xs
xsm
sm
md
lg

7 แหล่งท่องเที่ยวมี “หัวใจ” !! มอบรักใสๆ ในวันแห่งความรัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

หัวใจกลางผืนป่า “น้ำตกปิตุโกร”
แม้เทศกาลวาเลนไทน์จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคนไทย แต่ก็ต้องขอกล่าวคำว่า “สุขสันต์วันแห่งความรัก” เพื่อให้เข้ากับกระแส 14 กุมภา วันวาเลนไทน์ กันเสียหน่อย

ในวันแห่งความรักนี้หลายคนนิยมใช้รูป “หัวใจ” แสดงถึงความรักความห่วงใยต่อคนที่รัก ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงความรัก เราจึงขอพาไปเที่ยวชม “7 แหล่งท่องเที่ยวรูปหัวใจ” ที่บ้างก็เกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ บ้างก็เกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่ก็ล้วนแล้วแต่มี “หัวใจ” ที่อยากมอบให้นักท่องเที่ยวทุกคน
หัวใจที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง ที่น้ำตกปิตุโกร
หัวใจกลางผืนป่า ที่ “น้ำตกปิตุโกร”

หัวใจดวงแรก เป็นหัวใจที่อยู่กลางป่าลึก เป็นหัวใจที่เกิดจากความมหัศจรรย์เล็กๆของธรรมชาติ คือที่ “น้ำตกปิตุโกร” น้ำตกอันยิ่งใหญ่สวยงามบนเทือกเขาสามหมื่น อ.อุ้มผาง จ.ตาก ซึ่งเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในเมืองไทย มีความสูงกว่า 500 เมตร โดยการเดินทางไปถึงน้ำตกปิตุโกรจะต้องใช้เวลา 2 วัน 1 คืน โดยตั้งต้นเดินเท้าจากหมู่บ้านกะเหรี่ยงกุยเลอตอ ลัดเลาะผ่านลำธารน้ำ ถนนริมไร่นา ระยะทางราว 5 ก.ม. ก็จะถึงที่พัก จากนั้นในเช้าในวันที่สอง จะเดินเท้าประมาณ 2.5 ก.ม. ก็จะถึงตัวน้ำตก ซึ่งมุมหนึ่งของน้ำตกปิตุโกร จะสามารถมองเห็นน้ำตก 2 สายหลักไหลมาบรรจบกัน ดูคล้ายเป็นรูปหัวใจดวงใหญ่กลางผืนป่า ซึ่งเมื่อได้เห็นก็หายเหนื่อย ชื่นใจขึ้นมาทันที
หัวใจในถ้ำพุงช้างแห่งพังงา
หัวใจใน “พุงช้าง” อันซีนพังงา

ใจกลางเมืองพังงา มี “เขาช้าง” หรือ “เขารูปช้าง” มีลักษณะเป็นรูปช้างนอนหมอบ ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ใจกลางเมือง ชาวพังงาหลายคนเชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ใต้เขาช้างมี “ถ้ำพุงช้าง” ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อในตัวเมืองพังงา ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์เนื่องมาจากความสวยงามและธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว โดยถ้ำพุงช้างที่เปิดให้เที่ยวชมมีความยาวประมาณ 1,200 เมตร ใช้เวลาเที่ยวภายในประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และมีครบรสชาติทั้งนั่งเรือคายัคเข้าไป ต่อด้วยนั่งแพไม้ไผ่ ก่อนจะต้องเดินเท้าต่อภายในถ้ำ ส่วน “หัวใจ” ที่เราจะไปตามหากันในถ้ำพุงช้างนั้น เรียกว่า “หินหัวใจ” กับหินที่ดูธรรมดาๆ แต่มีช่องเล็กๆ รูปคล้ายหัวใจ เมื่อสาดแสงไปถูกมุมจะเกิดเป็นเงามืดรูปหัวใจบนผนังหินที่ตกกระทบ เป็นมุมหวานๆ ที่ต้องดั้นด้นไปดูกันถึงในถ้ำเลยทเดียว
ตามหาหัวใจสุดปลายอุโมงค์ที่ถ้ำเลสเตโกดอน
“หัวใจสุดปลายอุโมงค์” ที่ถ้ำเลสเตโกดอน

“ถ้ำเลสเตโกดอน” เป็นแหล่งท่องเที่ยวใน อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์และธรณีวิทยา ภายในถ้ำมีความยาวกว่า 4 กม. ถือเป็นถ้ำน้ำเค็มที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ภายในงดงามไปด้วยหินงอกหินย้อย และซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์ต่างๆ ส่วนหัวใจดวงโตๆ ที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้ อยู่บริเวณใกล้กับปากถ้ำที่เชื่อมต่อกับป่าชายเลนก่อนจะออกสู่ทะเล บริเวณปากถ้ำนี้มีความพิเศษตรงที่มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ หากน้ำลดลงมากๆ และเรืออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก็จะเห็นปากถ้ำเป็นรูปหัวใจชัดเจน จนพูดกันว่าต้องมา “ตามหาหัวใจที่ปลายอุโมงค์” กันเลยทีเดียว
เกาะทะลุหัวใจแห่งชุมพร
ตื่นตาเกาะทะลุหัวใจแห่งชุมพร

