xs
xsm
sm
md
lg

โค้งสุดท้ายนางพญาเสือโคร่ง “ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง” ชมพระอาทิตย์ ทะเลหมอกอลังการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขอบฟ้าเป็นสีส้มเรื่อๆ ก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น
“ภูชี้ฟ้า” ในจังหวัดเชียงราย ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทะเลหมอกที่งดงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย และนับเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน หนาวนี้ “ตะลอนเที่ยว” ก็เลือกเดินทางมารับลมหนาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกงดงามอลังการกันที่ภูชี้ฟ้า ไม่เพียงเท่านั้น ยังไปชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นกันที่ “ผาตั้ง” ที่อยู่ไม่ไกลจากภูชี้ฟ้า และเหมาะจะเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใน 1 วันอย่างเหมาะสมที่สุด

ภูชี้ฟ้า ตั้งอยู่ในเขตวนอุทยานภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นที่เป็นดังหลังคาเมืองเชียงราย และตั้งอยู่บนรอยต่อของเส้นแบ่งพรมแดนไทย-ลาว ยอดภูมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,628 เมตร และโดดเด่นด้วยรูปพรรณสัณฐานที่มีลักษณะเป็นหน้าผาตัด ยอดภูเป็นเหลี่ยมแหลมทิ่มแทงฟ้า จนได้สมญาว่า “ภูชี้ฟ้า”
ภูชี้ฟ้า ปลายยอดภูแหลมขึ้นสู่ฟ้า
นักท่องเที่ยวยืนชมพระะอาทิตย์ขึ้น
การจะขึ้นไปชมทะเลหมอกบนยอดภู เราสามารถขึ้นไปได้สองเส้นทาง คือจากฝั่งบ้านร่มฟ้าไทยและบ้านร่มฟ้าทอง ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านต่างก็มีรีสอร์ตให้บริการ รวมไปถึงมีรถกระบะที่จะคอยรับส่งจากที่พักขึ้นไปยังจุดเดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้า (หากใครจะขับรถขึ้นไปเองก็ได้ ทางค่อนข้างลาดชันแต่ผู้ที่เคยขับรถขึ้นเขาก็สามารถขับรถเก๋งขึ้นได้) โดยจากบ้านร่มฟ้าไทยจะผ่านที่ทำการวนอุทยานภูชี้ฟ้าขึ้นไป มีระยะทางจากจุดจอดรถเดินขึ้นไปอีก 760 เมตร ส่วนฝั่งบ้านร่มฟ้าทองจะผ่านหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว มีระยะทางจากจุดจอดรถเดินไปอีกราว 500 เมตร ทั้งสองเส้นทางจะเดินมาเจอกันบริเวณจุดกึ่งกลางของภู ก่อนเส้นทางจะรวมกันมุ่งตรงสู่ยอดภู

ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลือกเดินขึ้นในเส้นทางบ้านร่มฟ้าไทย แต่ก่อนจะเดินขึ้นไปพิชิตยอดภู ขอแนะนำให้เดินแยกออกจากเส้นทางมาทางขวามือ ตรงไปยังเนินผาเล็กๆ ซึ่งเป็นจุดชมวิวยอดนิยม มองเห็นหน้าผาสูงและยอดภูแหลมอันเป็นภาพสัญลักษณ์ของภูชี้ฟ้า ณ จุดนี้เราสามารถมองเห็นแนวยอดภู ทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าได้อย่างลงตัวสวยงาม ดังนั้นจึงขอแนะนำให้หยุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณนี้ก่อน เมื่อเริ่มสว่างแล้วจึงเดินขึ้นไปยังยอดภู
ทะเลหมอกคลุมไปทั่วบริเวณ
ยอดเขาที่โผล่พ้นทะเลหมอกขึ้นมาดูคล้ายสรวงสวรรค์
ลมที่พัดบริเวณนี้ค่อนข้างแรงทีเดียว ทำให้อากาศที่หนาวเย็นยิ่งหนาวเหน็บมากขึ้นไปอีก “ตะลอนเที่ยว” ล้วงเป้หยิบเสื้อกันหนาวมาใส่อีกชั้นหนึ่ง แล้วนั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นอย่างใจจดจ่อ แสงสีส้มอมทองเรื่อๆ อยู่ที่ขอบฟ้าไกลๆ ก่อนจะค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับที่รูปร่างของยอดแหลมของภูชี้ฟ้าก็ยิ่งปรากฏชัดมากขึ้น จากนั้นพระอาทิตย์ก็เริ่มโชว์โฉมให้เห็นเป็นไข่แดงดวงกลม สาดแสงลงสู่คลื่นทะเลหมอกขาวฟุ้งเป็นปุยอยู่เบื้องล่าง

