ฉันเป็นคนหนึ่งที่ชอบงานศิลปะอย่างมาก เพราะงานศิลปะมันมักจะมีเสน่ห์บางอย่างให้หลงใหล ถ้าหากใครผ่านไปย่าน ถ.ทรงวาด, เจริญกรุง จะพบว่ามีผลงานสตรีทอาร์ตโผล่บนกำแพงและตัวอาคารหลายจุด ไม่ต้องแปลกใจ เพราะสิ่งเหล่านี้คือผลงานสตรีทอาร์ต ที่สร้างสรรค์โดยศิลปินไทยและนานาชาติ ที่ได้เข้าร่วม เทศกาลเมืองศิลปะ “บุกรุก” (BUKRUK Urban Arts Festival) ครั้งที่ 2 ที่ผ่านมาเมื่อต้นปี และในวันหยุดนี้ฉันจึงขอเดินสำรวจผลงานเหล่านี้ที่ถูกสร้างสรรค์ทิ้งไว้ ให้เราได้เดินชมกัน
โดยจุดแรกที่ฉันไปเดินชมนั้นคือ ซอยเจริญกรุง 32 ติดกับไปรษณีย์กลางบางรัก เนื่องจากเป็นซอยที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย มีแต่ท่าเรือที่ขึ้นเรือไว้สำหรับนักท่องเที่ยว ทำให้กำแพงแถวนั้นกลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ผลงาน จึงเป็นที่ที่มีศิลปินหลายท่านได้ฝากฝีมือทิ้งไว้ อาทิ Alex face, Kult, Bonus, โลเล - ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ฯลฯ จึงกลายเป็นจุดยอดนิยมอีกแห่งที่หากใครเดินมาชมศิลปะอยากถ่ายรูปชิกๆ ต้องมาซอยนี้เท่านั้น
หลังจากชมกำแพงศิลปะที่ซอยเจริญกรุง 32 แล้ว ฉันก็เดินไปตามถนนจนถึงซอยเจริญกรุง 30 และเดินเข้ามาจนเกือบจะสุดซอย ก็จะเจอกับผลงานอันยิ่งใหญ่ของ Sten and Lex สองศิลปินจากอิตาลี เป็นผลงานได้รับการยกย่องในด้านความละเอียดเป็นอย่างมาก เพราะมีขั้นตอนในการสร้างอย่างพิถีพิถัน เพราะในการทำให้เกิดสตรีทอาร์ต ภาพนี้นั้น ใช้โดยการแปะกระดาษทั้งตึกแล้วค่อยๆ ทาสีเอาไม้บรรทัดทาบ ต่อด้วยคัตเตอร์กรีด กลายเป็นผลงานภาพ Abstract ลายเส้นสีดำที่มีความสวยงามผลงานหนึ่งที่ถูกสร้างสรรค์ทิ้งไว้ในถนนเจริญกรุงแห่งนี้
ชมศิลปะแล้วฉันก็เดินไปตามตรอกกัปตันบุช ซึ่ง “กัปตันบุช” หรือ “นายจอห์น บุช” นั้น เป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ของไทย เป็นพ่อค้าและนักเดินเรือสัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ในตำแหน่ง “เจ้าท่ายุโรป” แม้ปัจจุบันจะไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับบ้านเรือนของกัปตันบุช แต่สิ่งที่ยังคงเหลือเป็นอนุสรณ์ นั่นคือ ตรอกที่ตั้งบ้านเรือนของท่าน เรียกว่า “ตรอกกัปตันบุช” ปัจจุบันตรอกกัปตันบุชมีชื่อเป็นทางการว่า ซอยเจริญกรุง 30 ที่ฉันเดินเข้ามาชมศิลปะนั่นเอง
ฉันเดินไปสักพักในตรอกกัปตันบุช ก็ได้พบอาคารเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามกับโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ เชื่อกันว่าเป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรปแบบนีโอคลาสสิก เดิมเป็นอาคารที่บริษัทกลั่นสุราฝรั่งเศสสาขากรุงเทพฯ ได้เช่าสร้างขึ้น เพื่อใช้เป็นที่ทำการ ซึ่งความพิเศษของบ้านหลังนี้คือ เป็นบ้านเลขที่ 1 ในเขตบางรักอีกด้วย
ชมเพลิดเพลินแล้ว ฉันจึงเดินต่อไปทางออกถนนสี่พระยา มุ่งหน้าเข้า ถ.เจริญกรุง ไปยังซอยเจริญกรุง 28 ชมผลงาน “บุกรุก” ของ Daehyun Kim ศิลปินจากเกาหลี ซึ่งได้วาดรูปคนนั่งอ่านหนังสือในห้อง เป็นผลงานการวาดที่ใช้สีขาวดำ ส่วนอีกด้านก็จะเป็นผลงานของ Saddo ศิลปินจากโรมาเนีย ซึ่งวาดเป็นรูปนกใส่เสื้อแดงลาย อยู่บนผนังอาคาร ตรงปากซอย ถ.เจริญกรุง 28
ฉันถ่ายรูปสนุกสนานแล้วก็เดินข้ามถนนมาอย่างฝั่งตรงข้าม ก็จะพบซอกเล็กๆ ระหว่างตึก มีภาพวาดน่ารักๆ ซ่อนอยู่ ซึ่งภาพวาดเหล่านี้เป็นศิลปินชาวไทยได้วาดทิ้งไว้ จะมีทั้งรูปเด็กผู้หญิง รูปหนู และไฮไลต์โดนใจมากที่สุด นั่นคือรูปเจ้าแมวน้อย “JUDY” ซึ่งนางแบบของรูปก็นอนอยู่ในซอยนั้น น่ารักเหมือนในรูปวาดเลยทีเดียว เป็นที่ถูกอกถูกใจของคนที่พบเห็น
