xs
xsm
sm
md
lg

กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไปสัมผัส กับ 10 สถานที่ชวนฝัน “Dream Destination”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วัดแก้วสารพัดนึก : วัดพระธาตุผาแก้ว
ในเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่มีความงดงามชวนฝันและชวนให้ตกหลุมรัก แต่อาจยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก โดยในปี 2557 นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดโครงการ Dream Tourism ภายใต้แคมเปญ “หลงรักประเทศไทย” โดยเริ่มต้นด้วยโครงการ “Dream Destination” กาลครั้งหนึ่ง...ต้องไป และคัดสรรแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามและสร้างแรงบันดาลใจ ดึงดูดให้คนไทยต้องออกไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ให้ได้สักครั้งหนึ่ง แล้วจะหลงรักเมืองไทย ทั้ง 10 สถานที่เหล่านั้นมีดังนี้

วัดแก้วสารพัดนึก : วัดพระธาตุผาแก้ว

“วัดพระธาตุผาแก้ว” หรือเดิมคือวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่ตั้งของวัดซึ่งล้อมรอบไปด้วยเนินเขาสลับซับซ้อน ประกอบกับสถาปัตยกรรมภายในวัดที่สร้างอย่างวิจิตรงดงาม โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดคือ “เจดีย์พระธาตุผาซ่อนแก้ว สิริราชย์ธรรมนฤมิต” เจดีย์ขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยถ้วยชามกระเบื้องและลูกแก้วในจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผนัง เสา และพื้น เมื่อกระทบกับแสงแดดก็จะส่องประกายระยิบระยับงดงาม อีกทั้งด้านบนเจดีย์ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของเขาค้อได้เป็นอย่างดี
ป่าสนสลับสี : ออป.วัดจันทร์
ป่าสนสลับสี : ออป.วัดจันทร์

องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้วัดจันทร์ หรือ ออป.วัดจันทร์ นับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลต์ของ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ โดยภายในพื้นที่มีสวนอันร่มรื่นเขียวครึ้ม โดยเฉพาะสวนสนที่ปลูกอยู่ทั่วบริเวณ มีสะพานไม้สร้างอย่างเป็นธรรมชาติให้เดินชมทิวทัศน์พืชพรรณไม้ รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานให้ปั่นชมธรรมชาติ อีกทั้งภายใน ออป.ยังมีทุ่งนาเขียวขจีมีฉากหลังเป็นป่าสนลำต้นตระหง่าน ใกล้ๆ กับทุ่งนาจะเป็นอ่างเก็บน้ำที่ถือเป็นจุดถ่ายรูปชั้นดี ในยามเช้าของช่วงหน้าหนาว เหนืออ่างเก็บน้ำแห่งนี้จะมีสายหมอกลอยล่องดูราวกับความฝัน และที่สำคัญ ในช่วงฤดูหนาวต้นเมเปิลจะเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นส้ม และน้ำตาล ต้นนางพญาเสือโคร่งจะทิ้งใบและผลิดอกสีชมพูสดใส บวกกับป่าสนสีเขียวขจี จนเรียกได้ว่าเป็น “ป่าสนสลับสี” งดงามจนไม่อยากละสายตา
ป่าห่มศรัทธา : วัดป่าภูก้อน
ป่าห่มศรัทธา : วัดป่าภูก้อน

“วัดป่าภูก้อน” ตั้งอยู่ใน อ.นายูง จ.อุดรธานี นอกจากจะเป็นวัดที่มีความสงบตามแบบพุทธศาสนสถานแล้ว ยังมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ บริเวณโดยรอบวัดมีทิวทัศน์ที่งดงาม มองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อนรายล้อมรอบกว่า 3,000 ไร่ ผู้ที่มาเยือนวัดป่าภูก้อน จะได้มากราบนมัสการ “พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี” พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี อีกทั้งยังสามารถมากราบสักการะ “องค์พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์” องค์เจดีย์ที่ชั้นบนยอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และประดิษฐานรูปหล่อของบูรพาจารย์ในสายกรรมฐานให้กราบระลึกบูชากันด้วย
เกล็ดพญานาค มุมมองจากด้านบนวัดผาตากเสื้อ
เกล็ดพญานาคริมโขง : หาดทรายริมโขง อ.สังคม

อ.สังคม เป็นอำเภอแรกสุดของ จ.หนองคาย ที่แม่น้ำโขงไหลผ่าน เป็นอำเภอเล็กๆ ที่เงียบสงบแต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปชมกัน ไม่ว่าจะเป็น “วัดถ้ำศรีมงคล” หรือ “วัดถ้ำดินเพียง” ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นเส้นทางสู่เมืองพญานาคและยังเป็นทางเดินใต้ลำโขงที่เชื่อมไปถึงเมืองเวียงจันทน์ได้ “วัดผาตากเสื้อ” วัดบนภูเขาที่นอกจากจะได้มาไหว้พระทำบุญแล้ว ยังจะได้มาชมวิวแม่น้ำโขงในมุมที่งดงามที่สุดอีกแห่งหนึ่ง เพราะเมื่อมองจากบนผาลงมามองเห็นแม่น้ำโขงวาดยาวโค้งเป็นคุ้งน้ำ กลางแม่น้ำมีเกาะขนาดใหญ่ ทำให้แม่น้ำโขงช่วงนี้คล้ายแยกเป็นรูป Y อีกทั้งในแม่น้ำโขงในบริเวณ อ.สังคม ช่วงหน้าแล้งที่น้ำลดจะมองเห็นหาดทรายยาวกลางแม่น้ำเป็นริ้วทรายลายเกล็ดพญานาค ดูงดงามปนความพิศวงไม่น้อย
สะพานเมฆ : เขาช้างเผือก
สะพานเมฆ : เขาช้างเผือก