ดื่มด่ำกับภาพที่เห็นเบื้องหน้าสักครู่ “ตะลอนเที่ยว” ก็ออกเดินขึ้นสู่ยอดภูชี้ฟ้ากันต่อ โดยในระหว่างทางก็จะมีเด็กๆ ชาวเขาเผ่าม้งมายืนโต้ลมหนาวร้องเพลงบ้าง เล่นดนตรีบ้าง บางคนก็แต่งตัวด้วยชุดประจำเผ่าสวยงามเต็มยศให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปคู่ด้วยบ้าง พร้อมด้วยประโยคออดอ้อนน่ารักๆ “พี่คะ ถ่ายรูปกับหนูมั้ยคะ แต่แล้วแต่น้ำใจ ถ่ายฟรีก็ได้ค่ะ” นักท่องเที่ยวหลายๆ คนเมื่อเห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของเด็กๆ เหล่านี้ ก็มักจะขอถ่ายรูปคู่ด้วย และให้เงินตอบแทนเป็นค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ แล้วแต่ความเอ็นดู
หนูน้อยชาวม้งน่าเอ็นดู
หลักเขตแดนบนยอดภูชี้ฟ้า
เมื่อมาถึงด้านบนยอด “ตะลอนเที่ยว” มองเห็นทิวทัศน์ได้หลายมุม โดยเฉพาะภาพทะเลหมอกยามเช้าของที่นี่ ในยามฟ้าเปิดเป็นใจถือว่ามีความสวยงามในอันดับต้นๆ ของประเทศเลยทีเดียว และนอกจากจะได้ชมทะเลหมอกสวยงามแล้ว ก็ยังมีหลักเขตประเทศไทย-ลาว และป้ายบอกระดับความสูง 1,628 เมตรอีกด้วย แต่อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลิน ต้องระวังทางเดินกันด้วย เพราะหากพลาดพลั้งลื่นไถลไปก็ได้ไปนอนอยู่ฝั่งลาวแน่ๆ แต่ตอนนี้ทางวนอุทยานก็นำเอาลวดสลิงมาขึงเป็นรั้วกั้นบริเวณจุดอันตราย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องระมัดระวังกันให้ดีด้วย
นางพญาเสือโคร่งร่วงหล่นลงสู่พื้น
บางต้นยังออกดอกสวย
ต้นนี้อยู่บริเวณทางขึ้นสู่หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว บ้านร่มฟ้าทอง
มาครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่ “ตะลอนเที่ยว” มีโอกาสเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูสวยที่บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ที่อยู่ใกล้กับบริเวณบ้านร่มฟ้าทอง ซึ่งที่นี่เขาเพิ่งจัดงานซากุระบานที่ภูชี้ฟ้า ซึ่งจัดเป็นครั้งแรกที่หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว ซึ่งมีต้นนางพญาเสือโคร่งมากถึงราว 5,000 ต้นเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีต้นนางพญาเสือโคร่งอยู่มากที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.เชียงราย

แต่ช่วงที่ “ตะลอนเที่ยว” เดินทางไป ดอกสีชมพูอ่อนหวานเหล่านั้นก็เริ่มร่วงโรยไปเยอะแล้ว ดังนั้นแทนที่จะได้ภาพนางพญาเสือโคร่งเป็นสีชมพูไปทั้งต้น ก็กลับได้ภาพดอกไม้เล็กๆ สีชมพูร่วงหล่นเต็มพื้นถนนและพื้นดิน กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์สีชมพูที่สวยงามไม่แพ้กันเลย
สีชมพูยังมีให้เห็นบ้าง
นางพญาเสือโคร่งระหว่างทางไปผาตั้ง
ชมพระอาทิตย์ขึ้นไปเมื่อตอนเช้าตรู่แล้ว แวะไปเที่ยวชมนางพญาเสือโคร่งแล้ว “ตะลอนเที่ยว” ขอชวนไปส่ง “ตะวันลา” กันที่ "ดอยผาตั้ง" ซึ่งตั้งอยู่ในบ้านผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เช่นกัน โดยอยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปประมาณ 25 กม. ขับรถราวๆ ไม่เกิน 1 ชม. เท่านั้น โดยระหว่างทางก็จะเห็นสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งแซมอยู่ในภูเขาและระหว่างทาง

ผาตั้ง ก็เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่นเช่นเดียวกัน จากระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร ผาตั้งเป็นภูเขากั้นเขตแดนไทย-ลาว ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดีทั้งในยามเช้าและเย็น โดยในยามเช้านั้นจะมีทะเลหมอกสวยงามให้ชม ส่วนยามเย็นถือเป็นจุดชมทิวทัศน์และจุดชมพระอาทิตย์ตกชั้นดี