จากนั้นเดินต่อไปยังซอยวานิช 2 ชมความงดงามของ “วัดแม่พระลูกประคำ” หรือมีชื่อเรียกอีกว่า “วัดกาลหว่าร์” เป็นวัดคาทอลิกเก่าแก่ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบกอทิก ปัจจุบันโบสถ์เก่าอันนี้มีอายุรวม 124 ปีแล้ว ถือเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ฉันก็เดินออกลัดเลาะย่านตลาดน้อย ชมผลงานสตรีทอาร์ตที่แฝงอยู่ในย่านตลาดน้อยของ Escif ศิลปินชาวสเปนที่เข้าร่วมเทศกาลเมืองศิลปะ “บุกรุก” ซึ่งความพิเศษอยู่ตรงที่ศิลปินคนนี้จะวาดรูปแฝงไปกับชุมชน เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต สถานที่นั้นๆ ทำให้เวลาฉันดูภาพเหล่านี้ มีความสุขและสนุกสนานไปกับการหาภาพต่างๆ ที่ซ่อนอยู่ในย่านตลาดน้อย
จากนั้นฉันเดินไปก็แวะสักการะ “ศาลเจ้าโจวซือกง” ที่อยู่ในย่านนี้สักหน่อย ศาลเจ้าแห่งนี้มีลักษณะตัวอาคารรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนฮกเกี้ยนโบราณ ตามหินศิลาบันทึกของศาลเจ้าบันทึกไว้ว่า สร้างตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 1 โดยเศรษฐีชาวจีนฮกเกี้ยนแซ่โซว ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเปิดโรงเผาถ่าน ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านบ้านตลาดน้อย ได้นำพาเทพพระเจ้าเฉ่งจุ้ยจ้อซูกง ที่ตนนับถือมาแต่เมืองจีนมาบูชา และได้ตั้งศาลเจ้าให้ท่านได้ประทับ ทำให้ศาลของพระเฉ่งจุ้ยจ้อซูกงได้รับความนับถือมาก ห้องโถงภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงปู่โจวซือกง” มีลักษณะเด่นทั้งองค์เป็นสีเปลือกมังคุด ห่มคลุมด้วยจีวรแบบพระนิกายจีนสีเหลืองอร่าม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธายิ่งนักของคนในย่านนี้
ฉันเดินอกจากตลาดน้อยมุ่งหน้าไปยังถนนทรงวาด ตรงข้ามวัดปทุมคงคา ชมผลงานศิลปะที่หลายต่อหลายคนชอบมากรวมทั้งฉันด้วย เพราะด้วยสีสันความสวยงามแล้วทำเลที่ตั้งยังเห็นเด่นชัดมาแต่ไกล นั่นคือผลงานของศิลปินหญิง Aitch จากโรมาเนีย ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานไว้ เป็นรูปเสือขาวบนพื้นหลังสีชมพู มีลายดอกไม้ใบไม้ สวยงาม หากใครขับรถผ่านไปผ่านมาต้องพบเจอและจดจำผลงานชิ้นนี้ได้อย่างแน่นอน
จากนั้นเดินมาอีกนิดจะเจอผลงานของ Roa และ Aryz ศิลปินจากเบลเยียมและสเปน ณ ลานตู้เหลือง บน ถ.ทรงวาด โดยผลงานของ Roa ศิลปินเบลเยียมนั้นได้วาดรูปช้างสองตัวบนกำแพง ใช้เทคนิควาดกันแบบสดๆ ไม่มีการร่างแบบใดๆ มาก่อน ซึ่งศิลปินได้เลือกช้างมาเป็นแบบในการวาด เพราะด้วยประเทศไทยเป็นประเทศที่มีช้างเป็นสัตว์สำคัญจึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการวาดรูปจนเกิดผลงานที่สวยงามขนาดนี้ ส่วนศิลปิน Aryz วาดรูปจักรยานซ้อนกันหลายๆ คัน ใช้สีโทนอ่อน ทำให้ภาพเวลามองดูสบาย เป็นผลงานอีกชิ้นที่พูดถึงกันอย่างมาก
และนั่นเป็นผลงานบางส่วนจาก เทศกาลเมืองศิลปะ “บุกรุก” (BUKRUK Urban Arts Festival) ที่ฉันได้ไปเดินชมมาเท่านั้น ซึ่งแต่ละชิ้นผลงานได้สร้างขึ้นแฝงไว้กับตึกรามบ้านช่อง มีความโดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน หากใครที่ชอบศิลปะเหล่านี้ ไม่ควรพลาดในการมาชม ก่อนที่ศิลปะเหล่านี้จะเลอะเลือนไปตามกาลเวลา
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com