หลายครั้งหลายคราวที่ได้ลิ้มรสน้ำผัก หรือน้ำผลไม้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้ม สับปะรด ผลไม้รวม ผักรวม หรือแม้กระทั่งผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่กำลังเป็นที่นิยม อย่างล่าสุดได้มีโอกาสดื่มน้ำมัลเบอร์รีสด แหม... รสชาติช่างหอมหวานเสียจริง หลังจากที่ได้ดื่มน้ำมัลเบอร์รีหอมหวานเสร็จแล้ว ก็เลยหันมาอ่านฉลากข้างกล่องถึงกับบางอ้อว่า น้ำมัลเบอร์รีจริงๆ ก็คือ น้ำของผลหม่อน นั่นเอง
มาลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า ในบ้านเรานั้นมีแหล่งเพาะปลูกผลหม่อนที่สำคัญ ก็คือ โครงการพระราชดำริ ที่ตั้งอยู่ใน จ.น่าน และเมื่อมีโอกาสมาเยือนถึงถิ่นแล้ว ก็ไม่พลาดที่จะเข้าไปเยี่ยมชม “สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ ภูพยัคฆ์” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ทางกรมประชาสัมพันธ์ สนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้ ศึกษาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ โดยมีสโลแกนว่า “เที่ยวภูพยัคฆ์ กินผักปลอดสาร ชมตำนานผู้กล้า ชิมกาแฟรสเลิศ พิชิตยอดภู”
สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูพยัคฆ์ ตั้งอยู่ที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ในสมัยก่อนภูพยัคฆ์ ชื่อว่า ภูผายักษ์ บนยอดภูมีลักษณะเป็นผาสวยงาม มีสภาพเป็นป่าดิบและเป็นดงเสือ ภูพยัคฆ์อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร เคยเป็นที่ปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขา และเคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างทหารไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
ปัจจุบันภูพยัคฆ์ได้เปลี่ยนจากสมรภูมิรบเป็นสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพรราชดำริ พัฒนาเป็นแหล่งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ให้เป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกด้วย
ภูพยัคฆ์ ถูกก่อตั้งโดยสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2546 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรพื้นที่ป่าไม้ภูพยัคฆ์ และทรงพบว่าป่าไม้นับพันไร่ถูกบุกรุกทำให้ป่าเสื่อมโทรมไปมาก จึงทรงจัดตั้งสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านได้เข้ารับการอบรมการเกษตร เเละใช้พื้นที่ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริภูพยัคฆ์ มีเนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ โดยจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการเกษตรแผนใหม่ และการเกษตรที่ยั่งยืน รวมถึงการทำการเกษตรปลอดสารและครบวงจร ทั้งด้านการผลิต การแปรรูป การสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตและการจำหน่ายผลิตผลทางการเกษตรได้มาก
โดยนายฉัตรชัย บัวแสน ชาวบ้านบ้านน้ำรีพัฒนา เปิดเผยว่า ตนได้รับความช่วยเหลือและเรียนรู้จากโครงการด้วยการมาเป็นลูกจ้าง นอกจากทางโครงการจะให้เงินค่าจ้างแล้วยังให้ความรู้กับตนและชาวบ้านมาแล้ว 6 ปี ตนจึงนำความรู้มาพัฒนาที่ดินของตน ซึ่งตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนกล้าผัก กาแฟ และหม่อน จากทางโครงการ ทำให้ตนสามารถทำเกษตรได้ ทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อีกด้วย
สำหรับจุดเด่นของภูพยัคฆ์ก็คือที่นี่เป็นแหล่งผลิตผม่อนรสเลิศ ผลใหญ่ โดยต้นหม่อนที่ทางสถานีฯ นำมาปลูกก็คือ หม่อนผลสด หรือ มัลเบอร์รี (Fruiting Mulberry Morus spp.Moraceae) ซึ่งเป็นหม่อนคนละชนิดกับหม่อนที่นำไปเลี้ยงไหม ปัจจุบันได้มีการค้นพบว่าผลมัลเบอร์รีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งพบสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มโพลีฟินอล (Polyphenols) แอนโทไซยานิดิน (Anthocyanidin) และกรดโฟลิก (Folic acid) ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่แพ้เบอร์รีชนิดอื่นอีกด้วย
นอกจากนี้ภายในสถานีฯ ยังมีโรงงานแปรรูปหม่อนผลสดเป็นน้ำหม่อนเข้มข้น และน้ำหม่อนพร้อมดื่ม เป็นโรงงานขนาดเล็ก ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา โดยทางโครงการจะรับซื้อผลมัลเบอร์รีสดจากชาวบ้านทั้งหมด ส่วนหนึ่งนำไปบรรจุเป็นผลแช่แข็ง ส่งไปทำไวน์ที่ จ.ลำพูน และส่งไปทำส่วนผสมในน้ำผลไม้ของดอยคำ และอีกส่วนหนึ่งทางสถานีฯ จะนำมาแปรรูปเป็นน้ำมัลเบอร์รี และน้ำสกัดมัลเบอร์รีเข้มข้น ภายใต้แบรนด์ “ภูพยัคฆ์” และนำไปวางขายในร้านกาแฟภูพยัคฆ์ ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมือง จ.น่าน และร้านโกลเด้นเพลส กรุงเทพฯ
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการพระราชดำริ ที่ช่วยให้ชาวเขามีพื้นที่ทำกิน และสามารถสร้างรายได้จากการปลูกผลหม่อน ถ้าหากใครมีโอกาสไปเยือนจังหวัดน่าน ก็อย่าลืมแวะเวียนไปอุดหนุนน้ำมัลเบอร์รีสดกันได้ที่ภูพยัคฆ์
*************************************************************************************************************
สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงภูพยัคฆ์ ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำรี หมู่ 12 ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน โทร.0-5473-0330,0-5473-0331
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com