แต่ถ้าใครไม่ชอบมุดถ้ำ ขอพามาตามหาหัวใจกันต่อบนเกาะกลางทะเลกันบ้าง ที่ “เกาะทะลุ” แห่งทะเลชุมพร ซึ่งอยู่ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 13 กม. เกาะทะลุแห่งนี้มีความโดดเด่นและมีเสน่ห์อันน่ายลไม่น้อยกับเกาะหินกลางทะเลที่มีลักษณะคล้ายสะพานหิน บนเกาะมีโพรงถ้ำและมีช่องทะลุที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอยู่หลายช่องด้วยกันอันเป็นที่มาของชื่อเกาะทะลุ โดยเฉพาะช่องทะลุ “รูปหัวใจ” หรือที่บางคนเรียกว่า “เกาะทะลุหัวใจ” ที่เป็นช่องหินธรรมชาติช่องหนึ่ง โดยเมื่อล่องเรือไปมองในมุมมองที่ใช่ เราจะมองเห็นเป็นช่องทะลุรูปหัวใจหวานๆ กลางทะเลอ่าวไทย
ทุ่งทะเลหลวง” แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ
"ทุ่งทะเลหลวง” แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ

ใจกลางทุ่งทะเลหลวง ในเขตตำบลปากแคว อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย มี “แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์รูปหัวใจ” หรือเรียกโดยทั่วไปว่า “เกาะรูปหัวใจ” โดยเกาะแห่งนี้มิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากแนวคิดโครงการแก้มลิง ซึ่งเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ทางจังหวัดได้เริ่มทำโครงการสร้างแหล่งเก็บน้ำขึ้นโดยใช้ทุ่งทะเลหลวงซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำในอดีต และได้ขุดลอกพื้นที่และขุดคลองเพื่อผันน้ำเข้ากักเก็บไว้ในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ เเละในครั้งนั้นได้มีการสร้างเกาะกลางน้ำเป็นรูปหัวใจ ที่ถูกรายล้อมด้วยผืนน้ำรูปหัวใจดวงใหญ่อีกดวงหนึ่ง มองเห็นได้อย่างสวยงามจากบนท้องฟ้า
ที่ราบรูปหัวใจบนภูสูง “ภูกระดึง” (ภาพจาก Google Map)
ที่ราบรูปหัวใจบนภูสูง “ภูกระดึง”

หากอยู่บนท้องฟ้าแล้วมองลงมายังพื้นโลก เราจะมองเห็นที่ราบยอดตัดบน “ภูกระดึง” ภูชื่อดังใน จ.เลย มีรูปร่างสัณฐานเป็นรูปหัวใจดูหวานแหวว ซึ่งที่ราบรูปหัวใจบนยอดภูกระดึงนั้นเป็นจุดมุ่งหมายของนักเดินทางทุกเพศทุกวัย แม้ระยะทางจากตีนภูจนถึงที่ราบด้านบนจะมีระยะทางกว่า 5.5 กม. ต้องเดินเท้าสู้กับความชันและความเหน็ดเหนื่อย ผ่านซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน และซำแคร่ ก่อนจะถึงขึ้นมาถึงหลังแป หรือที่ราบรูปหัวใจแห่งยอดภูกระดึง แต่ทุกคนก็ยินดีที่จะเหนื่อยยากเดินทางขึ้นมาถึงภูสูงแห่งนี้ เพื่อให้ได้พิชิต “ภูรูปหัวใจ” ภูที่อยู่ในดวงใจของหลายๆ คน
“ถนนรูปหัวใจ” มองจากจุดชมวิวศาลาหกเหลี่ยม
“ถนนรูปหัวใจ” สู่ภูทับเบิก

ถนนทางหลวงหมายเลข 2331 ที่ขึ้นสู่ “ภูทับเบิก” ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่ชันและคดเคี้ยวที่สุดสายหนึ่งในภาคเหนือที่ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการเดินทาง แต่สองข้างทางก็มีทิวทัศน์ที่งดงามไม่แพ้ที่ไหน อีกทั้งมุมหนึ่งของถนนสายนี้ยังเป็น “ถนนรูปหัวใจ” ที่ซ่อนอยู่ในมุมหนึ่ง ซึ่งใครอยากเห็นก็สามารถมาชมถนนรูปหัวใจนี้ได้ที่จุดชมวิวศาลาหกเหลี่ยม ระหว่างทางขึ้นภูทับเบิก แต่ทั้งนี้ต้องใช้จินตนาการร่วมด้วยสักเล็กน้อย ถึงจะมองเห็นเป็นหัวใจที่สมบูรณ์


* * * * *

“หัวใจ”
ในแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 ดวงที่นำเสนอมานี้ ขอบอกว่าใช้แต่สายตาไม่ได้ ต้องใช้จินตนาการร่วมด้วย ใครที่กำลังมีความรักอาจจะเห็นเป็นรูปหัวใจได้ชัดเจน แต่คนที่ไม่มีหัวใจ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็คงไม่มีทางเห็น(หัว)ใจไปได้... แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนจงมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความรัก ...ในวันแห่งความรัก 14 กุมภาวันวาเลนไทน์ :)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น