่ช้าไม่นานคงจะบูรณะสำเร็จงดงามดังเดิม
เจดีย์รายถูกพันด้วยผ้าสีเหลือง ในช่วงของการแห่ผ้าขึ้นธาตุที่เชื่อกันว่าได้อานิสงส์แรง
“พระบรมธาตุเมืองนคร” แห่งนี้ ตามตำนานกล่าวว่า สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณ พ.ศ.854 ด้วยศิลปะการก่อสร้างแบบศรีวิชัย (หลายคนเชื่อว่ามีลักษณะคล้ายพระบรมธาตุไชยา จ.สุราษฎร์ธานี) ภายในบรรจุพระทันตธาตุ (ส่วนฟันของพระพุทธเจ้า) ต่อมาใน พ.ศ.1093 พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้น พร้อมกับสร้างเจดีย์องค์ใหม่ทรงศาญจิครอบพระบรมธาตุองค์เดิม ต่อมาใน พ.ศ.1770 มีพระภิกษุจากลังกามาบูรณะองค์พระบรมธาตุให้เป็นแบบทรงลังกาหรือทรงโอคว่ำดังที่เห็นในปัจจุบัน


พุทธศาสนิกชนชาวใต้ต่างเชื่อกันว่าการได้ห่มผ้าพระบฏบูชาพระบรมธาตุถือว่าเป็นมงคลสูงสุดของชีวิต โดยที่วัดพระมหาธาตุได้มีการจัดงานใหญ่ “แห่ผ้าขึ้นธาตุ” ขึ้นในช่วงวันมาฆบูชาของทุกปี แต่อย่างไรก็ดีธรรมเนียมนี้ยืดหยุ่นชาวพุทธสามารถมาทำบุญห่มผ้าพระบฏบนลานประทักษิณบูชาองค์พระธาตุในช่วงวาระไหนก็ได้ตามที่แต่ละคนสะดวก
ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ ประดิษฐานอยู่ขนาบข้างประตูทางเข้าลานเจดีย์
และหากได้มาสักการะพระบรมธาตุแล้ว ต้องไม่พลาดไปกราบองค์เทพผู้ปกปักรักษาพระธาตุซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารพระม้า ซึ่งเป็นบันไดทางขึ้นไปยังลานเจดีย์ บริเวณด้านซ้าย-ขวา มีรูปปั้นของเทพผู้พิทักษ์คือ ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ ประดิษฐานอยู่ขนาบข้างประตูทางเข้า-ออก องค์พระธาตุ ท้าวขัตตุคาม-รามเทพ เป็นเทพที่เชื่อว่าคือท้าวจตุคามรามเทพอันลือลั่นแห่งเมืองนคร นอกจากเทพทั้งสองแล้วที่นี่ยังมีผู้พิทักษ์อื่นๆ อาทิ ท้าวจตุโลกบาล นาค ครุฑ สิงห์ เป็นต้น และนอกจากสิ่งที่กล่าวมานี้แล้ว ที่วัดพระบรมธาตุยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายที่หากตั้งใจชมกันจริงๆ จังๆ แล้วก็สามารถใช้เวลาได้ทั้งวันเลยทีเดียว
วาที ทรัพย์สิน กำลังสาธิตการเล่นหนังตะลุง
และไม่ไกลจากวัดพระมหาธาตุ ก็เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านหนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน” ที่เรามาเยี่ยมชมกันเป็นจุดต่อไป แม้ในวันนี้ “สุชาติ ทรัพย์สิน” ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงพื้นบ้าน (หนังตะลุง) และนายหนังตะลุงอาวุโสเจ้าของบ้านหลังนี้จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมา แต่ลูกชาย “วาที ทรัพย์สิน” ยังคงสืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาในการสืบสานศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของหนังตะลุงไว้ไม่ให้สูญหาย
ภายในพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง
วิธีแกะหนังตะลุงที่ต้องใช้ความละเอียด
ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับหนังตะลุงอย่างสมบูรณ์แบบ โดยนอกจากวาทีจะเป็นผู้บรรยายถึงประวัติความเป็นมาของหนังตะลุงอย่างละเอียดรู้จริงแล้ว ที่นี่ก็ยังเก็บสะสมแผ่นหนังตะลุงรุ่นเก่าแก่โบราณ ทั้งของไทยและของประเทศเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมและการละเล่น “หนัง” เหมือนกัน ไว้ให้ชมในพิพิธภัณฑ์ และนอกจากนั้นที่นี่ยังมีการแกะหนังตะลุงเพื่อใช้เล่นและจำหน่ายเป็นของตกแต่งของที่ระลึก และแน่นอนว่าที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เด็กๆ ได้เข้ามาฝึกเล่นหนังตะลุง เพื่อให้การละเล่นพื้นบ้านอันเก่าแก่นี้ให้คงอยู่ต่อไป
ตัวหนังที่มีจำหน่ายแก่ผู้ที่สนใจ
บรรยากาศของคลองท่าดีที่ไหลผ่านหมู่บ้านคีรีวง
ก่อนจะเดินทางยาวๆ ไปยังอำเภอขนอม ขอแวะไปที่อำเภอลานสกา ไปเที่ยวที่ “บ้านคีรีวง” ชุมชนเก่าแก่ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาและสายน้ำ มี “คลองท่าดี” เป็นลำธารขนาดใหญ่ไหลผ่าน สร้างทัศนียภาพอันงดงามให้แก่หมู่บ้านแห่งนี้ รวมถึงวิถีชีวิตชาวบ้านในชุมชนนั้นก็สงบเรียบง่าย อาชีพหลักส่วนใหญ่คือการทำ “สวนสมรม” หรือสวนผลไม้ผสม เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ และยังได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ติดอันดับประเทศอีกด้วย
เตรียมต้มผ้ามัดย้อม
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมได้ที่กลุ่มใบไม้
ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีกิจกรรมท่องเที่ยวให้ทำหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยานเที่ยวชมในหมู่บ้าน กินอาหารอร่อยๆ หรือพักสบายแบบโฮมสเตย์ เล่นน้ำคลายร้อนกันในคลองท่าดี หรือจะมาทำกิจกรรมเรียนรู้ไปกับคนในหมู่บ้านที่จัดตั้งเป็นกลุ่มๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการทำผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมกับ “กลุ่มใบไม้” มาลองทำผลิตภัณฑ์เครื่องประดับแฮนด์เมดกับ “กลุ่มลูกไม้” ก็สนุกถูกใจเพลิดเพลินไม่น้อยเลย
สปาปลาท่ามกลางธรรมชาติที่ต้นธาร รีสอร์ท
ที่ “ต้นธาร รีสอร์ท แอนด์ สปา” เขามีการบำบัดด้วย “สปาปลา” ซึ่งใช้ปลาในธรรมชาติ นั่งแช่เท้ากันในลำธารธรรมชาติ ได้บรรยากาศความผ่อนคลายเป็นอย่างยิ่ง โดยปลาที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานสปามีอยู่ 4 พันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ ปลาซิวใบไผ่ ปลาลายเสือ ปลาหางแดง และปลาพื้นเมืองอีกหนึ่งชนิด ปลาเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนให้ทำหน้าที่ตอดกินเศษเนื้อหนังจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วจากเท้าของคน

ส่วนคนที่มานั่งให้ปลาตอดนั้น นอกจากความจั๊กจี้ที่แทบจะทนไม่ได้แล้ว ปลาเหล่านั้นก็ช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตาย กระตุ้นเซลล์ใหม่ให้เกิด และยังได้คุณประโยชน์อีกหลายอย่าง เพราะเท้านั้นเป็นจุดศูนย์รวมของเส้นประสาท การที่ปลามาตอดจึงเป็นการกระตุ้นปลายประสาท ทำให้เลือดสูบฉีด อีกทั้งความจั๊กจี้ยังช่วยเปิดกะบังลมทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้ดี ที่สำคัญคืออารมณ์ดีเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศดีๆ รอบข้างอย่างแน่นอน

