เมื่อลมหนาวจากทางเหนือเริ่มพัดลงใต้ เปรียบดังสัญญาณบ่งบอกว่า ฤดูแห่งการท่องเที่ยวรับลมหนาวได้เริ่มต้นแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวบนภูเขาน้อยใหญ่ก็ต่างเปิดรอรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ที่ต้องการจะมาสัมผัสลมหนาวในช่วงที่พิเศษที่สุดของปี
“สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ” ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวในช่วงฤดูที่แสนพิเศษนี้ และได้มีการจัดแคมเปญ “ห่มหมอก กอดหนาว ดูดาวบนภู” เพื่อชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับลมหนาว ไปพร้อมกับการชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงามตลอดช่วงฤดูหนาวนี้
สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ที่บริเวณพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์ฯ แห่งนี้ มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยในอดีตเมื่อปี พ.ศ.2531 เคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างทหารไทยและลาว ที่เกิดจากกรณีพิพาทในเรื่องพรมแดน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2542 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการดำเนินงานของโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคงพื้นที่ ภูขัด ภูเมี่ยง ภูสอยดาว ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และได้มีพระราชดำริให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ สำนักนายกรัฐมนตรี ดำเนินการจัดตั้งสวนพฤกษศาสตร์ บ้านร่มเกล้าฯ ขึ้นในวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2542 ในพื้นที่ส่วนปลายของเทือกเขาภูสอยดาว โดยมีพระราชประสงค์เพื่อส่งเสริมความมั่นคงในประเทศ และเป็นการอนุรักษ์พื้นที่ป่าสมบูรณ์ไว้เพื่อเป็นแหล่งป่าต้นน้ำ พร้อมทั้งพัฒนาสถานที่ดังกล่าวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดพิษณุโลก
ในปัจจุบันสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ แห่งนี้ ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการเรียนรู้ และพักผ่อน โดยได้มีการจัดแสดงพรรณไม้ประจำถิ่น ไม้หายากและไม้ใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งมีทั้งไม้ดอกไม้ประดับ ที่ผลัดกันเบ่งบานให้ได้ชมอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละฤดูกาล พฤกษาแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ แห่งนี้ จึงเปรียบดั่งห้องสมุดทางธรรมชาติ ที่สามารถมาท่องเที่ยวไปพร้อมกับการศึกษาธรรมชาติ
พฤกษานานาพันธุ์ของทางสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ได้ถูกนำมาจัดแสดงไว้ในส่วนจัดแสดงต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชม อาทิ ภายในส่วนโรงเรือนพันธุ์ไม้ ที่ได้แบ่งการจัดแสดงพันธุ์ไม้ไว้ในโรงเรือนต่างๆ เช่น “โรงเรือนจัดแสดงกล้วยไม้” ที่ได้รวบรวมสายพันธุ์กล้วยไม้ไทยหลากหลายชนิดมาจัดแสดงให้ได้ชม และหากใครมาในช่วงนี้ ก็จะมีโอกาสได้ยลโฉมดอกกล้วยไม้สกุลรองเท้านารีที่ออกดอกรับลมหนาว อีกทั้งยังมีกล้วยไม้ลูกผสมระหว่างเอื้องพร้าวกับกล้วยไม้ดง กล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่แสนสวยที่ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อให้ได้ชมความสวยงาม
และยังมี “โรงเรือนจัดแสดงเฟิร์น” ที่ได้นำเฟิร์นนานาชนิด ที่มีทั้งสายพันธุ์ในประเทศและต่างประเทศ บางต้นมีรูปร่างแปลกตามาจัดแสดง และยังมีโรงเรือนอนุรักษ์พันธุกรรม,โรงเรือนเพาะขยายพันธุ์พืช ให้ได้ชมกันอีกด้วย
