เข้าสู่หน้าฝน ฟ้าหม่นๆ อากาศเย็นๆ “ผ่านมาแวะกิน” เลยจะชวนคนชอบชิมไปหาของอุ่นๆ กินกันดีกว่า แต่ครั้งนี้ไม่ต้องคิดให้ปวดหัวว่าจะหาอะไรกินดี เพราะมีน้องนักศึกษาหน้าใสเป็นคนนำทางไปชิมของอร่อยกันในย่าน ม.หอการค้าไทย ซึ่งร้านนี้เขาเป็นร้านยอดฮิตในละแวกนี้เลยทีเดียว
ร้านที่ว่านี้ก็คือ “สุกี้นายพัน” ที่ในบริเวณ ม.หอการค้าไทย นี้มีอยู่ถึง 2 สาขา สาขาแรกตั้งอยู่ทางด้านหน้า ม. ส่วนสาขาที่จะมานั่งชิมกันก็คือสาขา 2 ตั้งอยู่ด้านหลัง ม. นั่นเอง
มาถึงร้านแล้วก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง สั่งเมนูสุกี้มาลองชิมกันเลยดีกว่า เริ่มจาก สุกี้น้ำรวม (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่กลิ่นหอมชวนหิว ในชามสุกี้ใส่มาทั้งเกี๊ยวปลา กุ้งสด ตับหมู ลูกชิ้นหมู ปลาหมึก เนื้อไก่ และเนื้อหมู ที่ตัวเนื้อหมูนั้นจะต้องนำมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้มีความนุ่มและได้รสชาติ ส่วนน้ำซุปของที่นี้จะใช้กระดูกหมูมาเคี่ยวจนเปื่อยและปรุงรสเพิ่มเล็กน้อย ผักต่างๆ ก็ใส่ทั้งผักกาดขาว ขึ้นฉ่าน ผักบุ้ง และแครอท รวมทั้งยังใส่วุ้นเส้นและไข่ไก่ลงไปด้วย ก่อนจะนำมาเสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของร้าน
โดยน้ำจิ้มของที่นี่ก็เป็นสูตรเฉพาะที่อร่อยเด็ด เพราะทางร้านทำเองสดๆ ใหม่ๆ วันต่อวัน เป็นน้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้ง มีส่วนผสมของซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำมันงา ปรุงรส และใส่พริก กระเทียม และงาขาวเพิ่มความหอมมัน จิ้มกินคู่กับสุกี้น้ำที่หอมหวานน้ำซุป เข้ากับน้ำจิ้มที่เข้าข้นจัดจ้าน ทั้งเปรี้ยวหวานเค็มเผ็ด อร่อยเด็ดจนต้องขอเติมน้ำจิ้มอีกสักถ้วย
หันมาชิมเมนูสีสันสดสวย รวมแห้งบะหมี่หยกจานเด็ด (50 บาท) ชามนี้ยกมาดูแล้วน่าลิ้มลอง เพราะด้านบนเหมือนสุกี้แห้งที่ไม่ใส่วุ้นเส้น คือมีเครื่องเคราสุกี้ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ ลูกชิ้นหมู ตับหมู ปลาหมึก กุ้งสด เกี๊ยวปลา ปูอัด ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง แครอท และเห็ดเข็มทอง นำลงไปผัดในกระทะจนสุกดี แล้วจึงใส่ไข่ไก่ ตักขึ้นมาราดบนเส้นบะหมี่หยกที่ลวกสุกเตรียมไว้แล้ว โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวเล็กน้อย เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสุกี้ แบบนี้ลองชิมแล้วให้อารมณ์กินสุกี้กับบะหมี่หยกที่เป็นอาหารจานเด็ดในวัยเด็ก ทั้งอิ่มท้อง ทั้งครบคุณค่าสารอาหาร เพิ่มความจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มสุกี้ก็ยิ่งทำให้อร่อยมากขึ้นไปอีก
แต่ใครที่อยากจะกินบะหมี่หยกเปล่าๆ แยกออกมาต่างหาก ก็สามารถสั่ง บะหมี่หยก (ธรรมดา 20 บาท จานเล็ก 10 บาท) มากินก็เข้าคู่กันกับน้ำจิ้มสุกี้ แถมให้อีกกับ เกี๊ยวปลาลวก (25 บาท) และ ลูกชิ้นรักบี้ลวก (25 บาท) ที่ทางร้านเลือกซื้อมาจากร้านเจ้าประจำที่คัดคุณภาพ รับรองความอร่อย ลูกชิ้นเคี้ยวเด้งไม่คาว ส่วนเกี๊ยวปลาก็นุ่ม หอมกลิ่นพริกไทยนิดๆ จิ้มกับน้ำจิ้มสุกี้เช่นกัน
อีกเมนูที่อยากให้ลองชิมคือ ลูกชิ้นหมู-เอ็นหมูปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) ที่ปิ้งมากันร้อนๆ ราดด้วยน้ำจิ้มสูตรโบราณที่ทางร้านเคี่ยวเอง โดยใช้มะขามเปียกเคี่ยวกับน้ำตาล ปรุงรสให้ได้ที่แล้วใส่พริกเพิ่มความเผ็ด ลูกชิ้นหมูเคี้ยวนุ่มเด้ง ลูกชิ้นเอ็นมีความกรุบอยู่ในเนื้อ ส่วนน้ำจิ้มก็เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยดี
ส่วนใครที่มาถึงร้านแล้วนึกไม่ออกว่าจะสั่งสุกี้อะไรดี ขอสาธยายให้ฟังว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจาก สุกี้น้ำหมู-ไก่ (35 บาท พิเศษ 40 บาท) สุกี้แห้งหมู-ไก่ (40 บาท พิเศษ 45 บาท) สุกี้น้ำ-แห้งทะเล (40 บาท พิเศษ 50 บาท) และ สุกี้น้ำ-แห้งรวม (40 บาท พิเศษ 50 บาท)
อ่านมาจนจบก็ได้เวลาหิวพอดี แบบนี้ต้องรีบไปกินสุกี้ร้อนๆ ให้อุ่นท้องเสียหน่อยจะได้หายหนาวลมฝน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน “สุกี้นายพัน” ตั้งอยู่ที่ 246/1 ซ.ประชาสงเคราะห์ 27 (ซอยเพิ่มสิน) ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. การเดินทางหากมาจากถนนวิภาวดี ให้เลี้ยวเข้าซอยวิภาวดี 2 (ซอยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสามแยกแล้วเลี้ยวขวา จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ เป็นร้านห้องแถวอยู่ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 09-0564-5331 ส่วนสาขาแรกตั้งอยู่ด้านหน้า ม.หอการค้าไทย โทร. 08-2203-4976 และอีกสาขาที่หมู่บ้านเมืองเอก รังสิต ตั้งอยู่เยื้องกับตลาดเมืองเอกพลาซ่า ก่อนถึงธนาคารออมสิน
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน "สุกี้นายพัน"
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com