ซึ่งหากใครมาพักที่นี่ก็สามารถใช้บริการสปาปลาได้ฟรี แต่หากเพียงอยากมาแวะเวียนใช้บริการแค่สปาปลาก็ทำได้ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 150 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้ยังรวมค่าเข้าชมฟาร์มแกะของรีสอร์ทอีกด้วย
แล่นเรือชมบรรยากาศทะเลขนอม
และจุดมุ่งหมายสุดท้ายในทริปนครศรีฯ วันนี้ก็คือที่ “ทะเลขนอม” โดยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนขนอมมักมีจุดมุ่งหมายคล้ายกัน คือต้องการมาชม “โลมาสีชมพู” แห่งทะเลขนอม ทุกคนจึงต้องมุ่งหน้ามาลงเรือเตรียมล่องทะเลกันที่จุดบริการเรือท่องเที่ยวที่บ้านแหลมประทับ และนั่งเรือที่ลักษณะเหมือนเรือหาปลาของชาวบ้านออกสู่ทะเลกัน
โลมาสีชมพูที่มองเห็นแต่เพียงไกลๆ
จุดที่คนเรือมักพาเราไปชมโลมานั้นก็อยู่บริเวณใกล้ๆ กับท่าเรือเฟอร์รี่ แต่หากใครโชคดีก็จะได้เจอโลมามาแหวกว่ายเล่นน้ำให้ชมระหว่างทาง โดยคนขับเรือจะคอยสังเกตในท้องทะเลว่ามีโลมาตัวไหนว่ายเล่นอยู่ใกล้ๆ หรือไม่ แล้วจะพาเข้าไปชมในจุดนั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ออกเรือมาส่วนใหญ่ก็จะได้เห็นโลมากันทั้งนั้น แต่จะได้เห็นแบบใกล้หรือไกล จับภาพได้ชัดเจนแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน
หน้าผาหินดูคล้ายหินพับผ้าน่าอัศจรรย์
แต่สิ่งน่าสนใจที่จะได้ชมแน่ๆ ในระหว่างทางก็คือ “เขาหินพับผ้า” มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่เกิดขึ้นมานานกว่า 265 ล้านปีมาแล้ว เขาหินพับผ้านั้นมีลักษณะเป็นแนวหน้าผาหินอันแข็งแกร่ง ที่มองดูแล้วเหมือนมีแผ่นหินวางสลับทับซ้อนกันไปมา ราวกับผ้าที่ถูกพับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ทั้งแนวเขา ดูแล้วสวยงามน่าอัศจรรย์ใจ
เกาะนุ้ย หรือเกาะหลวงปู่ทวด
และนอกจากหินพับผ้าแล้ว กลางทะเลขนอมก็ยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งก็คือ “บ่อน้ำจืดกลางทะเล” ซึ่งตั้งอยู่บน “เกาะนุ้ย” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “เกาะหลวงปู่ทวด” เกาะแห่งนี้มีขนาดเล็กนิดเดียว แต่น่าทึ่งตรงที่มีบ่อน้ำจืดธรรมชาติอยู่กลางทะเล ซึ่งจะมองเห็นก็ต่อเมื่อน้ำทะเลลดลงไป ชาวบ้านแถบนี้เชื่อว่าบ่อน้ำจืดแห่งนี้คือบริเวณที่หลวงปู่ทวดเคยมาเหยียบน้ำทะเลให้กลายเป็นน้ำจืดเพื่อช่วยเหลือลูกเรือสำเภาที่กำลังขาดน้ำ ดังนั้นบนเกาะเล็กๆ แห่งนี้จึงมีรูปหล่อของหลวงปู่ทวดอยู่ด้านบนให้ผู้คนที่ศรัทธาขึ้นไปกราบไหว้เป็นสิริมงคลกันด้วย
ขึ้นไปกราบสักการะหลวงปู่ทวดด้านบนเกาะนุ้ย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก หรือข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราชได้ที่ ททท.นครศรีธรรมราช โทร. 0 7534 6515 - 6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น