xs
xsm
sm
md
lg

“อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ” ดูเพลินวิวเครื่องบิน เต็มอิ่มอาหารรสเลิศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นั่งกินข้าวพร้อมชมเครื่องบินที่ “อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ”
เครื่องบินลำใหญ่ บินอยู่บนฟากฟ้า ผ่านตา “ตระเวนกิน” ไปแล้วแบบลำแล้วลำเล่า ช่างเป็นภาพที่สวยงาม ชวนดูแบบเพลิดเพลินจำเริญตาเสียจริงเชียว บรรยากาศที่ว่านี้เกิดขึ้นเมื่อเราได้พาตัวเองมานั่งกินข้าวอยู่ที่นี่ “อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ” ซึ่งเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กับสนามบินสุวรรณภูมิ จึงทำให้เราสามารถมองเห็นเครื่องบิน
เครื่องบินบินผ่าน มีให้ชมที่อุทยานอาหารเกาะลันตา
“อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ” มีคุณสุขุม มีพันแสน เป็นเจ้าของร้าน ได้เนรมิตพื้นที่ 40 ไร่ กลายเป็นอุทยานอาหารขนาดใหญ่อันรื่นรมย์ ชวนให้มานั่งกินข้าว ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่กว้างขวาง จัดตกแต่งด้วยงานศิลปะหลากหลาย ทั้งงานไม้ งานหิน และแวดล้อมไปด้วยงานศิลปะสวยงามมากมาย มีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายโซนตามชอบใจ มีห้องจัดเลี้ยงและห้องคาราโอเกะให้บริการหลากหลายห้อง ซึ่งทุกห้องจัดตกแต่งอย่างสวยงาม
โต๊ะนั่งสบายๆ รับลมธรรมชาติเย็นๆ
และมีโซนโต๊ะนั่งริมสระน้ำขนาดใหญ่ที่ให้ความรู้สึกชวนนั่งรับลมธรรมชาติแบบเย็นสบาย มีดนตรีสดเล่นทุกวัน เวลา 18.30-20.00 น. และ 20.30-22.00 น. แล้วไฮไลท์ของการมานั่งกินข้าวที่เกาะลันตานี้ คือการได้นั่งกินข้าวพร้อมกับได้ชมวิวเครื่องบิน ที่บินผ่านอยู่บนฟากฟ้าแบบใกล้ๆ ตรงตามสโลแกนของทางร้านที่ว่า “กินปู ดูเรือบิน”
บรรยากาศยามเย็นชวนนั่งกินข้าวสบายๆ
สำหรับอาหารของที่เกาะลันตาแห่งนี้ เน้นนำเสนออาหารไทย เน้นอาหารทางใต้ ที่มีรสชาติจัดจ้าน และเน้นซีฟู้ดสดใหม่ ซึ่งทางร้านได้คัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ มาปรุงแต่งเป็นเมนูอาหารจานเด็ดที่มีให้เลือกสั่งมากินมากมายกว่า 100 เมนู รวมถึงยังมีส่วนของเคาน์เตอร์บาร์ที่จะมีเครื่องดื่มมากมายให้ได้เลือกสั่งมาดื่มกันด้วย
แกงเหลืองปูทะเล
เมนูอาหารจานเด็ดของที่นี่มีเยอะแยะมากมาย มื้อนี้ขอนำเสนอเมนูจานเด่นที่ถ้ามาถึงร้านแล้วก็ต้องสั่งมาลิ้มรสกันให้ได้ ประเดิมด้วยเมนูชูโรงอย่างแรก แกงเหลืองปูทะเล (ราคาตามน้ำหนักปู ขีดละ 170 บาท) หน้าตาชวนกินมากๆ ทางร้านเลือกนำปูทะเลสดๆ (บางวันก็จะมีปูเนื้อ หรือปูไข่) ที่ส่งตรงจากจ.สุราษฎร์ธานี นำมาปรุงกับพริกแกงภาคใต้สูตรเฉพาะของทางร้าน ใส่หน่อไม้ดอง และยอดมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟมาแบบจุดไฟร้อนๆ และมีผักสดหลากหลายชนิดให้กินเคียงด้วย ลิ้มรสแกงปูรสชาติเข้มข้นถึงพริกถึงเครื่องแกงจัดจ้านถูกปาก โดนใจกับเนื้อปูสดหวานเนื้อแน่น กินเมนูนี้กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหาะจริงเชียว
ฮ่อยจ๊อปู
เมนูต่อมาชวนชิม ฮ่อยจ๊อปู (290 บาท) เป็นฮ่อยจ๊อปู ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปูและเนื้อหมู 3 ชั้น ผสมคลุกเคล้าปรุงรสตามสูตรพิเศษของทางร้าน ห่อด้วยฟองเต้าหู้ทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมน้ำจิ้มสูตรพิเศษโดยเฉพาะ กัดกร้วมฮ่อยจ๊อคำโต กรอบนอกนุ่มในสัมผัสได้ถึงความนุ่มแน่นรสอร่อยของเนื้อปูจำนวนมาก จิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ด ถูกปากดีจริง
