xs
xsm
sm
md
lg

ลมหายใจของ "ราชประสงค์" หลังเสียงระเบิดจางหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บรรยากาศ “ศาลท้าวมหาพรหม”
“สี่แยกราชประสงค์” หนึ่งในสี่แยกสำคัญใจกลางกรุงเทพมหานคร เป็นจุดตัดของถนนเพลินจิตและถนนราชดำริ ในพื้นที่เขตปทุมวัน และในบริเวณนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งย่านสำคัญในด้านของการท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของศูนย์การค้า โรงแรม ศาลเทพเจ้า ที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยวทั้งจากชาวไทยและชาวต่างชาติ
ร้านขายดอกไม้ด้านหน้าศาลท้าวมหาพรหม
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์วางระเบิดบริเวณริมรั้วศาลท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมเอราวัณ ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียและมีผลกระทบในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ทีมงานกองบรรณาธิการท่องเที่ยว ผู้จัดการออนไลน์ จึงได้ลงพื้นที่สำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นและได้ข้อมูลมาว่า บริเวณศาลท้าวมหาพรหมที่ถูกปิดกั้นไปภายหลังจากเกิดระเบิด ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสักการะได้ตามปกติตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 19 ส.ค. แล้ว แต่จะสามารถเข้า-ออกได้ทางเดียวคือประตูฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ
อีกหนึ่งมาตรการความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่พาสุนัขเดินตววจ
และในส่วนของร้านขายดอกไม้ ธูป-เทียนสำหรับสักการะท้าวมหาพรหมนั้น ก็มีการตั้งร้านตามปกติ ซึ่งทางทีมงานได้สอบถาม คุณป้าน้อย แม่ค้าร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่งในละแวกดังกล่าว เกี่ยวกับบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวและความรู้สึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้รับคำตอบว่า

“ป้าน้อยมีความรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวด้วยความศรัทธาไม่ควรได้มาพบเจอกับเหตุการณ์ความสูญเสียแบบนี้ บรรยากาศด้านการท่องเที่ยวดูเงียบเหงาลง ปกติจะมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินขวักไขว่ไปมาไม่ขาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะมาสักการะท้าวมหาพรหมกันอย่างคึกคัก ส่วนในการเปิดร้านขายดอกไม้นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการอนุญาตให้มีการเปิดร้านขายดอกไม้ได้ตามปกติ แต่จะปิดเร็วขึ้นจากเดิมให้เปิดขายได้ถึงเวลา 22.00 น. แต่ตอนนี้ร้านจะปิดในเวลา 21.00น. และตัวป้าเองก็พร้อมที่จะเปิดร้านขายต่อไปแม้จะรู้สึกไม่สบายใจก็ตาม ”
ประชาชนเข้ามาสักการะท้าวมหาพรหม และร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต
และในส่วนบรรยากาศบริเวณศาลท้าวมหาพรหมโดยรวมนั้น ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาสักการะท้าวมหาพรหม และวางพวงมาลัยดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้สูญเสียอยู่เรื่อยๆ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ดูบางตาลงเมื่อเปรียบเทียบกับบรรยากาศในช่วงปกติก่อนเกิดเหตุ และในด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงนี้ จะมีเจ้าหน้าที่นำสุนัขมาเดินตรวจเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
บรรยากาศบนสกายวอล์ค ใกล้ๆ ศาลท้าวมหาพรหม
อีกทั้งในโลกโซเชียลก็ยังมีการโพสรูปจากนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาสักการะท้าวมหาพรหม และมาวางพวงมาลัยดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้สูญเสีย เช่น เฟสบุคของอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้โพสรูปพร้อมข้อความที่กล่าวว่า “ตอน 1 ทุ่ม มาวางพวงมาลัยดอกไม้ไว้อาลัยแก่ผู้สูญเสีย และ #จุดเทียนสันติภาพ ที่ศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ... แสดงให้ผู้ก่อการร้าย (terrorist) เห็นว่าคุณสร้างความหวาดกลัว (terror) ให้เราไม่สำเร็จหรอก มาช่วยๆ กันอุดหนุนแม่ค้าแถวนั้นบ้างนะครับ ชีวิตต้องเดินต่อไป #StrongerTogether #เราจะเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน” ซึ่งนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงพลังของคนไทยว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณร้ายแรงครั้งไหน คนไทยก็ยังไม่ทิ้งกัน และช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกันอยู่เสมอ
หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีทางเข้าออกเฉพาะจุด
นอกจากนี้ทางทีมงานก็ยังได้ขึ้นมาสำรวจบริเวณสกายวอล์ค หนึ่งในเส้นทางเดินสัญจรของสี่แยกราชประสงค์ โดยได้เข้าไปสอบถามกับ คุณพี่พา เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดบนสกายวอล์ค เกี่ยวกับบรรยากาศทั่วๆ ไปในระยะนี้ โดยได้รับคำตอบว่า “บรรยากาศบนสกายวอล์คโดยปกติจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินกันอย่างขวักไขว่ ส่วนในช่วงนี้ดูน้อยลงแต่ไม่ถึงขั้นเงียบเหงา”