“เขาช้างเผือก” ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในแบบผจญภัย ด้วยเส้นทางสู่ยอดเขาที่มีความท้าทาย โดยเส้นทาง 1 กม. สุดท้ายสู่ยอดเขาช้างเผือกนั้นจะต้องผ่านจุดที่เรียกว่า “สันคมมีด” ซึ่งเส้นทางบนสันเขาแคบๆ สองข้างเป็นหุบเหวสูง ผู้ที่จะพิชิตยอดเขาช้างเผือกก็จะต้องพิชิตความกลัวและหวาดเสียวผ่านจุดนี้ไปให้ได้ แม้เส้นทางจะน่ากลัว แต่ก็งดงามไม่เหมือนที่ใด ยิ่งช่วงเวลาเช้าหรือเย็นที่มีสายหมอกโอบคลุมสันเขา สันคมมีดก็เป็นดังสะพานเมฆทอดยาวข้ามสู่ยอดเขาสูงงดงามยิ่งนัก
ทะเลหมอกตลอดปี : พะเนินทุ่ง
ทะเลหมอกตลอดปี : พะเนินทุ่ง

“เขาพะเนินทุ่ง” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในแวดล้อมของผืนป่าดงดิบตามธรรมชาติที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด อีกทั้งบนเขาพะเนินทุ่งแห่งนี้ยังเป็นแหล่งชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของหมอกสีขาวที่ปกคลุมไปทั่วหุบเขาได้ตลอดทั้งปี ซึ่งจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดบนเขาพะเนินทุ่งจะอยู่บริเวณ กม.ที่ 30 และ กม.ที่ 36 อีกทั้งระหว่างสองข้างทางที่ขึ้นสู่เขาพะเนินทุ่งนั้นก็ยังสามารถชมผืนป่าที่ยังสมบูรณ์ และหากโชคดีก็สามารถพบเห็นสัตว์ป่า อาทิ ค่างแว่นถิ่นใต้ นกนานาชนิดได้อีกด้วย พร้อมกันนั้นยังมีเหล่าผีเสื้อนานาสายพันธุ์โบยบินตามเส้นทางให้ได้ชมอย่างไม่ขาด
ถนน ชล-จันท์ : เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิศมองจากจุดชมวิวนางพญา
ถนนชล-จันท์ : เส้นทางเฉลิมบูรพาชลทิต

“ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต” เรียกได้ว่าเป็น Scenic Route หรือเส้นทางชมทิวทัศน์อันสวยงาม โดยเป็นเส้นทางที่วิ่งเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออกจากจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ระยะทาง 111 กม. ซึ่งจะผ่านจุดชมวิวสวยๆ หลายจุดตลอดเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นหาดแหลมสน อนุสรณ์เรือรบหลวงประแสใน จ.ระยอง ปากแม่น้ำจันทบุรี หาดเจ้าหลาว อ่าวคุ้งวิมาน จุดชมวิวเนินนางพญา ใน จ.จันทบุรี เป็นต้น
เกาะกูด หนึ่งในหมู่เกาะทะเลตราด
หมู่เกาะสุดแดนบูรพา : หมู่เกาะทะเลตราด

ในท้องทะเลอ่าวไทย หมู่เกาะในทะเลตราดถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในทุกๆ หน้าร้อน ด้วยความงดงามและความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละเกาะ ไม่ว่าจะเป็นเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะหวาย เกาะกระดาด เกาะกูด หรือเกาะเล็กเกาะน้อยอื่นๆ ที่มีจำนวนมากถึง 52 เกาะ ก็ทำให้ทะเลตราดกลายเป็นหมู่เกาะสุดแดนบูรพาที่ชวนฝัน เป็นสวรรค์ของนักเดินทางทุกคน
สระว่ายน้ำกลางทะเล : เกาะห้อง
สระว่ายน้ำกลางทะเล : เกาะห้อง

“เกาะห้อง” เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะเหลาบิเละ” อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ เป็นเกาะที่มีความงดงามด้วยลักษณะของอ่าวโค้งคล้ายรูปนกบิน มีน้ำทะเลใสสีเขียวมรกต และมีหาดทรายที่ขาวละเอียด โอบล้อมด้วยแนวป่าสลับกับหินสูงชัน อีกทั้งจุดเด่นของเกาะห้องก็คือจะมีลากูน หรือทะเลใน เป็นเวิ้งอ่าวปิดล้อมด้วยเขาหินปูน ภายในเป็นเหมือนสระน้ำขนาดใหญ่สีเขียวมรกต ที่โอบล้อมด้วยเขาสูงทุกทิศทาง เหมือนมีสระว่ายน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง เป็นความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น
สวรรค์ของคนมีความรัก : เกาะหลีเป๊ะ
สวรรค์ของคนมีความรัก : เกาะหลีเป๊ะ

“เกาะหลีเป๊ะ” ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล ได้ชื่อว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย” ด้วยชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใสราวกระจกจนมองเห็นผืนทรายเบื้องล่างแม้จะลึกกว่า 3 เมตร และวิวของดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าที่ชายหาดก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหน ไม่แปลกใจเลยที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตต่างหลงใหลในมนต์สะกดของเกาะนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น