xs
xsm
sm
md
lg

อดีตที่หลายคนไม่รู้จัก..."บุรีรัมย์" เมืองรวยภูเขาไฟ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ปราสาทพนมรุ้ง” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดบุรีรัมย์บนยอด(อดีต)ภูเขาไฟ
“จังหวัดบุรีรัมย์” เป็นจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ ตามคำขวัญประจำจังหวัด ที่กล่าวไว้ว่า “เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม” ภูเขาไฟของจังหวัดบุรีรัมย์นั้น เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว โดยมีจำนวนภูเขาไฟทั้งสิ้น 6 ลูก อีกทั้งภูเขาไฟบางลูก ก็เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของทางจังหวัดอีกด้วย แต่น้อยคนนั้นจะรู้จักชื่อของภูเขาไฟทั้ง 6 แห่งของจังหวัดบุรีรัมย์จนครบ “รอบรู้เรื่องเที่ยว” ในครั้งนี้ จึงขอพาไปทำความรู้จักกันกับอดีตภูเขาไฟทั้ง 6 แห่ง ว่ามีชื่ออะไรและตั้งอยู่ที่ใดบ้าง

เริ่มต้นที่ภูเขาไฟลูกแรก ที่มีชื่อว่า “ภูเขาไฟพนมรุ้ง” ตั้งอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของทางจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะบริเวณยอดเขาเป็นที่ตั้งของ “ปราสาทหินพนมรุ้ง” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัด ปราสาทหินพนมรุ้งนั้นเป็นโบสถ์พราหมณ์ลัทธิไศวะ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15-18 ด้วยหินทรายสีชมพู ที่มีการสลักลวดลายไว้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีปรากฏการณ์แสงอาทิตย์ลอดประตูทั้ง 15 ของปราสาทในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี ให้ได้ชม
นักท่องยืนเที่ยวชม “ปากปล่องภูเขาไฟกระโดง” บนสะพานแขวน
ภูเขาไฟลูกถัดมาคือ “ภูเขาไฟกระโดง” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ภายในวนอุทยานเขากระโดง ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นภูเขาไฟที่สามารถเห็นปากปล่องภูเขาไฟเมื่อครั้งอดีตได้ชัดเจนที่สุด และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยบริเวณด้านบนยอดเขานั้น มีลักษณะเป็นแอ่งลึก ซึ่งเป็นปากปล่องภูเขาไฟเมื่อครั้งอดีต เเละสามารถที่จะเดินชมบริเวณปากปล่องได้ด้วยสะพานแขวน อีกทั้งละแวกใกล้เคียงบนยอดเขายังเป็นประดิษฐานพระสุภัทรบพิตรและจุดชมวิว ให้ได้สักการะและชมวิวทิวทัศน์มุมสูงของจังหวัดบุรีรัมย์อีกด้วย
“หินลอยน้ำ” ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่เกิดจากภูเขาไฟ
ที่เขากระโดงแห่งนี้ ยังมี “หินลอยน้ำ” ให้ได้ชมกันด้วย โดยหินลอยน้ำเกิดขึ้นจากหินบะซอลด์หลอมเหลวที่ถูกพ่นขึ้นมาบนผิวโลกจากการระเบิดของภูเขาไฟ แล้วเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วขณะที่ก๊าสและไอน้ำที่อัดแน่นอยู่ในหิน จึงทำให้เกิดรูพรุนเมื่อเย็นตัวลง เเละทำให้กระจายแรงกดจนน้ำสามารถพยุงก้อนหินให้ลอยได้
โบสถ์วัดเขาพระอังคารสวยงามแปลกตา (ภาพ : web-pra.com)
ต่อกันด้วย(อดีต) ภูเขาไฟลูกที่สามของจังหวัดบุรีรัมย์ มีชื่อว่า “ภูเขาไฟเขาอังคาร” ตั้งอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากภูเขาไฟพนมรุ้ง ที่ยอดเขาอังคารแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของ “วัดเขาพระอังคาร” ที่มีโบสถ์ที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบประยุกต์หลายสมัยที่สวยงามแปลกตา และภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษให้ได้ชม
“ปราสาทไปรบัด” (ภาพ : oknation.net)
มาถึงภูเขาไฟลำดับ 4 มีชื่อว่า “ภูเขาไฟไปรบัด” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอประโคนชัย และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ภูเขาไฟลูกนี้ มีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ย ซึ่งบริเวณยอดเขานั้นเป็นที่ตั้งของ “ปราสาทเขาไปรบัด” โดยเป็นปราสาทขอมที่ถูกสร้างขึ้นจากหินทรายเหมือนปราสาทพนมรุ้ง ในช่วง พุทธศตวรรษที่ 15 ให้ได้ชม

ส่วนภูเขาไฟอีกสองแห่งสุดท้าย คือ “ภูเขาไฟหลุบ” อยู่ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ “ภูเขาไฟเขาคอก” ตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย ภูเขาไฟทั้งสองแห่งนี้ เเม้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่ก็ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ด้านธรณีวิทยาในเรื่องเกี่ยวกับภูเขาไฟของไทยได้เป็นอย่างดี ภูเขาไฟทั้ง 6 แห่งนี้ แม้จะเหลือเพียงแค่ร่องรอยความยิ่งใหญ่เมื่อครั้งอดีต แต่ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเเละแหล่งเรียนรู้ ที่จะยังคงอยู่ให้ผู้คนรุ่นหลังได้เห็นต่อไปตราบนานเท่านาน

** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น