วันวิสาขบูชา อันเป็นวันสำคัญสากลทางพระพุทธศาสนาได้เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่ง หลายๆ คนคงตั้งใจจะออกไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรมเพื่อความเป็นสิริมงคล และความสุขกายสบายใจของตัวเอง
ว่ากันถึงเรื่องวัดวาอาราม และศาสนสถานในพระพุทธศาสนานั้น ศาสนสถานที่ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ว่ากันว่าเป็นที่ “บุโรพุทโธ” ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งแม้ว่าปัจจุบัน อินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก แต่บุโรพุทโธ ก็ยังเป็นศาสนสถานสำคัญที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจ และนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างอยากจะเดินทางมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต
บุโรพุทโธ (Borobudur-โบโรบูดูร์ หรือ บรมพุทโธ) หนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 ตามประวัติสันนิษฐานว่าบุโรพุทโธน่าจะสร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 778 ถึง ค.ศ. 850 โดยกษัตริย์ราชวงศ์ไศเลนทร์
คำว่า “Borobudur” มาจากการผสมกันระหว่างคำว่า “Boro” และ “Budur” คำว่า “Boro” หมายถึงวัดหรือศาลเจ้า ที่มาจากคำว่า Byara ในภาษาสันสกฤต ส่วน “Budur” มาจากคำว่า Beduhur ในภาษาบาหลี ที่หมายถึงภูเขา “บุโรพุทโธ” จึงมีความหมายโดยรวมว่า วัดที่สร้างบนภูเขา
บุโรพุทโธ เป็นพุทธสถานแบบฮินดูชวา ผสมผสานกับศิลปะแบบอินเดียและอินโดนีเซียเข้าด้วยกัน โดยสร้างจากหินภูเขาไฟ เป็นรูปทรงขั้นบันไดแบบพีระมิดบนฐานสี่เหลี่ยม องค์เจดีย์มีลักษณะเป็นรูปทรงดอกบัว ซึ่งสื่อถึงสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนา ตามหลักฐานในประวัติศาสตร์ สถานที่แห่งนี้และบริเวณโดยรอบเป็นที่ลุ่มและถูกล้อมรอบด้วยน้ำที่ท่วมมาจากแม่น้ำโปรโก ทำให้บุโรพุทโธเปรียบเสมือนดอกบัวลอยอยู่ในน้ำ
รอบวิหารบุโรพุทโธเต็มไปด้วยหินสลักนูนต่ำ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันไป แต่ละชั้นแสดงคติธรรมทางพุทธศาสนา ชั้นแรก เป็นชั้นที่มีความหมายถึงการที่มนุษย์ยังเกาะเกี่ยวอยู่กับการเวียนว่ายตายเกิด และวนเวียนอยู่กับกิเลส ตัณหา กามราคะ ที่เรียกว่าชั้น “กามธาตุ” ชั้นนี้มีภาพสลักที่น่าสนใจอยู่ถึง 160 ภาพ เป็นการเล่าเรื่องราวตาม “คัมภีร์ธรรมวิวังค์” ว่าด้วยเรื่อง “กฎแห่งกรรม” ซึ่งก็คือเรื่องของบาป บุญ คุณ โทษนั่นเอง
ชั้นที่สอง คือ “รูปธาตุ” มีลักษณะเป็นขั้นบันไดรูปกลม ฐาน 6 ขั้น สูงกว่าชั้นกามธาตุเล็กน้อย แสดงถึงการที่มนุษย์หลุดพ้นจากกิเลส ทางโลกได้บ้าง แต่ก็ยังมีส่วนที่ยึดติดกับทางโลกอยู่ และชั้นสุดท้าย คือ “อรูปธาตุ” เป็นชั้นของการปฏิบัติขั้นสูงหลุดพ้นจากกิเลส ตัณหา ทั้งภวตัณหาและวิภวตัณหา ชั้นอรูปธาตุนี้มีรูปสลักนูนต่ำที่แสดงถึงพุทธประวัติถึงเกือบ 1,400 ภาพ
ในบางตำราตีความว่าแผนผังของบุโรพุทโธน่าจะหมายถึง “จักรวาล” และอำนาจของ “พระอาทิพุทธเจ้า” ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าผู้ทรงสร้างโลกในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ซึ่งในส่วนของพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่อยู่บนยอดสูงสุดของ “บุโรพุทโธ” นั้น กล่าวกันว่า เป็นสัญลักษณ์แทนองค์ “พระอาทิพุทธเจ้า” ที่ในคติความเชื่อพระพุทธศาสนานิกายมหายานเชื่อว่าพระองค์คือผู้สร้างสรรพสิ่งนั่นเอง
