ไม่น่าเชื่อว่าเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่ยังคงมีทะเลหมอกให้ได้ชมกันในช่วงที่อากาศอบอ้าวแบบนี้ แถมไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือหรืออีสาน เพียงเดินทางมาที่จังหวัดเพชรบุรี ที่ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ก็จะได้ชมทะเลหมอกหน้าแล้งที่งดงามไม่แพ้ทะเลหมอกหน้าหนาวแห่งอื่นๆ
อช.แก่งกระจาน ตั้งอยู่ใน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นับเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศ พื้นที่ 1.8 ล้านไร่ครอบคลุม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ โดยมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นเขตแดนที่กั้นระหว่างประเทศไทยและพม่า มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ประกอบด้วยสัตว์ป่าและพรรณไม้นานาชนิด และผืนป่าแห่งนี้ยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำปราณบุรีและแม่น้ำเพชรบุรีอีกด้วย
สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนแก่งกระจานก็คือ “ทะเลหมอก” ที่มีให้ชมทุกฤดูแม้ในหน้าแล้ง เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าก่อให้เกิดความชุ่มชื้นและสายหมอกขึ้น ที่สำคัญคือทะเลหมอกหน้าแล้งบนแก่งกระจานนับว่างดงามกว่าฤดูไหนๆ เพราะหมอกจะไหลเรี่ยไปตามยอดเขา ไม่ฟุ้งกระจายเหมือนอย่างหน้าหนาวหรือหน้าฝน
จุดชมทะเลหมอกบน อช.แก่งกระจาน อยู่บน “เขาพะเนินทุ่ง” ได้แก่บริเวณ กม.30 ซึ่งใกล้กับจุดกางเต็นท์ บริเวณนี้เป็นเนินเขาโล่งๆ สามารถมองลงไปเห็นผืนป่าเบื้องล่างและทะเลหมอกที่ไหลเรี่ยยอดเขา อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีป้ายข้อมูลให้ความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับ อช.แก่งกระจาน พืชพรรณและสัตว์ป่าต่างๆ และอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามก็คือบริเวณ กม.36 ซึ่งเป็นถนนเลียบริมหน้าผา เราสามารถชมทิวทัศน์ได้กว้างไกล ชมสายหมอกขาวไหลลัดเลาะไปตามไหล่เขา และหากโชคดีก็จะได้เห็นนกเงือกกรามช้างบินผ่านไปมา แสดงให้เห็นถึงความเป็นธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลาย
ทัศนียภาพของทะเลหมอกบนเขาพะเนินทุ่งงดงามจนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกให้เป็น 1 ใน 10 แหล่งท่องเที่ยวในฝัน (Dream Destination) ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสได้ง่ายๆ เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวก และมีสิ่งที่น่าสนใจให้ไปเที่ยวชมมากมาย
แหล่งท่องเที่ยวบนแก่งกระจานยังไม่หมดเท่านี้ โดยบริเวณ กม.36 นี้ยังมีทางเดินเท้าลงไปสู่ “น้ำตกทอทิพย์” ระยะทางประมาณ 4 กม. น้ำตกทอทิพย์เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ความสูง 9 ชั้น โดยชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่มีความสวยงามมากที่สุด ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ สภาพโดยรอบเป็นป่าดิบชื้น มีสัตว์ป่าชุกชุมตลอดเส้นทาง
