xs
xsm
sm
md
lg

“ยามาซาโตะ” อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ คุณภาพระดับพรีเมี่ยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศภายในห้องอาหารยามาซาโตะ
อาหารแต่ละชาติ ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป “ตระเวนกิน” เชื่อว่านักกินอาหารญี่ปุ่นชาวไทยส่วนใหญ่ ต่างหลงใหลในเสน่ห์ของ “อาหารญี่ปุ่น” ก็ตรงที่ความโดดเด่นในเรื่องของรสชาติอาหาร ที่เน้นเรื่องความสดของวัตถุดิบ ความพิถีพิถันในปรุงอาหาร บวกกับการจัดตกแต่งหน้าตาอาหารอย่างมีสไตล์ อันชวนให้ลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
เชฟชิเงรุ ฮางิวาระ ผู้รังสรรค์เมนูอาหารญี่ปุ่นเลิศรส
มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอตามใจปากของตัวเอง และขอชวนแฟนๆ ที่พิสมัยการกินอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย มาอิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นที่ “ห้องอาหารยามาซาโตะ” (Yamazato) ตั้งอยู่ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เหตุผลที่เราเลือกมาอิ่มกับอาหารญี่ปุ่นกันที่นี่ก็เพราะว่าห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ ได้ชื่อว่าเป็นห้องอาหารระดับซิกเนเจอร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งที่นี่นำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ เน้นเรื่องรสชาติของอาหาร และคัดสรรแต่วัตถุดิบมีคุณภาพ ระดับพรีเมี่ยมที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูจานเด็ด
บรรยากาศโต๊ะนั่งกินซูชิ
แล้วก็มีการตระเตรียมอาหารอย่างพิถีพิถันด้วยรูปแบบวิธีการดั้งเดิมที่เรียกว่า “ไคเซกิ เรียวริ” คืออาหารญี่ปุ่นชั้นสูงอายุเก่าแก่หลายศตวรรษ ซึ่งไคเซกิประกอบด้วยอาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันอย่างลงตัว ทุกจานได้รับการปรุงและจัดวางอย่างบรรจงและสร้างสรรค์โดยคำนึงถึงสีสันและรสสัมผัสของอาหาร อีกทั้งที่นี่ยังมีซูชิ ซาซิมิ และเทปันยากิให้ได้เลือกอิ่มอร่อยกันแบบเต็มที่
ลีลาของเชฟในการปรุงเทปันยากิ
และอีกสิ่งที่ดึงดูดใจให้อยากมาสัมผัสก็คือบรรยากาศของห้องอาหาร ที่ได้กับการตกแต่งอย่างหรูหรา ดูดีมีสไตล์ สามารถสัมผัสและมองเห็นได้ในทุกๆ รายละเอียด จากลวดลายบนเพดานที่เลียนแบบจีบพับคมๆ ของออริกามิ และมีโต๊ะให้เลือกนั่งแบบสบายๆ ในหลายโซน อย่างถ้าใครชอบกินซูชิ-ซาซิมิ ก็มีเคาน์เตอร์ซูชิให้เลือกนั่ง หรือจะเลือกไปนั่งที่โต๊ะเทปันยากิจะได้เห็นเชฟโชว์ทำเทปันยากิให้ชมอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าอย่างนั่งแบบเป็นส่วนตัวก็มีห้องวีไอพี 4 ห้องที่ตั้งชื่อห้องตามต้นไม้ของญี่ปุ่นให้บริการได้เลือกนั่งตามใจชอบ
ซูชิหลากหลายหน้าที่ชวนกิน
สำหรับในมื้อนี้เราก็เลือกที่จะลองลิ้มกับอาหารญี่ปุ่นแบบครบครัน โดยเลือกสั่งซูชิมากินกันก่อน ซึ่งซูชิของที่นี่จะใช้ปลาสดคุณภาพเยี่ยมที่สุด ส่งตรงเข้ามาจากตลาดซึคิจิ ประเทศญี่ปุ่น เราเลือกสั่งซูชิมากินหลายเมนู มี Hon-Maguro O-Toro (580 บาท++ ) เป็นปลาทูน่าตัวใหญ่ที่คัดเฉพาะเนื้อส่วนที่แพงที่สุด คือ โอโทโร่ สไลด์มาเป็นชิ้นวางบนข้าวปั้น กินแล้วยกนิ้วให้ในความนุ่มสดหวานของปลาโอโทโร่ที่เคี้ยวแล้วแทบละลายในปาก

แล้วมี Hon-Maguro Chu-Toro (480 บาท++) เป็นปลาทูน่าส่วนชูโทโร่ ที่กินแล้วเนื้อปลาสดหวานนุ่มไม่แพ้กัน Hotategai (420 บาท++) เป็นหอยเชลล์ญี่ปุ่น เนื้อเด้งนุ่มหวานสดได้ใจ Ama-Ebi (220 บาท++) เป็นกุ้งหวานที่เนื้อนุ่มหวานสมชื่อ Zuwaigani (230 บาท++) เป็นก้ามปูชิ้นใหญ่เนื้อนิ่มหวานปาก และ Negitoro Maki (600 บาท++) เป็นปลาทูน่าส่วนท้องสับผสมกับต้นหอมห่อด้วยสาหร่ายกินแล้วอร่อยถูกปาก
