ในแต่ละท้องที่ ต่างก็มีความเชื่อและเรื่องเล่าของคนในท้องถิ่นที่เล่าสืบต่อกันมา ส่วนมากแล้วจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งเร้นลับต่างๆ ที่ต่อมาก็กลายเป็นสิ่งดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาเยือน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงหยิบยกเอาสิ่งเหล่านี้มาผนวกกับการท่องเที่ยว ให้เป็นโครงการ “เขาเล่าว่า...” นำเรื่องเล่าของแต่ละท้องที่มานำเสนอให้คนเดินทางเพื่อไปเห็นและไปฟังเรื่องราวนั้นถึงท้องถิ่น
อย่างเช่นที่จังหวัดจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเรื่องเล่าที่ ททท. ชูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว “เขาเล่าว่า...” ถึง 2 แห่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือ
"พระแอด-พระพวย" ขอลูกได้ หายเจ็บป่วย
“เขาเล่าว่า...” แห่งแรก อยู่ที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่ง นามว่า “พระกัจจายนะ” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “พระแอด” ซึ่งประดิษฐานอยู่ใน “วิหารพระมหากัจจายนะ (พระแอด)”
“พระแอด” เป็นพระพุทธรูปสีทองอร่าม ลักษณะรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์ ใบหน้ายิ้มแย้มมีเมตตา เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนในแถบนั้น ซึ่งนิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรในเรื่องของสุขภาพและความเจ็บป่วย เพราะเชื่อกันว่าพระแอดจะช่วยดลบันดาลให้หายจากความเจ็บไข้ โดยเฉพาะอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง
สำหรับวิธีไหว้ขอพรจากพระแอดนั้น ให้เข้าไปกราบไหว้ตามปกติ เมื่อกราบพระเสร็จแล้วให้เดินอ้อมไปบริเวณด้านหลังองค์พระแอด ตั้งจิตอธิษฐานต่อพระแอดให้ช่วยปัดเป่าอาการเจ็บป่วยปวดเมื่อยที่เป็นอยู่ จากนั้นให้หยิบท่อนไม้กลมๆ ที่ตั้งอยู่ในตระกร้าบริเวณมุมวิหารมาลูบตามเนื้อตัวบริเวณที่เจ็บปวด จากนั้นนำท่อนไม้ไปวางค้ำยันบริเวณด้านหลังพระแอด เป็นอันเสร็จพิธี
นอกจากความเจ็บป่วยแล้ว อีกหนึ่งอภินิหารของพระแอดที่เป็นประจักษ์ก็คือการ “ขอลูก” ซึ่งเชื่อกันว่าท่านมีเมตตาบันดาลลูกให้แก่ผู้ที่มีลูกยาก ความสำเร็จตามคำขอนั้นวัดได้จากตู้กระจกบานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในวิหารพระแอด ซึ่งอัดแน่นไปด้วยรูปเด็กทารกหน้าตาน่ารักทั้งชายหญิง โดยรูปถ่ายของเด็กๆ เหล่านี้ก็คือภาพที่พ่อแม่นำมาถวายหลังจากที่มากราบขอลูกจากพระแอดและได้ลูกชายหญิงสมหวังอย่างที่ตั้งใจ
การนำรูปถ่ายมาฝากไว้ในวิหารพระแอดนี้ก็เหมือนกับการแก้บนกลายๆ และเหมือนเป็นการฝากฝังลูกตนให้พระแอดช่วยคุ้มครอง ซึ่งทางวัดก็ได้เก็บรวบรูปถ่ายเด็กๆ เหล่านี้ไว้เป็นอัลบั้มใหญ่ๆ หลายเล่มเลยทีเดียว และนอกจากนั้น พ่อแม่ก็จะพาลูกของตนมากราบไหว้พระแอดด้วยตัวเองอีกครั้ง บางคนก็พามาตั้งแต่ยังแบเบาะ บ้างก็พามาเมื่อเติบโตแล้ว ภาพของพ่อแม่ลูกที่พากันมาไหว้พระพร้อมกันทั้งครอบครัวดูเป็นภาพที่น่ารักไม่น้อย