แต่ทั้งนี้ต้องออกแรงเดินขึ้นไปบนสันเขาแนวตะเข็บชายแดนกันหน่อย แต่หากใครเดินไม่ไหวที่นี่ก็มีบริการขี่ (นั่ง) ม้าชมวิวที่ชาวบ้านแถบนั้นเขาจัดม้าไว้บริการได้
นั่งชมวิวบนดอยผาตั้ง
มองไปเห็นเส้นทางเดินขึ้นมาสู่ยอดเนิน
เมื่อมาถึงผาตั้ง เราเดินขึ้นไปตามทางบนซุ้มประตูที่ อบจ.จัดสร้างไว้ เพื่อขึ้นไปชมวิวบริเวณ “ผาบ่อง” ที่เป็นดังประตูสยามสู่ประเทศลาว มีลักษณะเป็นช่องหินขนาดใหญ่ มองไปเห็นวิวประเทศลาวได้อย่างชัดเจน และถ้าใครใจกล้าก็สามารถเดินเลียบผาเข้าไปเที่ยวชายขอบของประเทศเพื่อนบ้านได้

ที่ภูผาตั้งยังมี“ช่องเขาขาด” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสำคัญ มีลักษณะเป็นช่องเขาแคบๆ ที่ขาดแยกออกจากกัน สามารถไปยืนรับลมชมวิวของประเทศลาวได้เป็นอย่างดี
นั่งทอดอารมณ์ชมวิวที่ผาตั้ง
บรรยากาศยามเย็นที่ผาตั้ง
นอกจากนี้บนแนวเทือกเขาภูผาตั้ง ยังมี “ศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่”ให้เที่ยวชมรำลึกในวีรกรรม มี “พระพุทธมังคลานุภาพลาภสุขสันติ” ให้ผู้ที่ขึ้นไปได้กราบไหว้สักการบูชา มี “ป่าหินยูนนาน” เป็นกลุ่มหินธรรมชาติรูปร่างประหลาดขึ้นเรียงรายมีขนาดพื้นที่พอประมาณ

ขณะที่เนิน 102 และเนิน 103 ที่อยู่ไม่ไกลกันนั้นถือเป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ลับฟ้าชั้นดี ซึ่งหลังดวงตะวันลาลับ “ตะลอนเที่ยว” เดินลงจากผาตั้งมาจิบชา กาแฟ ของชาวบ้านที่เปิดร้านขายอยู่ริมทาง พร้อมกับหม่ำขนม-โรตี ก่อนอำลาผาตั้งเดินทางสู่ที่พัก เป็นอันจบทริปหนึ่งวันแบบเก๋ๆ ที่ภูชี้ฟ้า-ผาตั้ง ที่หากมาเยือนแล้วก็ควรจะไปเที่ยวเสียให้ครบ รับรองว่าบรรยากาศและอากาศที่ดีไม่เหมือนใครรอคุณอยู่ที่นี่แน่นอน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ภูชี้ฟ้า” ตั้งอยู่ในวนอุทยานภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงราย จากบริเวณสามแยกภูชี้ฟ้า (ที่ขึ้นมาจาก อ.เทิง) สามารถเดินทางขึ้นมาได้สองทาง คือเลี้ยวซ้ายมาทางบ้านร่มฟ้าทอง และเลี้ยวขวามาทางบ้านร่มฟ้าไทย (วนอุทยานภูชี้ฟ้า)

"หน่วยจัดการต้นน้ำหงาว-งาว" ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าทอง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ใกล้กับทางขึ้นภูชี้ฟ้า ดอกนางพญาเสือโคร่งที่หน่วยฯ ขณะนี้เริ่มร่วงโรยไปเยอะแล้ว น่าจะมีให้ชมไม่เกินภายในอาทิตย์นี้

“ผาตั้ง” อยู่ในบ้านผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย อยู่ห่างจากภูชี้ฟ้าไปอีกประมาณ 25 กม. สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก

สามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวที่ภูชี้ฟ้าและสถานที่อื่นๆ ในจังหวัดเชียงรายได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทร. 0-5371-7433, 0-5370-0051-2
0-5371-7434
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สายการบินนกแอร์ มีเที่ยวบินเส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – เชียงราย 7 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-800 ที่รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 189 ที่นั่ง ผู้โดยสารสามารถระบุที่นั่งได้ฟรี พร้อมอาหารว่างบนเครื่อง ฟรีน้ำหนักสัมภาระใต้ท้องเครื่อง 15 กก. (20 กก.สำหรับสมาชิกนกแฟนคลับ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.NokAir.com หรือ Call center 1318

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น