บริษัท เจียไต๋ จำกัด ในฐานะผู้ริเริ่มบุกเบิกธุรกิจเมล็ดพันธุ์พืช ของไทย มานานกว่า 94 ปี เล็งเห็นถึงความสำคัญทางด้านนวัตกรรม การพัฒนาสายพันธุ์ ด้านการเกษตร จึงได้จัดงานใหญ่แห่งปี “เจี่ยไต๋แฟร์ 2015 มหัศจรรย์แห่งเมล็ดพันธุ์” เพื่อโชว์ศักยภาพด้านสายพันธุ์พืชผัก ผลไม้ ทางการเกษตรที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้น ร่วมกับการท่องเที่ยว จังหวัดกาญจนบุรี เนรมิตพื้นที่ไร่ชนม์เจริญ ฟาร์ม กว่า 100 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้ผู้สนใจและเกษตรกรได้เข้าชม
นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติงาน บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัท ร่วมกับ จังหวัดกาญจนบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัด “งานเจียไต๋แฟร์ 2015 มหัศจรรย์แห่งเมล็ดพันธุ์” ภายใต้แนวคิด กินข้าวเป็นหลัก กินผักเป็นยา ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ถือว่า เป็นครั้งที่ 8 ได้ทางบริษัทได้ใช้เวลาการเตรียมงานนานถึง 4 ปี ได้การจัดงานครั้งที่ผ่านมา เมื่อ 2554 โดยมีผู้สนใจเข้าชมงานในครั้งที่ผ่านมา มากถึง 2 แสนคน ในปีนี้ ทางการท่องเที่ยว และทางบริษัทเจียไต๋ มั่นใจว่าจะมีนักท่องเที่ยว มาเที่ยวชมงานมากกว่า 3 แสนคน
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ จัดขึ้น บนพื้นที่ 100 ไร่ ของ ไร่ชนม์เจริญฟาร์ม ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ จะจัดขึ้นในรูปแบบของงานท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยจะเน้นย้ำให้ประชาชนเห็นประโยชน์ถึงการบริโภคผักเพื่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์และการเพาะปลูก การจัดแสดงจะแบ่งเป็น 8 โซน ได้แก่
1. โซน “รักษ์พันธุ์พื้นเมืองเพื่อความยั่งยืน” ให้ความรู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ เพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจความแตกต่างของเมล็ดพันธุ์ชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์พื้นเมือง สายพันธุ์ OP สายพันธุ์ลูกผสม F1-Hybrid เป็นวิวัฒนาการของการปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
2. โซน “กินข้าวเป็นหลัก กินผักเป็นยา” จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับพืชหลัก 5 ชนิด ได้แก่ แตงโม ฟักทอง พริก มะเขือเทศ ข้าวโพด และพืชยอดนิยมอื่นๆ ได้แก่ แตงกวา มะระ แฟง มะเขือ เป็นต้น โดยจะให้ข้อมูลทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปที่เน้นในเรื่องประโยชน์ของการกินผัก ผลไม้ ความรู้ทางโภชนาการ การให้ความรุ้เกษตรกรในเรื่องการเพาะปลูกที่ให้ผลผลิตสูง ตลอดจนการแนะนำเมล็ดพันธุ์ สำหรับแต่ละพื้นที่การปลูก
3. โซน “โฮมการ์เด้นท์ คุณทำได้ นำเสนอไอเดียการทำสวนในบ้านขนาดเล็กผ่านการจัดแสดงบ้านตัวอย่าง 3 หลัง ที่มีทั้ง สวนหน้าบ้าน ที่ปลูกผักสวนครัว สมุนไพร สวนดอกไม้ สวนผักจำลอง และการจัดทำสวนริมระเบียงเพื่อการปลูกผัก และดอกไม้ในพื้นที่จำกัด เช่น ระเบียงคอนโดในเมืองใหญ่ ถือเป็นโซนที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่เข้าชมงาน ได้เริ่มทำสวนเล็กของตนเอง นอกจากนี้ ในโซนนี้ ยังได้มีส่วนของ “อะควาโพนิค” โดยเป็นการสร้างระบบน้ำไหลเวียนจากการเลี้ยงปลามาใช้ในการปลูกผัก และเทคนิคการปลูกผักกลับหัว ซึ่งเป็นแนวคิดใช้พื้นที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยต้องการให้การปลูก 1 ครั้ง ได้ทั้งด้านบนและด้านล่างกระถาง