อาหารหลากหลายในชุดเมนู Yamazato Kaiseki
จากนั้นมากินเมนูไคเซกิกัน ที่สั่งมาคือ Yamazato Kaiseki (4,500 บาท++) เป็นชุดเมนูที่ประกอบไปด้วยอาหารหลายอย่าง และเมนูอาหารที่จัดเสิร์ฟมาจะมีการเปลี่ยนแปลงเมนูไปตามฤดูกาลต่างๆ ด้วย แล้วการเสิร์ฟอาหารก็จะเสิร์ฟเหมือนกับอาหารฝรั่ง คือเริ่มจากสตาร์เตอร์เป็นมะเขือยาวย่างปรุงรสพิเศษและมีเนื้อปูโรยหน้ามารสชาติอร่อยดี ตามมาด้วยซุปใสรสดีซดคล่องคอ ต่อด้วยซาซิมิที่มีทั้งปลาโอโทโร่ หมึก และไข่ปลาคาเวียที่สดหวานทุกอย่าง
เมนูข้าวในอาหารชุดเมนู Yamazato Kaiseki
จากนั้นเป็นเมนูปลาทูน่าส่วนแก้มกริลล์และราดด้วยบาซามิคซอสรสชาติเนื้อปลาทูน่านุ่มสดเข้ากับซอสรสเยี่ยม ตามด้วยเมนูหน่อไม้ต้มใส่สาหร่าย แครอทและถั่วรสชาติกลมกล่อมปาก แล้วมาอิ่มกับเมนูข้าวญี่ปุ่นมีปลาหางเหลืองราดด้วยครีมซอสสูตรพิศษและเทน้ำซุปที่ปรุงจากชาลงไป กินแล้วอร่อยถูกปากดีจริง ปิดท้ายด้วยของหวานที่มีทั้งเจลลี่ส้ม กีวี่ สตรอเบอร์รี มะม่วง มูสชาเขียว ผลไม้ในน้ำเชื่อม และชาเขียวร้อนล้างปากได้ดีแท้
เมนูเทปันยากิ Sachi
แล้วก็สั่งเมนูเทปันยากิมากินกันบ้าง มีชุด Sachi (5,500 บาท++) ในชุดประกอบด้วยอาหารหลายอย่าง มีปลาแซมอน ปลากะพงทอดกรอบและราดด้วยซอสสูตรพิเศษรสชาติอร่อยดี สลัดผักสดกรอบราดน้ำสลัดงาญี่ปุ่นหอมๆ ผัดผักกับเนย ซอสญี่ปุ่นและสาเก กุ้งล็อบสเตอร์จากแคนนาดากริลล์มาแบบกำลังดีเนื้อนุ่มหวานสดอร่อยถูกปากมาก
กุ้งล็อบสเตอร์เป็นหนึ่งในเมนูเทปันยากิ Sachi
และทีเด็ดก็อยู่ที่เนื้อพรีเมี่ยมวาโอส่วนเทนเดอร์ลอยน์ 100 กรัม จากเมืองคุมาโมโตะ ที่มีความนุ่มระดับ 7 นำมากริลล์จนสุกได้ที่ ลิ้มรสแล้วยกนิ้วให้ในความนุ่มของเนื้อชั้นดีที่เคี้ยวแล้วละลายในปากจริงๆ ตบท้ายมีไอศกรีมรสวนิลาและชาเขียวให้เลือกกินล้างปาก
เมนูเทปันยากิ Sato
Sato (5,000 บาท++) เป็นอีกหนึ่งชุดเมนูเทปันยากิที่ชวนกิน ในชุดก็มีอาหารหลายอย่างเหมือนกับชุด Sachi แต่จะต่างกันตรงที่มีกุ้งลายเสือ หอยเชลล์ เห็ด มะเขือม่วงย่างราดเนย ซึ่งทั้งกุ้งและหอยเชลล์เคี้ยวนุ่มเนื้อแน่นหวานหอมเนย และเนื้อทีเด็ดก็เป็น เนื้อญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยมส่วนเซอร์ลอยน์ 200 กรัม ที่มีความนุ่มระดับ 3 กริลล์แบบสุกได้ที่ ส่งชิ้นเนื้อเข้าปากสัมผัสได้ถึงความนุ่มมากๆ ของเนื้อเกรดดี และก็มีไอศกรีมให้กินล้างปากเหมือนกัน
กุ้งลายเสือและหอยเชลล์เป็นหนึ่งในเมนูเทปันยากิ Sachi
เรียกว่ามื้อนี้กับการมาตระเวนกินอาหารญี่ปุ่นอันหลากหลาย เล่นเอาอิ่มแน่นท้องสุดๆ ไปเลย ถ้าหากใครเป็นสาวกอาหารญี่ปุ่นตัวยงไม่อยากให้พลาด อยากชวนให้มาอิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ รสชาติดี ระดับพรีเมี่ยมของที่ “ห้องอาหารยามาซาโตะ” โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กันให้ได้เลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ห้องอาหารยามาซาโตะ” (Yamazato) ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ การเดินทางนั่งรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเพลินจิต แล้วเดินมาที่โรงแรมฯ ขึ้นมาที่ชั้น 24 ก็จะเห็นห้องอาหารยามาซาโตะ เปิดให้บริการทุกวัน อาหารเช้า 06.30 น. - 10.30 น. อาหารกลางวัน 11.30 น. - 14.30 น. และอาหารเย็น 18.00 น. - 22.30 น. โทร. 0-2687-9000
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง “ห้องอาหารยามาซาโตะ” (Yamazato)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น