ในความรู้สึกของ “ตระเวนกิน” การมากิน “ชาบู” (SHABU) หากมากินคนเดียวก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้ามากินกันหลายๆ คนกับพี่น้อง ครอบครัว หรือเพื่อนฝูงจะอร่อยและสนุกมากกว่ามากินคนเดียวเป็นไหนๆ เพราะว่าการที่นั่งล้อมวงกันอยู่หน้าหม้อชาบูร้อนๆ และช่วยกันสั่งเมนูอาหารมาจุ่มลวกลงในหม้อ กินร่วมกันพร้อมกับพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ มันช่างเป็นมื้ออาหารที่แสนจะอิ่มอร่อย และอิ่มหนำสำราญใจเป็นอย่างยิ่ง
ที่พูดมาแบบนี้ก็ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะว่ามื้อนี้ “ตระเวนกิน” ได้ชวนสมัครพรรคพวกคนชอบกินเหมือนกัน ออกมาตระเวนกินชาบูๆ ร้อนๆ หอมกรุ่น อิ่มอุ่นท้องกันยังร้านชาบูน้องใหม่ ที่เปิดตัวมาได้ไม่นานอยู่แถวถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งร้านที่พวกเราพากันมาก็คือ “BUTA SHABU” (บูตะ ชาบู) แม้ว่าจะเป็นร้านที่ไม่ได้ใหญ่โตมากมาย แต่ว่าภายในร้านก็มีโต๊ะให้เลือกนั่งในห้องแอร์เย็นสบาย ทางร้านทาสีผนังด้วยสีเหลืองดูสดใส ประดับฝาผนังด้านหนึ่งด้วยไม้ไผ่ และอีกด้านมีปลาคาร์ฟติดอยู่ ดูแล้วก็ได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนิดๆ น่ารักดี
สำหรับชาบูของที่นี่ที่ดึงดูดใจให้พวกเราต้องขอมาลองลิ้มกันให้ได้ ก็เพราะว่าเป็นชาบูสไตล์ฟิวชั่น ที่นำเอาชาบูสไตล์ญี่ปุ่นผสมผสานกับความเป็นไทย โดยมีจุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปชาบู ซึ่งมีให้เลือกลิ้มรสถึง 3 แบบด้วยกัน อย่างแรกเป็นน้ำซุปสุกี้ญี่ปุ่น เป็นสไตล์น้ำซุปดำแบบญี่ปุ่น ตัวน้ำซุปทำมาจากปลาคัทสึโอะแห้ง ต้มกับโชยุและสาเก มีกลิ่นหอมรสชาติจะออกเค็มมากกว่าหวาน น้ำซุปอย่างที่สอง เป็นน้ำซุปชาบูแบบใส ได้มาจากการนำเอาปลาคัทสึโอะแห้งมาต้มกับโชยุและเกลือ น้ำซุปใสๆ หอมกลิ่นปลาแห้ง ออกรสจืดๆ หน่อย
และน้ำซุปอย่างที่สามที่ถือว่าเป็นน้ำซุปตัวชูโรงที่ทางร้านคิดขึ้นมาเป็นพิเศษใส่ความเป็นไทยลงไปด้วย คือ น้ำซุปกะเพรา ที่ก็ได้จากการนำปลาคัทสึโอะแห้ง มาต้มกับโชยุ และใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแดงสด และทีเด็ดก็อยู่ที่จะมีใบกะเพราสดๆ มาให้ใส่ลงไปในน้ำซุปด้วยเวลาที่เรากินชาบู ก็ให้ใส่ใบกะเพราตามลงไป เวลาซดน้ำซุปร้อนๆ จะได้กลิ่นหอมของใบกะเพราขึ้นจมูก น้ำซุปมีรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้านเผ็ดร้อนแบบไทยๆ
สำหรับน้ำซุปของที่ร้านนี้ สามารถเลือกสั่งมากินกันได้ถึง 2 แบบ ในหม้อเดียวกัน เพราะทางร้านเลือกใช้หม้อที่สามารถแบ่งน้ำซุปออกได้เป็น 2 ช่อง ส่วนน้ำจิ้มก็มีทั้งน้ำจิ้มสุกี้ที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองเป็นสไตล์แบบกวางตุ้ง มีส่วนผสมของเต้าหู้ยี้ และใส่พริกมาให้ด้วย และน้ำอีกแบบคือ น้ำจิ้มพอนซึที่ปรุงขึ้นมาเองเช่นกัน มีต้นหอม และพริกกับกระเทียมมาให้ด้วย
ส่วนเมนูอาหารที่มีให้เลือกสั่งมาจุ่มลวกในหม้อชาบูนั้น ทางร้านมีให้เลือกสั่งเป็นแบบจานเดียวซึ่งมีหลากหลายเมนู และมีแบบที่จัดเป็นเซตเมนูไว้ให้แล้วด้วย มื้อนี้พวกเราเลือกสั่งเมนูมากินกันมากมายเลย โดยสั่ง ชุดรวมหมู+เนื้อ+ผัก (299 บาท) มาเป็นอย่างแรก ในชุดนี้ประกอบไปด้วยเนื้อหมูส่วนสันคอ สันนอก ซี่โครงหมูอ่อนสไลด์ คอหมู และเบคอนสด ส่วนเนื้อวัวมีเนื้อน่อง เนื้อเสือร้องไห้ เนื้อเซอร์ลอยด์ แล้วก็ยังมีผักรวมมาให้ด้วย มีผักกาดขาว ผักบุ้ง กะหล่ำปลี เห็ดเข็มทอง และวุ้นเส้น เนื้อหมูแต่ละอย่างนำมาจุ่มลวกในน้ำซุปสุกได้ที่เคี้ยวนุ่มถูกปาก ส่วนเนื้อวัวก็เคี้ยวนิ่มหนึบหนับปากดีจริง
