เดินเข้าป่า เที่ยวปราสาทหิน – เดินลุยหิมะบนหลังคายุโรป ตามรอย ชายใหญ่-ชายรุจ แห่งวัง “จุฑาเทพ”

ถ้ากล่าวถึงละครที่มีกระแสมาแรงที่สุดในปีนี้ เห็นทีจะหนีไม่พ้นละครซีรีส์ชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ด้วยองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง บทละคร เสื้อผ้า หน้าผม รวมไปถึงฉากต่างๆ ที่สวยงาม ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยเสริมซึ่งกันและกันให้มีแต่คนรอติดตามชมละครชุดนี้อยู่

สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูละครซีรีส์ชุดนี้ ต้องขอแนะนำก่อนว่า ละครชุดนี้จะแบ่งออกเป็น 5 ตอน โดยตัวเอกของเรื่องจะเป็นพี่น้องในตระกูล “จุฑาเทพ” เริ่มต้นจากพี่ชายคนโตเรียงลำดับไปจนถึงน้องชายคนเล็ก ได้แก่ คุณชายธราธร คุณชายปวรรุจ คุณชายพุฒิภัทร คุณชายรัชชานนท์ และคุณชายรณพีร์

และเนื่องด้วยละครชุดนี้เป็นละครพีเรียด (ละครย้อนยุค) กลับไปเมื่อประมาณ พ.ศ.2500 จึงต้องมีการเลือกสรรสถานที่สำหรับถ่ายทำละครให้มีกลิ่นอายย้อนยุคตามไปด้วย ซึ่งความงดงามของสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศก็ได้ปรากฏให้ผู้ชมได้เห็นอยู่ในละครซีรีส์ชุดนี้นี่เอง

เดินเข้าป่า รักษาสมบัติชาติ กับ “คุณชายธราธร”
สำหรับตอนแรกของซีรีส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” เริ่มจากเรื่องของพี่ชายใหญ่ “คุณชายธราธร” ซึ่งมีอาชีพนักโบราณคดี เรื่องราวในละครมีการเข้าป่าเพื่อสำรวจโบราณสถานที่กำลังถูกรุกราน จึงต้องใช้โบราณสถานและป่าเขาเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักๆ เริ่มจาก

ปราสาทหินพนมวัน จ.นครราชสีมา ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโคราชประมาณ 15 กิโลเมตร โดยปราสาทหินพนมวันเป็นสถาปัตยกรรมตามคติความเชื่อของขอม ศิลปะแบบบาปวน มีการสันนิษฐานว่าก่อสร้างด้วยอิฐเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ 15 และต่อมาในราวพุทธศตวรรษที่ 18-19 ก็ได้มีการสร้างอาคารหินซ้อนทับลงไป และมีการขุดค้นพบจารึกที่เรียกปราสาทแห่งนี้ว่า “เทวาศรม” เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู แต่ต่อมาได้เปลี่ยนแปลงให้เป็นพุทธสถาน

ความน่าสนใจของที่นี่ก็คือ ปราสาทหินพนมวันเป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย แผนผังของปราสาทเป็นรูปแบบเดียวกันกับปราสาทหินพิมาย คือ เป็นศิลปะร่วมแบบบาปวน นอกจากนี้ ปราสาทหินพนมวันที่ใหญ่โตแต่กลับถูกสันนิษฐานว่ายังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ จากการสังเกตชิ้นส่วนที่ยังคงหลงเหลืออยู่ บางส่วนก็ถูกแกะสลักไว้อย่างดงามแล้ว แต่บางส่วนก็ยังเป็นก้อนหินทรายเล็กใหญ่ปะปนกัน เหมือนยังสร้างค้างคาไว้ ซึ่งจากเรื่องเล่าที่มีต่อๆ กันมานั้น การที่ปราสาทหินพนมวันสร้างไม่เสร็จนั้นมาจากกลอุบายของฝ่ายหญิงที่ต้องการให้ฝ่ายชายดูแลซึ่งกันและกัน ปราสาทหินพนมวันจึงเป็นตัวแทนของความขัดแย้งและความบาดหมาง ที่หยุดสร้างต่อให้สำเร็จเนื่องจากชายและหญิงมีความรักความเข้าใจต่อกันแล้ว