ส้มตำปลาแซลมอน
แล้วมาแซบกับเมนูนี้ ส้มตำปลาแซลมอน (250 บาท) ทางร้านปรุงส้มตำไทยแบบครบเครื่อง และมีแซลมอนสดสไลด์มาแบบพอดีคำวางมาบนส้มตำ กินส้มตำเพียวๆ ก็รสแซบเด็ดถึงใจ และยิ่งกินคู่กับเนื้อปลาแซลมอนนุ่มหวานช่างเข้ากันดีนัก และยังมีเส้นหมี่ผัดผัดซีอิ้วให้กินเคียงกัน เพิ่มรสชาติความกลมกล่อมที่ลงตัว
เห็ดโคนผัดน้ำมันหอย
จากนั้นมาลิ้มลอง เห็ดโคนผัดน้ำมันหอย (350 บาท) เมนูนี้จะมีให้กินเฉพาะช่วงฤดูกาลของเห็ดโคน (ประมาณ ก.ค.-ส.ค. และ ต.ค.- พ.ย.) เป็นเห็ดโคนสดๆ ที่ทางร้านคัดสรรมาจากจ.กาญจนบุรี นำมาล้างทำความสะอาดอย่างดี แล้วผัดกับน้ำมันหอย ปรุงรส ใส่กุ้งสดและต้มหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ กินเห็ดโคนเคี้ยวกรอบหวานอร่อย ชุ่มรสชาติน้ำมันหอยกลมกล่อมปาก กินเข้ากันดีกับกุ้งเนื้อแน่น
ปลาสำลีเผาซีอิ้วกระเทียมโทน
และถ้าใครชอบกินปลา แนะนำเมนูนี้ ปลาสำลีเผาซีอิ้วกระเทียมโทน (520 บาท) เป็นปลาสำลีสดๆ ตัวโตกำลังดี นำมาเผาแล้วหมักกับซอสซีอิ้วญี่ปุ่นสูตรพิเศษของทางร้าน หมักนาน 1 ชม. โรยด้วยกระเทียมโทน ห่อด้วยแผ่นฟอยล์แล้วเผา เสิร์ฟมาร้อนๆ พร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ชิมเนื้อปลาลำสีนุ่มหวานชุ่มรสชาติซีอิ้วหวานๆ เค็มๆ อร่อยลิ้น แนมด้วยกระเทียมโทนเคี้ยวกรุบ เพิ่มรสชาติความแซบด้วยการจิ้มเนื้อปลากินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
ลันตาพาราไดซ์ และลิ้นจี่ปั่น
กินอาหารจานเด็ดไปหลายอย่างแล้ว หากใครอยากสั่งเครื่องดื่มมาดื่มให้คล่องคอ แนะนำ ลันตาพาราไดซ์ (200 บาท) เป็นม็อกเทลสีเขียวสวย มีส่วนผสมของน้ำสับปะรด แต่งกลิ้นด้วยน้ำเชื่อมสีฟ้า ดื่มแล้วเปรี้ยวๆ อมหวานชื่นใจดี หรือจะสั่ง ลิ้นจี่ปั่น (150 บาท) ที่ดื่มแล้วหอมหวานสดชื่น แถมมีเนื้อลิ้นจี่ให้กินด้วย
บรรยากาศห้องจัดเลี้ยง
นอกจากนี้แล้วเมนูอาหารจานเด็ดที่ชวนให้สั่งมาลองลิ้มก็ยังมีอีกเพียบ อาทิ ใบเหลียงผัดไข่ (150 บาท) หอยเชลล์อบเนย (350 บาท) ปลาเก๋าทอดยำสมุนไพร (ราคาตามน้ำหนักปลา ขีดละ 65 บาท) สะตอผัดกุ้ง (180 บาท) และอีกสารพัดเมนูจานเด็ด ที่ชวนให้สั่งมากินแบบเต็มที่ เพียงแค่พากันมายัง “อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ” แห่งนี้ ก็จะได้อิ่มเอมกับอาหารรสดี พร้อมกับได้นั่งชมวิวดูเครื่องบินแบบเพลิดเพลิน จำเริญใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *





“อุทยานอาหารเกาะลันตา สุวรรณภูมิ” ตั้งอยู่ที่ 88/11 ถ.กิ่งแก้ว ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ การเดินทางถ้ามาจากเส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ให้วิ่งตรงมาทางถ.กิ่งแก้ว ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ ก่อนเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วจะมองเห็นอุทยานอาหารเกาะลันตาสุวรรณภูมิอยู่ทางซ้ายมือ พอเลยทางโค้งลงสะพานแล้วให้เตรียมชิดซ้ายไว้ อุทยานอาหารเกาะลันตาจะตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพาน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 16.00 - 24.00 น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2738-4811 ถึง 2 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kohlantarestaurant.com
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น