จะ #PrayForThailand #PrayForRatchaprasong หรือจะ #StrongerTogether ดีนะ? หลายคนนึกสับสนในใจว่าจะส่งกำลังใจด้วยถ้อยคำไหนดี จึงจะเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์การสูญเสียที่สั่นสะเทือนใจ จากเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ในครั้งนี้ วันนี้มีคำตอบจากรองโฆษกรัฐบาลออกมาแล้ว บอกเลยว่าไม่ได้บังคับ ขอแค่อย่ามัวแต่ “สวดมนต์อ้อนวอน” แต่ให้ “ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกัน” เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแรง!
ฮึดสู้ ดีกว่า อ้อนวอน!
ถ้าให้เลือกระหว่าง “Pray For Ratchaprasong” “Pray For Thailand” หรือ “Stronger Together” บอกได้อย่างเต็มปากว่าขอเลือกใช้ประโยคสุดท้าย คือเลือกที่จะไม่ทำเพียงแค่สวดมนต์อ้อนวอน (Pray) แต่อยากให้ลุกขึ้นมาแสดงความเข้มแข็งไปด้วยกันมากกว่า พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าว ASTVผู้จัดการ Live เอาไว้อย่างนั้น
“ถ้าเป็นการใช้คำว่า “Pray” ซึ่งหมายถึงอ้อนวอน สวดมนต์ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนเรานอนรอความหวัง รอโชคชะตาให้มาช่วยเหลือ แต่การใช้คำว่า “Stronger” มันเหมือนปลุกให้เราลุกขึ้นมาเข้มแข็ง ต่อสู้ด้วยตัวเอง ส่วนคำว่า “Together” อยากจะสื่อว่าเหตุการณ์นี้ต้องการการร่วมมือร่วมใจจากคนไทยด้วยกัน เราจะได้ฝ่าฟันมันไปด้วยกัน พอเอา 2 คำมารวมกัน กลายเป็น “Stronger Together” ก็จะได้ความหมายของการปลุกปลอบให้ลุกขึ้นมาเข้มแข็ง
จะบอกว่าการใช้คำว่า “Pray” กับสถานการณ์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Pray for... อะไรก็ตามแต่ มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะครับ สามารถใช้ได้ตามวิจารณญาณของแต่ละคน เพียงแต่ถ้าจะให้ทางเราเลือกใช้ เราอยากเลือกใช้คำว่า #StrongerTogether มากกว่า อยากจะบอกว่าเราจะไม่นั่งรออะไรก็แล้วแต่ แต่เราต้องลุกขึ้นมาด้วยตัวเองให้ได้ ต้องการจะปลุกปลอบกำลังใจของคนให้ฮึกเหิมขึ้นมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่ เราต้องร่วมมือกัน
จริงๆ แล้ว เราไม่ได้บังคับหรือไม่ได้จำกัดเลยว่าใครจะใช้คำไหน เพราะมีบางคนก็ใช้ #StayStrongThailand เพื่อสื่อว่าประเทศไทยจะต้องยืนหยัดและเข้มแข็งต่อไป ผมว่าใช้คำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการปลุกปลอบกำลังใจให้แก่คนในชาติ ให้คนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้”
หลายคนอาจสงสัยว่าแฮชแท็กยอดนิยมระดับชาติอย่าง #StrongerTogether นี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ในฐานะหนึ่งในผู้อยู่ในกระบวนการคิดมาโดยตลอดบอกเลยว่า เกิดขึ้นจากไอเดียและคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หลังคืนแห่งความสูญเสียที่เกิดขึ้น ณ บริเวณราชประสงค์
“ท่านออกไอเดียว่าเราต้องหาอะไรที่มันให้กำลังใจคนหน่อยดีไหมว่า เราต้องเข้มแข็งไปด้วยกันนะ ไม่แน่ใจว่าท่านเห็นตรงไหนว่าต้องเป็นคำนี้ แต่ท่านพูดในที่ประชุมว่า ลองเอาคำว่า Together Stronger หรือ Stronger Together มาดูซิ ทางเราก็คิดว่าเข้าท่าดี ก็เลยเอามาใช้และออกมาอย่างที่เห็นครับ และดูเหมือนจะกลายเป็นคำที่ได้รับความนิยมที่สุดในการส่งกำลังใจในเหตุการณ์นี้ไปแล้ว แต่เราไม่ได้บอกว่ามันคือคำที่ต้องใช้อย่างเป็นทางการนะครับ ก็แล้วแต่ว่าใครจะสะดวกใช้อะไร