อีกทั้ง อช.แก่งกระจาน ยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งดูนกชั้นเยี่ยม โดยเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีจำนวนชนิดนกมากที่สุดในประเทศ มีนกที่พบแล้วไม่ต่ำกว่า 430 ชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ และที่เขาพะเนินทุ่งนี้เป็นแหล่งที่พบ “นกกะลิงเขียดหางหนาม” นกที่แต่เดิมเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้วจากประเทศไทย แต่ภายหลังในปี 2533 มีรายงานการพบเห็นอีกครั้งที่เขาพะเนินทุ่ง
นอกจากนั้นก็ยังมีนกอีกหลายชนิดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนกเงือก อาทิ นกเงือกกรามช้าง นกเงือกสีน้ำตาล นกกก กลุ่มนกพญาปากกว้าง อาทิ นกพญาปากกว้างอกสีเงิน นกพญาปากกว้างลายเหลือง นกพญาปากกว้างท้องแดง กลุ่มนกกระเต็น นกหัวขวาน นกจาบคา นกขุนแผนอกสีส้ม เป็นต้น ซึ่งนกเหล่านี้สามารถพบเห็นได้ทั้งบนเขาพะเนินทุ่ง และที่ “บ้านกร่างแคมป์” บริเวณ กม.15-18 ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางก่อนขึ้นเขาพะเนินทุ่ง บ้านกร่างแคมป์เป็นอีกหนึ่งจุดกางเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาแวะพักชมธรรมชาติ เพราะบริเวณนี้ถือว่าเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ ด้วยสภาพนิเวศวิทยาที่หลากหลายและความสมบูรณ์ของผืนป่า โดยบริเวณนี้สามารถพบได้ไม่น้อยกว่า 200 ชนิด ในฤดูกาลที่แตกต่างกัน
ไม่เพียงเท่านั้น บริเวณบ้านกร่างแคมป์ยังเป็นแหล่งดูผีเสื้อชั้นเยี่ยมอีกด้วย โดยในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมในการชมผีเสื้อบริเวณลำห้วยต่างๆ จะเป็นจุดที่มีผีเสื้อมาบินวนเวียนโดยเฉพาะในช่วงสายๆ ที่แดดร้อนกำลังพอดี ผีเสื้อฝูงใหญ่จะบินกระพือปีกออกมากันขวักไขว่ บ้างบินวนเวียนไปมา บ้างเกาะนิ่งอยู่บนก้อนหิน กางปีกสวยออกผึ่งแดด ซึ่งก็มีผีเสื้อหลากหลายชนิดเช่นกัน อาทิ ผีเสื้อวงศ์ขาหน้าพู่หนอนใบรักลายเสือ ผีเสื้อหนอนกะหล่ำขอบปีกเลื่อยจุดแดง ผีเสื้อหนอนกะหล่ำเหลืองสยามธรรมดา ผีเสื้อหางติ่งสะพายฟ้า เป็นต้น รวมไปถึงแมลงปอก็บินออกมาอวดโฉมด้วยเช่นกัน
ฤดูร้อนนี้หากมาที่แก่งกระจาน ก็จะได้ชมทั้งทะเลหมอกและสัมผัสอากาศเย็นสดชื่นยามเช้า ได้พบเห็นนกหลากชนิดสีสันสวยงาม และฝูงผีเสื้อปีกบางออกมาบินเล่นกลางแสงแดด นับเป็นความคุ้มค่าที่ไม่ต้องเดินทางไปไกล แต่ได้สัมผัสธรรมชาติอยู่แค่เอื้อม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
อช.แก่งกระจาน กำหนดเวลาขึ้น-ลงเขาพะเนินทุ่งจากบ้านกร่างแคมป์คือ เวลาขึ้น 05.30-07.30 น. และ 13.00-15.30 น. เวลาลง 09.00-10.00 น. และ 16.00-17.00 น. เนื่องจากสภาพถนนเป็นทางลูกรังค่อนข้างแคบ และชันเล็กน้อย รถที่ขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่งควรเป็นรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ไม่ควรเป็นรถเก๋ง ผู้ที่ต้องการติดต่อรถกระบะขึ้นพะเนินทุ่งสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.แก่งกระจาน ค่ารถไปเช้าเย็นกลับ 1,600 บาท ค้าง 1 คืน 2,000 บาท (รถนั่งได้ 8-10 คน) สอบถามได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อช.แก่งกระจาน โทร.0-3245-9293 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี โทร. 0-3247-1005-6
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com