ในชั้นบนสุดของบุโรพุทโธ ที่ถือว่าเป็นส่วนยอดสุดของวิหาร มีลักษณะเป็นฐานวงกลมใหญ่ของเจดีย์องค์ประธาน เวลาที่มองมาจากที่ไกล จะเห็นเป็นเหมือนดอกบัวขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่กลางหุบเขา มีผู้อุปมาภาพที่ปรากฏนี้ว่าเป็นดั่งสรวงสวรรค์ ที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากทุกสรรพสิ่งในโลก หรือที่เรียกว่านิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ
อีกสิ่งหนึ่งที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ บุโรพุทโธ ก็คือ เจดีย์ทรงระฆังโปร่ง ฉลุเป็นช่องสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด เรียงรายอยู่โดยรอบ ในเจดีย์จะมีองค์พระพุทธรูปอยู่ข้างใน ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าใครสามารถยื่นมือไปสัมผัสองค์พระพุทธรูปในนั้นได้จะสมหวังและโชคดี
ในแต่ละวัน จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวอินโดนีเซียและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งที่เป็นชาวพุทธและต่างศาสนา แวะเวียนมาชมความงดงามและอลังการของบุโรพุทโธกันอย่างไม่ขาดสาย นับว่าเป็นศาสนสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่เผยแผ่แก่นแท้ของศาสนา ผสมผสานไปกับความงดงามทางศิลปะได้อย่างกลมกลืน
บุโรพุทโธเมืองไทย
ส่วนในประเทศไทยเราเอง ก็มีศาสนสถานที่ละม้ายคล้ายคลึงกับบุโรพุทโธที่ประเทศอินโดนีเซียเช่นกัน นั่นคือ “พระเจดีย์หิน” หรือ “บุโรพุทโธจำลอง” ที่ วัดป่ากุง (วัดประชาคมวนาราม) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นจากคำปรารภของหลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) พระเกจิชื่อดังของจังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่ต้องการให้ก่อสร้างเจดีย์ด้วยหินทรายธรรมชาติ แต่นำมาประยุกต์ให้มีความเหมาะสมกับสถานที่ ผสมผสานกับความเป็นไทยและลักษณะภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยให้มีรูปทรงคล้ายกับเจดีย์บุโรพุทโธ แต่ภายในมีพื้นที่สำหรับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ
ด้านนอกขององค์เจดีย์แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีภาพแกะสลักหินทรายนูนต่ำที่สวยงาม โดยแบ่งออกได้ดังนี้ ชั้นที่ 1 เล่าเรื่องราวพระเวสสันดรชาดก ชั้นที่ 2 และ 3 เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ชั้นที่ 4 ภาพพระพุทธชัยมงคล ประกอบด้วย พระคาถา คำแปลภาพ และตำนาน ชั้นที่ 5 ภาพสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ชั้นที่ 6 เป็นเจดีย์องค์ประธานและเจดีย์ราย 8 องค์ และชั้นที่ 7 ยอดเจดีย์ทองคำ น้ำหนัก 101 บาท
ส่วนด้านในเจดีย์หิน มีภาพสลักเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาพุทธและพุทธประวัติ รวมถึงประวัติของหลวงปู่ศรี นอกจากนี้ยังประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศศรีลังกา ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปสักการะกันด้วย ซึ่งที่วัดป่ากุงแห่งนี้ นอกจากจะมาชมพระเจดีย์หิน หรือบุโรพุทโธจำลองแล้ว ก็ยังสามารถมานั่งสมาธิ ฟังเทศน์ฟังธรรมในบริเวณวัดที่มีพื้นที่กว้างขวาง ร่มรื่น และเงียบสงบ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“บุโรพุทโธ” ตั้งอยู่บนเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย อยู่ห่างจากเมืองยอกยากาตาร์ (Yogyakata) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร
“เจดีย์หิน” ตั้งอยู่ที่วัดป่ากุง (วัดประชาคมวนาราม) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด อยู่ห่างจากตัวเมืองร้อยเอ็ดประมาณ 20 กิโลเมตร
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com