นอกจากโรงเรือนจัดแสดงพฤกษานานาชนิดแล้ว บริเวณที่โล่งแจ้งโดยรอบสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ยังได้มีการปลูกพรรณไม้หลากชนิดให้นักท่องเที่ยวที่มาเยื่อนได้ชมกันอีกด้วย โดยในช่วงนี้ ก็จะพบกับเหล่าต้นกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ที่ “แปลงรวบรวมพันธุ์กุหลาบ” ที่แต่ละต้นผลัดกันชูช่อออกดอกหลากสีสันเบ่งบานให้ได้ชม
และบริเวณโดยรอบแปลงกุหลาบก็ยังมี “ต้นสนอินเดีย” ที่ในยามเหมันต์นี้ ทุกต้นต่างก็ออกดอกสีเหลืองรูปร่างแปลกตา ชูช่อพริ้วไหวไปกับสายลมเย็นให้ได้ชมกันอีกด้วย
และยังมีเหล่า “กุหลาบพันปี” ที่แข่งกันออกดอกชูช่องดงามสะพรั่ง ให้ได้ชมกันอย่างใกล้ชิด ไปพร้อมๆ กับลมเย็นๆ ที่ลอยมากระทบผิว
อีกทั้งในช่วงนี้ “สร้อยสยาม” พรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกที่เพิ่งได้รับการค้นพบ ก็ยังได้ออกดอกให้ยลโฉมด้วยเช่นกัน สร้อยสยามเป็นพันธุ์ไม้ตระกูลชงโคหรือเสี้ยวของไทย ที่สามารถพบในป่าเบญจพรรณผสมป่าไผ่ บริเวณภูเมี่ยง จังหวัดพิษณุโลก
นอกจากพรรณไม้นานาชนิดแล้ว สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ก็ยังมีจุดชมวิว “ค้อเดียวดาย” ให้ได้มาชมทัศนียภาพอันงดงามของเทือกเขาสลับซับซ้อนอันงดงามที่อยู่ในอาณาเขตของ 2 ประเทศ 3 จังหวัด โดยจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่ฝั่งประเทศลาวในยามเช้า และสามารถเห็นดวงตะวันลับขอบฟ้าที่ฝั่งประเทศไทย และยังเห็นทัศนียภาพได้กว้างไกลถึง 3 จังหวัดได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และเลย อีกทั้งยังสามารถเห็นภูสอยดาวได้อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ห้ามพลาด ที่ต้องมาเยือนของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้
หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการพักค้างแรม ทางสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ก็มีเต็นท์และลานกางเต็นท์ไว้ให้บริการอีกด้วย โดยในช่วงค่ำคืนของฤดูหนาวนั้นท้องฟ้าจะเปิดโล่ง สามารถมองเห็นหมู่ดาวระยิบระยับได้อย่างชัดเจน และทางสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ ยังได้มีกิจกรรมนั่งรถอีแต๊ก ชมบรรยากาศยามเช้า โดยจะพาขับชมวิวทิวทัศน์ในเส้นทางโดยรอบสวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้าฯ การนั่งรถอีแต๊กชมบรรยากาศยามเช้าอันแสนสดชื่น พร้อมมีลมหนาวพัดมากระทบ จึงถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่อยู่ในเส้นทางผ่าน ที่สามารถแวะไปเที่ยวได้อีกด้วย อาทิ น้ำตกชาติตระการ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูขัดฯ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย “สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ” จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในการมาสัมผัสลมหนาวไปพร้อมกับการได้สัมผัสธรรมชาติอันงดงาม ในช่วงฤดูที่พิเศษแห่งปี
*****************************************************************************************************
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สวนพฤกษศาสตร์บ้านร่มเกล้า พิษณุโลก ในพระราชดำริ โทร. 0-5531-6713-5,08-1287-4994 สามารถเยี่ยมชมได้ทางเฟสบุค : facebook.com/romklaobg
ค่าบริการเต็นท์และลานกางเต็นท์ : 2 คน 150 บาท , 4 คน 300 บาท โดยจะได้รับเต็นท์พร้อมเครื่องนอน ได้แก่ ที่รองนอน,หมอน,ผ้าห่ม
ค่าบริการรถอีแต๊ก : คันละ 300 บาท นั่งได้ 6 คน
**********************************************************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com