ท่านพูดในที่ประชุม ครม.ว่าให้หาอะไรที่มันจะมาช่วยปลุกปลอบกำลังใจของคนกันหน่อย เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเหมือนการก่อการร้าย ถ้าคนหวาดกลัว ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไร ไม่กล้าออกไปไหน อยู่เฉยๆ และรู้สึกแย่ไปเรื่อยๆ มันก็จะเหมือนเข้าทางคนที่เขาต้องการ เราจะตกเป็นเหยื่อ เพราะฉะนั้น เราต้องไม่เข้าทางเขา เราต้องแข็งแรง และต้องเข้มแข็งให้ได้ด้วยการลุกขึ้นมาร่วมมือร่วมใจกัน
ส่วนเรื่องจะใช้แฮชแท็ก #StrongerTogether ออกมาในรูปแบบไหนนั้น คงต้องแล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคนครับ แต่ขอให้เริ่มต้นคิดจากการมีเจตนาดีว่า เราจะปลุกปลอบให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เราจะทำให้ประเทศชาติมีความรักความสามัคคีกัน ตอนนี้ต้องตัดเรื่องความขัดแย้งทั้งหมดออกไปก่อน ถ้าเราเริ่มต้นความคิดจากความปรารถดี ก็เชื่อว่าจะทำให้ทุกคนมีวิจารณญาณกันมากพอสมควร ถ้าเมื่อไหร่ที่แม้แต่คนโพสต์เองยังรู้สึกหดหู่ใจ นั่นแสดงว่าไม่ควรจะสื่อสารออกไปแล้ว แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ก็ออกมาในทิศทางที่ดีนะครับ เป็นการให้กำลังใจกันและแสดงถึงความเข้มแข็งของประเทศชาติและประชาชนคนไทย”
ต่อไปจะมีแคมเปญอะไรออกมาเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจคนในชาติอีกหรือไม่ ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด บอกได้คร่าวๆ ว่าอาจมีเพลงออกมา เนื่องจากมีน้องๆ นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ บางส่วนแต่งเพลงส่งมาให้ทางการเหมือนกัน ด้วยความรู้สึกอยากร่วมต่อสู้เรื่องนี้ไปด้วยกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในเรื่องร้ายๆ เช่นเดียวกับอีกหลากหลายมุมที่ได้พบเจอหลังเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งนี้เกิดขึ้น
“ในสายตาชาวต่างประเทศส่วนใหญ่ก็เข้าใจได้ครับ เพราะในบอสตัน ในซิดนีย์เองก็เคยมีลักษณะนี้เกิดขึ้น เขามองว่าต่อไปนี้จะต้องทำยังไงให้คนมั่นใจมากกว่า กำลังตามดูอยู่ว่าประเทศไทยจะทำยังไงให้คนมีความมั่นใจ แต่เขาไม่ได้มองสถานการณ์นี้ด้วยความแปลกใจ และค่อนข้างจะให้กำลังใจประเทศไทยมากกว่า มีทั้งที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจประเทศไทย ทั้งติดแฮชแท็กช่วยเชียร์เราด้วย ส่งกำลังใจให้ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายและการทำงานของรัฐบาล ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้มันก็มีอะไรดีๆ อยู่อีกที่ก่อให้เกิดความรู้สึกประทับใจครับ”
ลุกขึ้นมา “ใช้ชีวิต” ร่วมเป็นหูเป็นตา!
อีกหนึ่งแฮชแท็กที่เริ่มได้รับการแชร์ต่อกันไปเรื่อยๆ คือ #BomberCluePhoto ซึ่งหมายถึงการแชร์ภาพหรือคลิปซึ่งอาจมีส่วนช่วยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยและภาพเหตุการณ์ในมุมต่างๆ ในช่วงเวลาที่เกิดระเบิดขึ้นที่แยกราชประสงค์ เมื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือบนโซเชียลมีเดียในจุดนี้ว่าเป็นไปตามทิศทางที่ฝ่ายรัฐบาลต้องการหรือไม่ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี จึงให้ข้อมูลด้วยความระมัดระวังว่า...