ส่วนโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งที่มีการไปถ่ายทำก็คือ ปราสาทเมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อใช้เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู คำว่าเมืองต่ำไม่ใช่ชื่อดั้งเดิมของปราสาทแห่งนี้ แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองในสมัยก่อนเรียกโบราณสถานแห่งนี้ เนื่องจากปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำกว่าปราสาทหินพนมรุ้ง

เหตุที่สันนิษฐานว่าปราสาทเมืองต่ำน่าจะเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู เนื่องจากพบภาพสลักภายในปราสาทเกี่ยวกับการอวตารของพระนารายณ์ และปราสาทแห่งนี้มีลักษณะเป็นปราสาทน้ำล้อมซึ่งเป็นลักษณะของลัทธิไวษณพนิกาย โดยน้ำที่ล้อมอยู่ก็คือสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านนอกมุมระเบียงคดทั้ง 4 มุม มีแผงผังเป็นรูปตัว L เชื่อกันว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พราหมณ์จะนำมาใช้ทำพิธี

สำหรับฉากป่าเขาที่ปรากฏอยู่ในเรื่องคุณชายธราธร ก็คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ผืนป่าใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้และสัตว์ป่านานาชนิด และยังเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติร่วมกันกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

เนื่องจากพื้นที่ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งเป็นเขตอนุรักษ์ และมีความอ่อนไหวสูง จึงเปิดให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชมใน 3 พื้นที่ ได้แก่ สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หน่วยพิทักษ์ป่าไซเบอร์ และหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่ดี ในรูปแบบโครงการ “ห้องรับแขกห้วยขาแข้ง”

โดยการเข้าเยี่ยมชมนั้นนอกจากจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่สดชื่นของป่าอันอุดมสมบูรณ์แล้ ก็ยังสามารถเข้ามาศึกษาหาความรู้ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่ อนุสรณ์สถานสืบ นาคะเสถียร บ้านพักสืบ นาคะเสถียร ทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาหินแดง จุดชมวิวเขาภักดี เส้นทางศึกษาธรรมชาติห้วยแม่ดี น้ำตกไซเบอร์ เป็นต้น

แต่นอกจากจะไปถ่ายทำกันที่ต่างจังหวัดแล้ว ก็ยังมีฉากสวยๆ ที่ถ่ายทำกันในกรุงเทพมหานครอีกด้วย นั่นก็คือฉากจบของเรื่องที่ถ่ายทำกันด้านข้าง อาคารกระทรวงกลาโหม และ ถ.กัลยาณไมตรี ที่จะเห็นภาพเบื้องหลังเป็นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวังที่งามสง่า

อาคารกระทรวงกลาโหมสีเหลืองนวลงามตา เป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบยุโรป สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้านหน้าเป็นหน้าจั่วทรงโรมัน ตกแต่งด้วยปูนปั้น ที่มุขชั้นสองมีระเบียงกว้าง และเสาแบบโรมัน ด้านหน้าของเสาระเบียงใหญ่ประดับด้วยสัญลักษณ์ของสามเหล่าทัพ คือ กงจักร สมอ และปีกอยู่บนพื้นรูปสี่เหลี่ยมสีทอง

นอกจากตัวอาคารที่มีความเป็นมาและความสำคัญที่ยาวนาน มีความสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมโบราณแล้ว ที่ด้านหน้าของอาคารก็ยังประดับประดาโดดเด่นด้วยปืนใหญ่โบราณนับสิบกระบอกที่ตั้งไว้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง

ทิวทัศน์และบรรยากาศรอบๆ อาคารกระทรวงกลาโหมนั้น ถือว่าได้อารมณ์ย้อนยุคไปได้อีกหลายสิบปี ทั้งความงามจากตึกและอาคารเก่าๆ ที่เป็นอาคารอนุรักษ์ ถนนหนทาง และวัดวาอารามต่างๆ นับว่าเป็นอีกมุมหนึ่งของกรุงเทพมหานครที่มีความงดงามจับใจ

เหินฟ้าสู่สวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝัน กับ “คุณชายปวรรุจ”
เรื่องที่สองของละครซีรีส์ชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ก็คือ “คุณชายปวรรุจ” คุณชายนักการทูต ที่มีราชการต้องไปประชุม ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และพบรักกับนางเอกของเรื่อง ดังนั้นละครเรื่องนี้จึงได้เดินทางไปถ่ายทำกันที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนในฝันของหลายๆ คน

โดยสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในละครเริ่มตั้งแต่ กรุงเบิร์น (Bern) เมืองหลวงของสมาพันธรัฐสวิส และยังได้รับการประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย สำหรับการท่องเที่ยวในกรุงเบิร์นนั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปเยือนย่านเมืองเก่า โดยเฉพาะจุดไฮไลท์บริเวณ หอนาฬิกาโบราณ (Zytglogge) ที่เป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของกรุงเบิร์น

ย้ายมาที่ เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบแสนสวยชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อมาเที่ยวที่เมืองนี้ นิยมใช้เส้นทางลัดเลาะเลียบทะเลสาบเจนีวาไปเรื่อย ๆเพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของขุนเขาและสายน้ำ

และต้องแวะไปที่ ปราสาทชิลยอง (Castle of Chillon/Château de Chillon) ปราสาทหินหลังใหญ่ที่ละม้ายลอยอยู่เหนือผืนน้ำ แต่อันที่จริงฐานของปราสาทนั้นเป็นหินก้อนใหญ่ ปราสาทชิลยองเป็นปราสาทในยุคกลางซึ่งในอดีตใช้เป็นด่านเก็บค่าผ่านทางเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาในแถบนี้

ห้องต่างๆ ภายในปราสาทยังคงบรรยากาศของยุคกลางไว้อย่างเต็มเปี่ยม เข้ากับทิวทัศน์รอบๆ ทะเลสาบเจนีวา แต่ห้องสำคัญที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ห้องใต้ดิน หรือจะเรียกว่า คุกใต้ดิน ที่มีตำนานต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และนักโทษที่เคยถูกคุมขังไว้ที่นี่ก็จะสลักชื่อของตนไว้บนเสาหิน ซึ่งก็มีคนสำคัญและผู้มีชื่อเสียงหลายคนที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ รวมไปถึง ลอร์ด ไบรอน (Lord Byron) กวีชาวอังกฤษ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนักโทษที่นี่มาแต่งบทกวี “นักโทษแห่งชิลยอง” (The Prisoner of Chillon) จนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกของเขาในภายหลัง

ความงดงามของสวิตเซอร์แลนด์นั้นอยู่ที่ขุนเขาและสายน้ำ ซึ่ง เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความงามเช่นนั้น อินเตอร์ลาเคนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และทะเลสาบทูน (Lake Thun) ซึ่งก็เป็นไปตามความหมายของชื่อเมืองที่และว่า เมืองระหว่างทะเลสาบ

อินเตอร์ลาเคน เป็นอีกหนึ่งเมืองในฝันเพราะเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยทุ่งหญ้า ป่าเขา ทะเลสาบ และสวนผลไม้ และยังเป็นเส้นทางขึ้นสู่ยอดเขาที่จะทำให้มองเห็นธารน้ำแข็งซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป คือ ยอดเขาจุงฟราวน์ (Jungfraujoch)

สำหรับการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาจุงฟราวน์ตามรอยละครคุณชายปวรรุจนั่นก็คือ การนั่งรถไฟสายจุงฟราวน์ หรือ The Jungfrau Railway ซึ่งเป็นขบวนรถไฟสายโรแมนติกที่เก่าแก่นับ 100 ปีแล้ว รถไฟขบวนนี้วิ่งไต่ระดับขึ้นสู่ยอดเขาอย่างช้าๆ ให้ได้ชมความงามของทิวทัศน์ทั้งดอกไม้ใบหญ้า บ้านเรือนของชาวสวิสในชนบท หรือหากมาในช่วงฤดูหนาวก็จะเห็นทุ่งหิมะสีขาวโพลน

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขาจุงฟราวน์แล้ว ต้องมาเยือนที่ ถ้ำน้ำแข็งแกะสลัก (Ice Palace) ซึ่งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งที่ยาวที่สุดของเทือกเขาแอลป์ และยังมี ลานหิมะ สถานที่เล่นสกีที่เป็นที่นิยมของนักสกีจากทั่วโลก มาชมทิวทัศน์ตรงจุดชมวิวในมุมสูง แวะซื้อของที่ระลึกและเขียนโปสการ์ดส่งกลับบ้านเพื่อยืนยันการมาถึงหลังคาของยุโรป

สถานที่ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นฉากการถ่ายทำในละครซีรีส์ชุด “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ” ถ้าอยากรู้ว่าในเรื่องของคุณชายคนอื่นๆ ไปถ่ายทำที่ไหนบ้าง โปรดติดตามอ่านตอนต่อไป…

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

 
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com