ไป “ทะเล” กันดีกว่า...
“ตะลอนเที่ยว” ขอชวนมิตรรักนักเที่ยวทุกคน เก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทะเลให้ลั้นลา รับลมทะเลเย็นๆ เล่นน้ำทะเลสวยใส หาความสุขสบายใจใส่ตัวกันดีกว่า เพราะเห็นว่าช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองเราช่างอึมครึม ดูร้อนรุ่ม แลแล้วน่ากลุ้มใจ ไม่รู้ว่าจะปะทุจุเดือดขึ้นมาเมื่อใด
เลยเกรงว่าถ้าเรามัวแต่เสพข่าวการเมืองอันดีเดือดมากเกินไป อาจจะเกิดอาการจิตป่วยได้ จึงอยากชักชวนให้ไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า ไปเที่ยวทะเลทางใต้ ไปสัมผัสความงดงามของท้องทะเลอันดามันอันสวยใส ซึ่งจังหวัดที่อยากชวนไปก็คือ “จ.กระบี่” เพราะที่นี่มีธรรมชาติของทะเลอันบริสุทธิ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางทะเลให้เลือกเที่ยวหลากหลาย และผู้คนที่เมืองกระบี่ก็น่ารักมีอัธยาศัยที่ดี ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยมิตรไมตรี
กอรปกับการเดินทางมายังจ.กระบี่ก็แสนจะสะดวกสบาย ซึ่งเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ สายการบินราคาประหยัดอย่างนกแอร์ได้เปิดเที่ยวบินใหม่ พาบินตรงจากดอนเมืองมาสู่จ.กระบี่ แบบสบายๆ มีหรือเราจะไม่รีบเก็บกระเป๋าพร้อมกับแบกกล้องคู่ใจ มาตะลอนเที่ยวทะเลกระบี่ในวันฟ้าใส พาใจให้เบิกบานกันดีกว่า
“ตะลอนเที่ยว” ขอพาเปิดฉากเที่ยวเมืองกระบี่ด้วยการไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย กันที่ “วัดถ้ำเสือ” ที่นี่เป็นสำนักสงฆ์ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานของ หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ ที่มีชื่อเสียง ภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง มีสถานที่ให้เลือกไปกราบไหว้ขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่มากมาย
เราได้เดินไปยังถ้ำด้านบนที่เมื่ออดีตว่ากันว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของเสือมาก่อนจึงเป็นที่มาของชื่อวัดถ้ำเสือ แต่ทุกวันนี้ไม่มีเสือในถ้ำแล้ว จะมีก็แต่รูปปั้นเสือและมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ให้ได้กราบขอพรแทน และมีพระบรมสารีริกธาตุให้กราบสักการะ
และเมื่อเดินเข้ามายังส่วนด้านในของวัดก็จะพบกับบันได 1,237 ขั้น ให้ได้เดินขึ้นเขาไป เพื่อไปสักการะพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา แต่ถ้าใครไม่มีแรงเดินขึ้นบันได ด้านล่างมีองค์เจ้าแม่กวนอิมให้ได้ไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง และภายในวัดยังมีพื้นที่ให้ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ มีสวนป่าอันรื่นรมย์ และมีฝูงลิงป่ามาอาศัยอยู่ ซึ่งต้องระมัดระวังเจ้าจ๋อพวกนี้สักหน่อย เพราะชอบเข้ามาแย่งของจากนักท่องเที่ยว
พอได้ไหว้พระทำบุญจนอิ่มใจแล้ว เราออกเดินทางแวะไปชมสัญลักษณ์เมืองกระบี่กัน นั่นคือ “เขาขนาบน้ำ” เป็นภูเขาหินปูนสองลูกตั้งสูงเด่นตระหง่านเป็นสง่าขนาบกับผืนน้ำ แวดล้อมไปด้วยป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งสามารถนั่งเรือไปชมเขาขนาบน้ำใกล้ๆ ได้ด้วย แต่เราไม่ได้ลงเรือไปชม ได้แค่ยืนถ่ายรูปดูอยู่ไกลๆ ตรงจุดที่เป็นที่ตั้งของ “ประติมากรรมปูดำ” เป็นรูปปั้นแม่ปูตัวใหญ่กับลูกๆ ปู ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองกระบี่เช่นกัน
จากนั้น “ตะลอนเที่ยว” ขอพาไปเที่ยวสัมผัสธรรมชาติอันน่าสนใจ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของเมืองกระบี่ ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักกัน ที่แห่งนี้คือ “เกาะกาโรส” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก ที่นี่มีจุดขายอยู่ที่การนั่งเรือหัวโทง ซึ่งเป็นเรือท้องถิ่นที่ชาวบ้านเอาไว้ใช้งาน (หรือจะพายเรือคายัคก็ได้) โดยจะมีชาวบ้านมาคอยพายเรือหัวโทงพาลัดเลาะไปตามแม่น้ำลำคลอง และออกสู่ทะเลไปได้สัมผัสกับเทือกเขาหินปูนที่สวยงามและชื่นชมกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์