“ที่เห็นก็มีการแชร์ภาพสเกตช์ของคนร้ายครับ แล้วก็มีคนเอาภาพนั้นไปทำสีผมให้ใหม่ เปลี่ยนทรงผมดูว่าพรางตัวแล้วออกมาจะเป็นยังไง ก็ถือเป็นความช่วยเหลือของพี่น้องชาวไทยบนโลกออนไลน์ที่น่าประทับใจเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องการแฮชแท็กภาพหรือคลิปอะไรที่เกี่ยวกับสถานการณ์หรือผู้ต้องสงสัยนั้น ส่วนนี้อาจจะต้องระวังนิดหนึ่งครับ
ทางที่ดี ถ้าจะแชร์ข้อมูลนี้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการสืบหาความจริงของเจ้าหน้าที่ แนะนำว่าให้ส่งมาให้ทางเจ้าหน้าที่โดยตรงเลยน่าจะปลอดภัยกว่า อีกอย่าง การแชร์ข้อมูลแบบนี้ออกไปแล้วเป็นการแชร์ข้อมูลผิดๆ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ประสงค์จะทำร้ายใคร แต่มันก็มีความเสี่ยงที่เราจะทำให้คนที่อยู่ในภาพหรืออยู่ในคลิปเสียหายก็ได้ จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย บางครั้งมันทำให้คนที่ถูกกล่าวถึงถูกเข้าใจผิด ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเขา ตรงนี้ก็ต้องระวังด้วยครับ
มีเพื่อนเสนอไอเดียมาว่าไหนๆก็มีภาพสเก็ตช์ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดออกมาแล้ว เราน่าจะลองทำภาพจำลองออกมาเป็นไอเดียดูว่าถ้าเขาป...
Posted by Witcha Suyara on Wednesday, August 19, 2015
ผมว่าถ้าอยากแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้แก่เจ้าหน้าที่ ขอความร่วมมือให้ติดต่อโดยตรงเลยดีกว่าครับ ตอนนี้มี Call Center 1599 และเบอร์ปกติ 191 ก็ยังใช้ได้อยู่ เพื่อให้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือหรือได้รับมาถูกตรวจสอบให้ดีก่อนจะแชร์ออกไป ผมว่าเกิดผลดีมากกว่า ดีกว่าแชร์ข้อมูลออกมาในลักษณะแพร่กระจาย คิดว่าข้อมูลอะไรที่น่าจะเป็นประโยชน์ การส่งตรงถึงเจ้าหน้าที่เลยน่าจะเหมาะสมกว่าครับ”
สถานการณ์โดยรวมหลังเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นบริเวณใจกลางเมืองหลวง ถือว่ากำลังฟื้นตัวอย่างช้าๆ ถึงแม้ระยะแรกประชาชนจะตกอยู่ในภาวะอกสั่นขวัญแขวนบ้าง แต่ถึงตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว แม้แต่ผู้คนย่านราชประสงค์ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ
“พ่อค้าแม่ค้าก็มาขายของตามเดิม พวงมาลัยก็ยังมีขายเหมือนเดิมแล้ว คนก็ยังมีขึ้นรถขึ้นราตามเดิม แต่อาจจะไม่ได้พลุกพล่านเท่าเดิม แต่ก็กำลังค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ ส่วนกระแสในเฟซบุ๊ก ทุกคนก็สู้ ต้องไม่ยอมแพ้ ทุกคนก็ให้กำลังใจกัน ในโซเชียลมีเดียก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ดูแล้วรู้ว่าขวัญกำลังใจของคนไทยเราไม่ได้ตกต่ำลงไป
ในสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แน่นอนว่าเราก็ขอให้คนไทยทุกภาคส่วนครับมาร่วมมือกัน ส่วนจะมีชาวต่างประเทศมาร่วมกันก็ถือเป็นเรื่องดีครับ แต่ตอนนี้หลักๆ แล้วก็ต้องเอาคนไทยไว้ก่อน คนไทยเราต้องเข้มแข็งก่อน เพราะถ้าคนไทยเข้มแข็ง เราแสดงออกว่าเราเข้มแข็ง เราต่อสู้ เราไม่ยอมแพ้ เราไม่ยอมรับการเป็นเหยื่อของความหวาดกลัว คนอื่นเขาก็จะเข้มแข็งไปกับเราด้วย