4. โซน “รักษ์พืช รักเกษตรกร” ถือว่าเป็นไฮไลท์ของงานในปีนี้ มีการจำลองบ้านไทยของเกษตรกร มีทุ่งนาสองฝั่ง และมีพืชเศรษฐกิจที่ปลูกผสมผสานอยู่ในนั้น เช่น ข้าวโพด พริก ฯลฯ เน้นการนำเสนอภูมิปัญญาไทยและวิธีแบบธรรมชาติในการเพาะปลูก ควบคู่ไปกับการให้ความรู้การใช้ผลิตภัณฑ์อารักขาพืชอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันโรค และแมลงสมัยใหม่ โดยถือเป็นโซนที่ให้ความรู้แบบครบวงจร และคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน
5. โซน “พืชโรงเรียน” จัดแสดงเทคโนโลยีการปลูกพืชในโรงเรียน แสดงวิธีการจับเลื่อย เทคนิคการแขวน ซึ่งสามารถเข้าชมเพื่อหาความรู้และถ่ายรูปสวย และมีกล้าเพาะจำหน่ายภายในโซนนี้ด้วย
6. โซน “ดอกไม้ในโรงเรือน” ซึ่งเป็นพื้นที่พิเศษที่จัดทำขึ้นสำหรับงานนี้เท่านั้น เพื่อให้ผู้เข้าชมงานพบกับความสวยงาม ของดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งถือเป็นโซนพักผ่อน
7. โซน “คลินิกเกษตร” เป็นจุดศูนย์รวมความรู้วิชาการต่าง ๆ ทั้งการพูดคุยให้คำปรึกษา ด้านการเกษตร จากนักวิชาการเจียไต๋ จาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช และยังมีเวทีสำหรับกิจกรรมการสอนทำอาหาร และกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
8. กิจกรรมอื่นๆ กิจกรรมตัดผักสด ร้านค้าผักและผลไม้สด ร้านค้าเมล็ดพันธุ์ และอุปกรณ์การเกษตร มุมต้นกล้า ไม้กระถาง และอื่นๆ
สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ ต้องการที่จะผู้เข้าชมงานทุกคนได้รับความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเพื่อนำกลับไปประยุกต์ใข้ได้อย่างเหมาะสม และเป็นการจุดประกายทางความคิดให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเกษตรในฐานะแหล่งที่มาของอาหารที่ป้อนให้กับมวลมนุษยชาติทั่วโลก
นอกจากนี้ ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะเจ้าของพื้นที่ นายกาศพล แก้วประพาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว ถึงการจัดงานครั้งนี้ ว่า ทางจังหวัดได้เข้าร่วมกับทางเจี่ยไต๋ ในทุกครั้งที่มีการจัดงาน เพราะส่วนหนึ่ง ทางจังหวัดเองเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาและยกระดับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และจัวหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงทางด้านแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมธรรมชาติจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ดังนั้น นอกจากท่องเที่ยวธรรมชาติ ต้องการที่จะส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตรควบคู่ไปด้วย ทำให้เราเห็นโอกาสในการที่จะเข้าร่วมกับงานเจียไต๋แฟร์ในครั้งนี้ ทางจังหวัดจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในทุกด้านอย่างเต็มที่
งานเจียไต๋แฟร์ 2015 ครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-18 มกราคม 2558 รวม 10 วัน ตั้งแต่ 8.00 น.-17.00 น. ณ ไร่ชนม์เจริญฟาร์ม ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2639-4000 หรือการท่องเที่ยว Call center 1672
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SME ผู้จัดการออนไลน์" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *