หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว “Dream Destination” กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอภายใต้แคมเปญ “หลงรักประเทศไทย” มี “หมู่เกาะสุดแดนบูรพา” หรือ “หมู่เกาะทะเลตราด” เป็น 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด
“หมู่เกาะทะเลตราด” เป็นหมู่เกาะกลางท้องทะเลซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดตราด มีจำนวนหมู่เกาะมากถึง 52 เกาะด้วยกัน และมีเกาะช้างเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต) นอกจากนั้นก็ยังมีเกาะอื่นๆ ที่เรารู้จักกันดี อาทิ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะกระดาด เกาะหวาย เกาะเหลายา เกาะง่าม เกาะรัง เกาะขาม เป็นต้น
นอกจากเกาะช้างที่เรารู้จักกันดีแล้ว ในคราวนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะพาไปเที่ยวชมเกาะอื่นๆ ในท้องทะเลตราดกันบ้าง โดยครั้งนี้พามาเที่ยวกันถึง 3 เกาะด้วยกัน ได้แก่ เกาะหมาก เกาะกระดาด และเกาะกูด เกาะสุดท้ายแห่งทะเลอ่าวไทย ที่แต่ละแห่งก็มีเสน่ห์ดึงดูดแตกต่างกันไป
เที่ยวแบบโลว์คาร์บอน ที่ “เกาะหมาก”
เกาะหมากเป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด มีความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน บนเกาะมีอ่าวน่าสนใจ เช่น “อ่าวนิด” เป็นที่ตั้งของชุมชนใหญ่ “อ่าวสวนใหญ่” เป็นอ่าวโค้งยาวน่ายล “อ่าวโล่ง” ที่รอบข้างร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยสวนยางพารา ในหลายๆ หาดหลายๆ อ่าวจะมีการสร้างสะพานเทียบเรือ (ของที่พัก) ทอดยาว ถือเป็นจุดถ่ายรูปและเสน่ห์อันโดดเด่นของเกาะแห่งนี้
ด้วยความที่เกาะหมากเป็นเกาะระหว่างกลางของหมู่เกาะช้าง และรอบข้างแวดล้อมไปด้วยเกาะหลากหลาย เกาะหมากจึงเป็นดังจุดเชื่อมไปยังเกาะอื่นๆ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำดูประติมากรรมช้างใต้ทะเล ดำน้ำดูปะการังเกาะยักษ์ หมู่เกาะรัง ที่มีปลามากมายว่ายเวียนกันไปมา อีกทั้งยังมีกอดอกไม้ทะเลจำนวนมากที่มีปลาการ์ตูนหน้าตาน่ารักแหวกว่ายอยู่รอบๆ ดอกไม้ทะเลอีกด้วย
ซาฟารีกลางทะเล “เกาะกระดาด”
ใครจะไปเชื่อว่ามาที่เกาะกลางทะเลตราดแล้วจะได้มานั่งรถชมฝูงกวางราวกับอยู่ในสวนสัตว์เปิดก็มิปาน “เกาะกระดาด” ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะหมาก (ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก) เป็นเกาะที่มีสัณฐานแบนราบเหมือนแผ่นกระดาษ แต่ที่มาของชื่อเกาะกระดาดจากต้น “กระดาด” ที่ในอดีตเคยมีขึ้นอยู่บนเกาะเป็นจำนวนมาก
เกาะกระดาดมีหาดทรายขาวสะอาดทอดเป็นแนวยาวรอบเกาะ บนเกาะมีรีสอร์ตเล็กๆ เพียงแห่งเดียว และอุดมไปด้วยต้นมะพร้าวและเจ้ากวางน้อยใหญ่เต็มเกาะ โดยกวางเหล่านี้แต่เดิมมีอยู่เพียง 6 ตัว ซึ่งเจ้าของเกาะนำมาจากเขาเขียวมาเลี้ยงเอาไว้จนออกลูกหลานมากมาย ปัจจุบันบนเกาะกระดาดมีกวางหลายร้อยตัว จนได้รับฉายาว่าเป็น “ซาฟารีกลางทะเล”
การชมกวางบนเกาะกระดาดนั้นเราจะนั่งชมบนรถอีแต๊กที่พาเราแล่นจากด้านหนึ่งของเกาะผ่านสวนมะพร้าวต้นสูงชะลูดมายังอีกด้านหนึ่งของเกาะ ส่วนฝูงกวางก็ออกมาหากินเล็มหญ้าอยู่ตามสองข้างทาง บ้างกินหญ้าแบบชิลๆ บ้างก็กำลังงงกับเสียงกดชัตเตอร์รัวๆ ของนักท่องเที่ยว บ้างก็ดูตื่นตกใจกับเสียงรถอีแต๊กจนวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว
รถอีแต๊กพาเราวิ่งผ่านมายังชายหาดอีกด้านหนึ่งของเกาะ ชายหาดแห่งนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่ต้นมะพร้าวที่มีรูปทรงแปลกตา ลำต้นของมันยื่นยาวเอียงลู่เข้าหาท้องทะเล ก่อนจะไปกระดกยกยอดสูงตรงขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นไม่ว่าใครมาที่เกาะกระดาดก็มักจะมาถ่ายรูปคู่กับมะพร้าวต้นนี้เสมอๆ
เที่ยวทั้งทะเลทั้งน้ำตก ที่ “เกาะกูด”
“เกาะกูด” นับเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกของไทย และเป็นเกาะแห่งแรกที่ “ตะลอนเที่ยว” แวะมาเที่ยวกัน เกาะกูดได้ชื่อว่าเป็น “เพชรเม็ดงามแห่งชายฝั่งตะวันออก” ตัวเกาะมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต เกาะช้าง และเกาะสมุย ความโดดเด่นของเกาะกูดคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เพราะบนเกาะนอกจากจะมีทะเลและชายหาดสวยๆ แล้ว ยังมีป่าไม้และน้ำตกขนาดใหญ่อีกด้วย
มาดูทะเลสวยๆ ของเกาะกูดกันก่อนดีกว่า ด้วยความที่อยู่ไกลชายฝั่งทำให้เกาะกูดมีหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลสวยใสไม่ต่างจากเกาะแถบอันดามัน จนเกาะกูดได้รับฉายาว่าเป็น “อันดามันตะวันออก” บนเกาะกูดมีชายหาดสวยๆ หลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อ่าวสับปะรด อ่าวสลัด อ่าวยายเกิด อ่าวกล้วย อ่าวจาก หาดคลองยายกี๋ หาดตะเภา หาดคลองเจ้า อ่าวพร้าว เป็นต้น
ส่วนใครที่อยากออกไปดำน้ำดูปะการัง ที่เกาะกูดก็มีจุดดำน้ำดูโลกใต้ทะเลอันงดงามบริเวณ “อ่าวใหญ่” โดยที่อ่าวใหญ่นี้เป็นที่ตั้งของชุมชนบ้านเรือนชาวประมงเล็กๆ บริเวณนี้เป็นเวิ้งอ่าวที่สวยงามและเงียบสงบเพราะถูกโอบล้อมด้วยสันเขาขนาดย่อมอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผืนป่า นั่งเรือออกจากหมู่บ้านชาวประมงไปไม่กี่นาที เรือก็จะพาไปยังจุดดำน้ำกันแล้ว น้ำทะเลที่นี่สวยใส ทำให้เล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน ดำน้ำแบบสน็อกเกิลก็ได้เห็นความงดงามของโลกใต้ท้องทะเล มีปะการัง ดอกไม้ทะเล ปลาทะเลหลายสายพันธุ์ หอยเม่น ปลิงทะเล และมีหอยมือเสือตัวใหญ่ให้ได้เห็นด้วย
นอกจากนั้น แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดบนเกาะกูดก็คือ “น้ำตกคลองเจ้า” น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี (แต่ในช่วงหน้าแล้งน้ำจะมีปริมาณน้อยสักหน่อย) ตัวน้ำตกคลองเจ้ามีทั้งหมด 3 ชั้น เหมาะแก่การเล่นน้ำท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้น้อยใหญ่ อีกทั้งน้ำตกคลองเจ้ายังถือเป็นน้ำตกประวัติศาสตร์ โดยเมื่อปี 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) ได้เสด็จประพาสมาที่นี่ และพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อเป็นที่ระลึกถึงองค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยเข้ามาลี้ภัยจากการจลาจลในสมัย ร.1 และยังได้ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อไว้บนก้อนหิน ถ้าหากว่าน้ำไม่มากก็จะได้เห็นรอยจารึกนั้น
สำหรับหน้าร้อนนี้ยังอีกยาวไกล ถ้าใครอยากดับร้อนด้วยการมาเที่ยวทะเล อย่าลืมให้ “หมู่เกาะทะเลตราด” ไม่ว่าจะเป็นเกาะกูด เกาะหมาก เกาะกระดาด หรือเกาะอื่นๆ เป็นตัวเลือกในการเดินทางครั้งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในหมู่เกาะทะเลตราด หรือการท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ ในจังหวัดตราดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด โทร. 0-3959-7259 ถึง 60, 0-3959- 7255
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com