จากนั้นไม่พอต้องขอสั่ง ลูกชิ้นกุ้ง (39 บาท) เป็นลูกชิ้นกุ้งที่เนื้อนุ่มเคี้ยวแล้วได้รสชาติกุ้งเต็มปากเต็มคำ แล้วก็ลูกชิ้นไข่กุ้ง (39 บาท) เป็นลูกชิ้นปลาสอดไส้ด้วยไข่กุ้ง กินแล้วอร่อยนุ่มถูกลิ้น มีไข่กุ้งให้เคี้ยวมันปากด้วย และเต้าหู้ปลาไส้ชีส ออสเตรเลีย (39 บาท) เป็นเต้าหู้ปลาสอดไส้ด้วยชีสจากออสเตรเลีย ลวกสุกแล้วเคี้ยวนุ่มปากมากแถมได้รสชาติของชีสนุ่มๆ
ตามมาด้วย หมูสับทรงเครื่อง (49 บาท) ที่จัดเสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ ดูเก๋ไก่ เป็นหมูสับปรุงรสใส่สาหร่ายและแครอท เวลากินก็ตักปั้นเป็นก้อนแล้วใส่ลงหม้อชาบู พอสุกก็ส่งเข้าปากเคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงหมูสับเนื้อนุ่มเด้งมีรสชาติกลมกล่อมกำลังดี
แล้วก็สั่ง เต้าหู้ญี่ปุ่น (25 บาท) เป็นเต้าหู้ญี่ปุ่นหั่นมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดกำลังดี นำไปต้มในน้ำซุป กินเต้าหู้เนื้อนุ่มนิ่มถูกปากไม่ใช่น้อย
เดี๋ยวจะหาว่าไม่กินผัก เลยขอสั่ง ชุดผักเพื่อสุขภาพ (89 บาท) มากินกัน ในชุดนี้มีผักหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ผักกาดขาว ผักบุ้ง ข้าวโพดอ่อน กะหล่ำปลี เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิ เห็ดชิเมจิ และวุ้นเส้น เรียกว่ากินผักชุดนี้แล้วได้สุขภาพจริงๆ เพราะผักแต่ละอย่างล้วนแต่มีความสดและสะอาด
ปิดท้ายให้อิ่มสุดๆ กันไปเลยกับ ข้าวผัดกระเทียม (25 บาท) ทางร้านนำข้าวหอมมะลิหุงสุกแล้ว มาผัดกับเนย กระเทียม และปรุงรสด้วยโชยุ ผัดมาแบบแห้งๆ กินแล้วข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มปากได้รสชาติและหอมกลิ่นกระเทียมอ่อนๆ
แม้ว่าพวกเราจะเลือกสั่งเมนูมากมายมาลวกจุ่มในหม้อชาบูจนอิ่มหนำแล้ว แต่ก็ขอบอกว่าถ้าใครมากันหลายคนมากๆ ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนให้สั่งมาลองลิ้มกันอีกเพียบ อาทิ ชุดหมู+ผัก (199 บาท) ชุดเนื้อ+ผัก (279 บาท) หมูสันคอ (49 บาท) เบคอนสด (49 บาท) เนื้อน่อง (69 บาท) เนื้อวัวสันสะโพก (69 บาท) ลูกชิ้นหมู (35 บาท) และอีกสารพันเมนูที่ชวนให้กินกันแบบอิ่มท้อง อยากให้แฟนๆ นักกินคนไหนที่ชื่นชอบกินชาบูร้อนๆ หอมกรุ่นกลิ่นน้ำซุป ลองแวะเวียนมาชิมชาบูรสดีของร้าน “BUTA SHABU” นี้กันดู ของแบบนี้ไม่ลองด้วยตัวเองไม่รู้หรอกนะว่าถูกปากแค่ไหน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“BUTA SHABU” (บูตะ ชาบู) ตั้งอยู่ที่ 725 ถ.ลาดพร้าววังหิน แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กทม. การเดินทางถ้ามาจากเสนานิคม ให้ตรงมาจนถึงสี่แยกวังหิน เลี้ยวขวาเข้าถ.ลาดพร้าววังหิน และตรงมาเรื่อยๆ เลยโลตัสเอ็กซ์เพลสมาหน่อย ก็จะร้านบูตะ ชาบู อยู่ติดริมถนน (ใกล้กับซ.ลาดพร้าววังหิน 93) มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน สามารถจอดรถได้ที่ปั๊มแก๊ส PTT เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00-23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-23.00 น. โทร. 08-8246-5035
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน “BUTA SHABU” (บูตะ ชาบู)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