ทางทีมงานได้สังเกตอีกว่าบนสกายวอล์คจุดที่อยู่ใกล้กับศาลท้าวมหาพรหม ก็ยังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่หยุดยืนชมบรรยากาศด้านล่าง
ลานด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยังคงจัดกิจกรรมออกร้านตามปกติ
ในส่วนของศูนย์การค้าย่านราชประสงค์ ทางทีมงานได้มีการสังเกตบรรยากาศโดยรอบ พบว่าร้านค้าและร้านอาหารภายในศูนย์การค้าก็ยังมีการเปิดบริการตามปกติ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยว แต่บรรยากาศโดยรวมยังคงดูไม่คึกคัก และทางศูนย์การค้าต่างๆ บริเวณนี้ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีการนำเครื่องสแกนโลหะมาติดตั้งบริเวณทางเข้า พร้อมทั้งมีการขออนุญาตนักท่องเที่ยวเพื่อตรวจกระเป๋า ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
บริเวณศาลพระตรีมูรติ ก็มีนักท่องเที่ยวมาสักการะไม่ขาดสาย
และในด้านโรงแรมและที่พัก ทางทีมงานได้มีการสอบถามไปทางฝ่ายการตลาดของโรงแรมในย่านราชประสงค์ก็ได้รับคำตอบว่า นักท่องเที่ยวยังคงเข้าพักตามปกติ แต่จะมีการขอยกเลิกการเข้าพักล้วงหน้าหรือขอเลื่อนเวลาในการเข้าพักออกไป เเละทางโรงแรมก็ได้มีการเพิ่มมาตรการในเรื่องความปลอดภัยด้วยการขอความร่วมจากผู้เข้าพักในการตรวจกระเป๋า ซึ่งโรงแรมบางแห่งก็ได้มีการติดตั้งเครื่องเครื่องสแกนโลหะบริเวณทางเข้า-ออกของโรงแรมเพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้นอีกด้วย และทางโรงแรมก็ยังยืนยันว่ายังเปิดให้บริการตามปกติ และพร้อมที่จะดูแลผู้ที่เข้าพักอย่างเต็มที่ เช่น มีบริการรถรับ-ส่ง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น
ร้านขายอาหารหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ก็ยังเปิดขาย
แม้ในวันนี้บรรยากาศด้านการท่องเที่ยวที่ย่านราชประสงค์จะดูแผ่วลง แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่พร้อมใจกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับการท่องเที่ยว และคาดว่าในเวลาอีกไม่นานก็จะได้เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวอันคึกคักของเมื่อวันวานกลับมาเป็นเหมือนดังเดิม

* * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

อลังการ! 7 ราชาสยามแห่ง “อุทยานราชภักดิ์” ศูนย์รวมใจไทย ฝ่าวิกฤตแห่งยุค!!
อลังการ! 7 ราชาสยามแห่ง “อุทยานราชภักดิ์” ศูนย์รวมใจไทย ฝ่าวิกฤตแห่งยุค!!
ท่ามกลางความสั่นไหวภายในจิตใจของคนไทยทั้งชาติจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น แฮชแท็ก #StrongerTogether เรียกขวัญและกำลังใจกำลังว่อนโลกออนไลน์ กลับปรากฏประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญจากพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ขนาดยักษ์ของสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ ณ อุทยานราชภักดิ์ ช่วยเสริมพลังใจ สร้างแรงศรัทธาจากรอยอดีตในพระราชกรณียกิจ สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤตแห่งยุคมาได้หลายต่อหลายครั้ง ภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารที่ช่วยคุ้มครองชาติไทย ไม่ต่างจากความเป็นไปในยุคนี้ที่มีพระบารมีของ “พระมหากษัตริย์” ทรงเป็นศูนย์รวมใจให้ดินแดนสยามประเทศแห่งนี้เดินหน้าต่อไปได้อย่างแข็งแรง!
กำลังโหลดความคิดเห็น