อย่างที่บอกเสมอครับว่าการสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติ จะสร้างยังไงก็แล้วแต่ ถ้าคนไทยไม่มั่นใจเองแล้ว ทำยังไงเขาก็ไม่มั่นใจไปกับเรา แต่ถ้าคนไทยมั่นใจ เขาก็มั่นใจครับ เพราะเราอยู่ประเทศนี้ทุกวัน ชีวิตของเราอยู่ที่นี่ แต่นักท่องเที่ยวเขาเข้ามาชั่วคราว เข้ามาประเดี๋ยวประด๋าว เขาอาจจะไม่ได้วิตกกังวลอะไรมากนัก แต่คนไทยเราเอง เราใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ถ้าเรามั่นใจในประเทศไทย เราเข้มแข็ง เขาก็จะรู้สึกมั่นใจไปกับเรา
ที่บอกว่าให้ทุกคนออกมาใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้หมายความว่าบอกให้ออกมาเดินเอ้อระเหยนะครับ คือสามารถออกมาเดินตามท้องถนนได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องหัดสังเกตสังกามากขึ้น รอบคอบมากขึ้น อะไรที่มันวางแปลกๆ อะไรที่ไม่เคยมีแถวนั้น ยกตัวอย่างเช่น ตู้เอทีเอ็ม ไม่ควรจะมีถังดับเพลิงวางอยู่ ถ้ามันมี เราก็ต้องสังเกตว่ามันมาได้ยังไง ทั้งๆ ที่เราผ่านทุกวันมันไม่เคยมี อาจจะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาและช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ครับ
การบอกให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่าให้ไปสู้รบปรบมือกับคนที่เขาไม่ประสงค์ดีนะครับ เพียงแค่เราลุกขึ้นมาใช้ชีวิตปกติก็ถือเป็นการแสดงจุดยืนว่าเราไม่ยอมแพ้แล้ว และเราไม่ตกเป็นเหยื่อของคนที่พยายามจะสร้างบรรยากาศของความน่ากลัว แค่เราใช้ชีวิตปกติครับ แต่ปกติอย่างระมัดระวัง ปกติในแบบที่มีสติสังเกตและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ไม่แชร์ข้อมูลต่างๆ ที่สร้างความสับสนให้เกิดขึ้น มีวิถีชีวิตปกติแต่ดำเนินไปอย่างระมัดระวังรอบคอบมากขึ้น ก็จะช่วยประเทศของเราให้เดินหน้าต่อไปได้ในที่สุด”
(กูเกิล ร่วมจุดเทียนส่งกำลังใจ)
(เรื่องเล่าเตือนใจ บอกคนไทยอย่าหวั่นไหว ต่างชาติเข้าใจ เราจะสู้ไปด้วยกัน!)
สามัคคีคือพลังนะพวกเรา! #kingdomoftigers #prayforbangkok #strongertogether
Posted by ทูนหัวของบ่าว on Monday, August 17, 2015
#Strongertogether #Staystrongthailand #prayforbangkok #prayforthailand #RIP
Posted by วู้ดดี้เกิดมาคุย on Monday, August 17, 2015
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Tuesday, August 18, 2015
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: #StrongerTogether
มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...
Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015
รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- อลังการ! 7 ราชาสยามแห่ง “อุทยานราชภักดิ์” ศูนย์รวมใจไทย ฝ่าวิกฤตแห่งยุค!!
- บทเรียนจากราชประสงค์ ต้องมีอีกกี่ศพ เราจึงจะจดจำ!
- ท้าวมหาพรหมเอราวัณ เรื่องจริงที่คุณต้องอึ้ง อาถรรพ์ที่ต้องเชื่อ!!
- #PrayForBangkok ประสานพลังบวก ฝ่าเรื่องร้ายไปด้วยกัน!
- 5 วิธีรับมือ เมื่อเจอเหตุระเบิด!! [info]