เรือจะค่อยๆ แล่นผ่านไปตามแนวป่าชายเลนที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ไว้เป็นอย่างดี ได้สัมผัสสายลมเย็นๆ ชื่นชมธรรมชาติที่สวยงาม และได้ยลเทือกเขาหินปูนที่จะมีรูปร่างแปลกตาให้ชมมากมาย ไม่ว่าเป็น หุบเขาผีสองอารมณ์ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนผี มีลูกตา มีจมูก มีปาก บางทีดูยิ้มบางทีดูโกรธ หรือเทือกเขาที่มีรูปร่างเหมือนผีตาโขน รูปแม่มด ฯลฯ ซึ่งอันนี้ก็ต้องใช้จินตนาการให้ในการชมกันสักหน่อย
นอกจากนี้ตามแนวเทือกเขาหินปูนที่เกาะกาโรสยังมีภาพเขียนสีโบราณอายุประมาณ 3,000-5,000 ปี จะพบบริเวณหน้าผาหินและถ้ำต่าง ๆ ชาวบ้านจะพาเรือลัดเลาะไปชมและชี้ชวนให้ชมภาพเขียนสีโบราณนี้ ที่ดูแล้วก็มีทั้ง ภาพตะขาบยักษ์ ภาพคน ภาพสัตว์ ก็แล้วแต่ว่าเรามองเป็นภาพอะไร ซึ่งถือว่าเป็นภาพเขียนโบราณที่ทรงคุณค่าหาชมได้ยาก รวมถึงยังมีถ้ำเล็กๆ ให้ได้ปีนป่ายขึ้นไปชมหน้าต่างมนุษญ์ถ้ำ ที่เป็นโพรงขนาดใหญ่ ให้ได้ไปยืนชมวิวของเกาะกาโรสที่งดงาม
หลังจากได้นั่งเรือหัวโทงชมธรรมชาติอันน่าพิสมัยที่เกาะกาโรสกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอพาลงเรือสปีดโบดแล่นออกจากฝั่งฝ่าเกลียวคลื่น สายลม และแสงแดดไปชมความงดงามของท้องทะเลที่แรกกันที่ “ทะเลแหวก” เป็นอันซีนไทยแลนด์ ที่มีความมหัศจรรย์อยู่ที่ เมื่อยามที่น้ำทะเลลดต่ำลง จะเกิดเป็นแนวสันทรายทอดยาวปรากฏขึ้น กลายเป็นสะพานทรายทอดยาวให้ได้เดินเชื่อมถึงกันระหว่าง 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ
ซึ่งถ้าอยากเห็นทะเลแหวกก็ต้องมาให้ถูกเวลาให้ตรงกับช่วงเวลาที่น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน จะได้เดินไปบนสันทรายที่ขาวละเอียดนุ่มเท้ามากๆ มีน้ำทะเลสวยใสให้ได้ลงไปเล่นได้ด้วย ซึ่งจะมีเรือพานักท่องเที่ยวมาชมทะเลแหวกกันเป็นจำนวนมาก จนบางทีอาจจะเห็นคนแหวกแทนทะเล เพราะคนเยอะมากจริงๆ
จากทะเลแหวกออกเรือไปเที่ยวกันต่อที่ “เกาะปอดะ” เป็นเกาะที่มีความสวยงามมาก มีหาดทรายที่ขาวละเอียดทอดตัวยาวไปตามแนวทิวสนอันร่มรื่น ยามที่ได้เดินเล่นบนหาดทรายช่างนุ่มเท้ามากๆ น้ำทะเลที่นี่ใสมากๆ ใสสะอาดเป็นสีเขียวมรกต
เราใช้เวลาเดินเล่นชมวิวและถ่ายรูปเพลินๆ อยู่บนเกาะปอดะสักพัก ก็ขึ้นเรือออกเดินทางไปยังที่หมายต่อไป มุ่งหน้ามากันที่ “อ่าวพระนาง” หรืออ่าวถ้ำพระนาง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ของทะเลกระบี่ ที่นี่มีชายหาดที่เงียบสงบ มีหาดทรายขาว และน้ำทะเลก็ใสสะอาดชวนให้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ทำกิจกรรมทางทะเลมากมาย จะนอนอาบแดด เล่นน้ำ พายเรือเล่น หรือจะมาทดสอบพละกำลังและความกล้า ด้วยการปีนหน้าผาที่สูงชัน ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
และที่อ่าวพระนางยังมี “ถ้ำพระนาง” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพกันมาก เป็นโถงถ้ำเล็กๆ ด้านในมีศาลและมีปลัดขิกจำนวนมาก ที่ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าหากมาขอพรที่ถ้ำพระนางแล้วสมหวัง ต้องนำปลัดขิกมาถวายแก้บนทำให้รอบๆ บริเวณศาลมีปลัดขิกรูปร่างแปลกๆ มากมาย เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก ที่ได้เห็นกองปลัดขิกจำนวนมากที่ตั้งอยู่ที่ถ้ำพระนางแห่งนี้
จากอ่าวพระนางเรากลับขึ้นเรืออีกครั้ง แล้วเบนหัวเรือมุ่งหน้ามาที่ “อ่าวไร่เลย์” หรือ หาดไร่เลย์ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งหาดยอดนิยม เพราะที่หาดไร่เลย์งดงามไปด้วยทัศนียภาพของท้องทะเลสวยๆ หาดทรายขาวๆ มีหน้าหินผาสูงเด่นตั้งตระหง่านเรียงราย