พูดถึงเรื่องขอลูกแล้ว มีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่คนนิยมไปขอลูกไม่น้อยไปกว่าพระแอด นั่นก็คือ “พระพวย” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัย ทรงเครื่องน้อย ประดิษฐานอยู่บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ ในตู้กระจกซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพวยก็มีรูปเด็กน้อยหลายคนวางไว้เช่นเดียวกับพระแอด ด้วยความเชื่อเดียวกันว่า หากขอลูกจากพระพวยแล้วสมหวัง ก็จะต้องนำภาพถ่ายของลูกมาถวายให้ท่านได้เห็นหน้า ซึ่งรูปถ่ายในตู้ที่เห็นนั้นเป็นส่วนน้อย เพราะส่วนใหญ่ก็ถูกเก็บรักษาไว้ในอัลบั้มภาพเล่มใหญ่เช่นเดียวกัน
“ไอ้ไข่-ขอได้”
ที่ “วัดเจดีย์” อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช มีเรื่องราว “เขาเล่าว่า...” ของ “ไอ้ไข่” ที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณเด็กศักดิ์สิทธิ์ (คำว่าไอ้ไข่เป็นคำที่ชาวบ้านในภาคใต้มักใช้เรียกเด็กชายตัวเล็กๆ) มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาหลายแบบ บ้างก็ว่า ชาวบ้านแถวนั้นเคยเห็นเด็กวิ่งเล่นอยู่ในบริเวณวัดเสมอๆ แต่เมื่อเข้าไปดูก็ไม่พบว่ามีเด็กมาอยู่อาศัยในบริเวณนั้นแต่อย่างใด เมื่อเจอบ่อยๆ เข้าชาวบ้านจึงเชื่อว่าเด็กที่ปรากฏให้เห็นนั้นเป็นวิญญาณ และเรียกว่าเป็น “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” เมื่อใครมีเรื่องเดือดร้อน ข้าวของสูญหายก็มักมากราบไหว้บนบานไอ้ไข่ให้ช่วยเหลือ
อีกตำนานหนึ่งก็ว่า ไอ้ไข่คือวิญญาณเด็กที่ติดตามหลวงปู่ทวด เกจิดังแห่งปักษ์ใต้เมื่อหลวงปู่ธุดงค์มาถึงบริเวณที่เป็นวัดเจดีย์ในปัจจุบันก็รับรู้ด้วยญาณของท่านว่าที่นี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีทรัพย์สมบัติโบราณฝังอยู่ จึงให้วิญญาณของไอ้ไข่นี้เฝ้าดูแลรักษาสมบัติของแผ่นดินอยู่ที่นี่
อย่างไรก็ตาม “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” (หรือที่บางคนเรียกว่า “ตาไข่” แทนคำว่า “ไอ้” เพื่อแสดงความเคารพ) ก็ยังคงขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาจนถึงปัจจุบัน โดยทางวัดได้สร้างรูปจำลองของไอ้ไข่ให้ผู้คนมากราบไหว้ปิดทอง ในแต่ละวันก็จะมีผู้คนเดินทางมากราบไหว้กันไม่ขาดสาย ส่วนมากแล้วก็จะมาขอเรื่องโชคลาภ ให้ร่ำให้รวย ให้ค้าขายได้กำไรดีเงินทองไหลมาเทมา บ้างก็มาขอเรื่องของหายขอให้ได้คืน ฯลฯ และสิ่งของที่นำมาแก้บนนั้นก็มีหลากหลาย ที่เห็นมีเป็นจำนวนมากก็เป็นพวกรถของเล่น ชุดเสื้อผ้าของเด็ก ชุดทหารของเด็ก ตุ๊กตาทหาร ตุ๊กตาไก่ชน รวมไปถึงขนม น้ำแดง และไข่ต้ม อีกทั้งบางคนยังเลือกการจุดประทัดเพื่อแก้บนอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งแรงศรัทธา ที่เขาเล่ากันว่า “ขอได้-ไหว้รับ” ที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก หรือข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในนครศรีธรรมราชได้ที่ ททท.นครศรีธรรมราช โทร. 0 7534 6515 - 6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com