ที่อ่าวไร่เลย์มีรีสอร์ทให้บริการนักท่องเที่ยวได้ค้างคืนกันด้วย จะได้พักผ่อนสัมผัสท้องทะเลและทำกิกรรมทางทะเลกันอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งที่นี่มีกิจกรรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมมากก็คือ การปีนผา จะมีนักปีนผาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาปีนหน้าผาทดสอบความกล้าและความท้าทายกันเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ปีนผาระดับโลกก็ว่าได้
เราลงเดินเล่นที่อ่าวไร่เลย์สักครู่ ก็ได้เวลาขึ้นเรือกันอีกแล้ว เพราะยังมีทะเลอันดามันสวยๆ ของกระบี่รอให้ไปชมกันอีก ซึ่งครั้งนี้เรือแล่นพาเราไปสู่ “ลากูน” หรือ ทะเลใน เป็นเหมือนสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยหน้าผาสูง มีปากทางเข้าเป็นเหมือนช่องประตู ซึ่งเรือจะค่อยๆ แล่นเข้าไปสู่ลากูนด้านใน ได้เห็นทัศนียภาพของทะเลอันดามันที่งดงามจับตา น้ำทะเลสีเขียวใสมากๆ มองเห็นทรายสีขาวละเอียดที่อยู่ด้านล่าง สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย เพราะน้ำไม่ลึกมาก
“ตะลอนเที่ยว” แค่ได้แล่นเรือเข้าไปชมความงามของลากูนก็สุขใจแล้ว และก็แล่นเรือออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยัง “เกาะห้อง” ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เมื่อมองจากทะเลเข้าไปจะเหมือนมีหน้าผาตั้งตระหง่านเป็นช่องทางให้เข้าไปสู่ด้านใน เป็นเหมือนห้องเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในทะเลอันดามัน
เกาะห้องมีเวิ้งอ่าวสองอ่าวติดกัน มีเพียงโขดหินกั้นกลาง โอบล้อมด้วยแนวเขาหินปูนและต้นไม้ที่ขึ้นเขียวขจี มีชายหาดที่มีเม็ดทรายขาวละเอียดเดินนุ่มเท้ามากๆ และน้ำทะเลที่ช่างสวยใสเป็นสีเขียวมรกต ชวนให้ลงไปแหวกว่ายเล่นน้ำเป็นที่สุด
เราเลยไม่รีรอขอกระโดดลงทะเลเล่นน้ำอย่างสนุกสนานสบายใจ พอเล่นน้ำเหนื่อยก็ขอขึ้นมานั่งอาบแดดบนหาดทรายขาวนุ่มๆ นั่งดูฝรั่งพายเรือคายัค ดูเด็กๆ เล่นน้ำทะเลกันอย่างเพลิดเพลิน แล้วก็ได้เดินชมรอบๆ เกาะห้องๆ ชมวิวแบบชิลล์ๆ จนได้เวลาก็กลับขึ้นเรือ เพื่อมุ่งหน้ากลับฝั่งกันได้แล้ว
เรือพาเรามาขึ้นฝั่ง และปิดทริปเที่ยวทะเลกระบี่ในครั้งนี้กันที่นี่ “อ่าวนาง” หรือ หาดอ่าวนาง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่สวยงามและมีชื่อเสียงของเมืองกระบี่ หาดอ่าวนางมีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวกว้าง มีชาดหาดทอดตัวยาวกว่า 6 กม. ให้ได้เดินชมทิวทัศน์แบบเพลินๆ และที่หาดอ่าวนางยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกยิ่งนัก
ยามเย็นที่หาดอ่างนาง แค่เราได้มานั่งมองทะเลสวยๆ ชมพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าจมหายไปในทะเล ปลดปล่อยใจไปตามอารมณ์แบบสบายๆ ขอบอกเลยว่าช่างเป็นห้วงเวลาแห่งความสุขกายสบายใจ ที่หากใครอยากจะสัมผัสกับความรู้สึกสนุกสนานเบิกบานใจกับการได้มาท่องทะเลกระบี่อันงดงามแบบนี้บ้าง บอกได้แค่ว่าคงต้องรีบเก็บกระเป๋า แล้วตีตั๋วมาเยือน “กระบี่” กันด้วยตัวเองแล้วล่ะ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สายการบินนกแอร์ เปิดบริการเส้นทางบินในประเทศเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - กระบี่ ให้บริการบินวันละ 2 เที่ยวบิน และจัดโปรโมชั่นตั๋วโดยสารราคาพิเศษ เริ่มต้น 1,299 บาทต่อเที่ยว สามารถสำรองที่นั่งราคาโปรโมชั่นนี้ ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่าน www.nokair.com หรือ Call Center โทร.1318, ที่สนามบิน หรือตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารของนกแอร์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com