โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
“วัด” นั้นเป็นสถานที่ที่สามารถช่วยทำให้จิตใจเราสงบได้เสมอ ไม่ว่าจะเข้ามานั่งสมาธิ ทำบุญ หรือฟังเทศน์ฟังธรรม และยังนับว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชน เป็นแหล่งให้ความรู้ เป็นพื้นที่ของทุกๆ คนในชุมชน
นอกเหนือจากนั้น วัด ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งการเข้าไปเที่ยวชมงานศิลป์แขนงต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ภายในวัด หรือวัดบางที่ก็ยังมีตลาด มีพิพิธภัณธ์ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้
อย่างที่ "วัดตลิ่งชัน" ที่อยู่บนถนนบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน ก็มีตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน จำหน่ายทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก ให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างมากมาย แม้แต่ในวัดตลิ่งชันเอง ผู้คนก็นิยมเข้าไปสักการะ “พระพุทธมงคลสิทธิ์นิรมิตรประชานาถ” พระประธานของวัดที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ และฉันเองก็ต้องไม่พลาดด้วยเช่นกัน เพราะไหนๆ ก็มาเข้าวัดทั้งที ต้องเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองเสียหน่อย
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันตั้งใจจะมาดูให้เห็นกับตาก็คือ “บ้านสัตว์ประหลาดสยาม” ที่ก็ตั้งอยู่ภายในวัดตลิ่งชันแห่งนี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นสถานที่ที่รวบรวมสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ และสิ่งหายากจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มารวมรวบไว้ที่นี่ แบบนี้ต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้
ผู้จัดตั้งบ้านสัตว์ประหลาดสยามได้บอกกับฉันว่า ของที่มาในจัดแสดงภายของแปลกนี้ว่า เป็นของที่สะสมเอาไว้ แรกเริ่มเดิมที เป็นคนชอบสัตว์ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก พอเริ่มโตขึ้น มีงานทำ จึงเริ่มสะสมพวกสัตว์รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด หรือว่ามีอวัยวะส่วนอื่น ที่งอกออกมา แล้วยังสามารถใช้การได้ เช่น เต่า มี 2 หัว 6 ขา และขาทั้ง 6 ขา ยังสามารถใช้การได้ จึงนำสัตว์ประเภทนี้นั้นมาเก็บสะสม(โดยสัตว์และของแปลกต่างๆเป็นของสะสมที่ได้มาโดยถูกต้องตามกฏหมาย)
เริ่มกันด้วยของแปลกที่นับได้ว่าเป็นของแปลกตัวเดียวในโลก นั่นก็คือ “ตะพาบ 2 หัว” มีลักษณะเหมือนตะพาบทั่วไป เพียงแต่ตะพาบตัวนี้มีความแปลก ตรงที่มีหัวงอกขึ้นมาเพิ่มอีก 1 หัว จากปกติ นอกจากนี้ยังมี "เต่า 2 หัว" ลักษณะเหมือนกับเต่าทั่วไป แต่มีความพิเศษแตกต่างจากเต่าตัวอื่นๆตรงที่ เต่าตัวนี้มีหัวโผล่ขึ้นมา 2 หัว ทำให้เต่าตัวนี้ดูแปลกตาน่าสนใจทีเดียว
หลังจากนั้นไปต่อกันด้วย ตู้โชว์ใกล้ๆกันคือ “เต่า 2 หัว 6 ขา” ซึ่งนับว่าเป็นสัตว์ที่ประหลาดโดยมีลักษณะลำตัวและกระดองของเต่า 2 ตัวอยู่ติดกัน มีขาหน้างอกออกมาทั้งสองตัว แต่ขาด้านหลังมีเพียง 2 ขาเท่านั้น จึงทำให้มีลักษณะที่ต่างออกไป โดยปรกติถ้าเต่า 2 ตัวจะต้องมีขาทังหมด 8 ขา แต่ที่แปลกคือ มี 6 ขา รวมทั้งลำตัวก็ติดกันด้วย
และใกล้ๆกันนี้เอง ก็มี "ปลากัดลายธงชาติ" ที่สีของลำตัวและส่วนของครีบปลานั้นคล้ายคลึงกับสีของธงชาติไทย ซึ่งมีสี แดง น้ำเงิน และขาว อยู่ในตัวเดียวกัน จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หาดูได้ยาก ถัดมาไปดูปลาที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือ "ปลาตัวติดกัน" โดยปลาที่ว่านี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกับตัวอื่นตรงที่ ลำตัวของปลาทั้ง 2 ตัวอยู่ติดกัน ทำให้เวลาเคลื่อนตัวไปไหน ก็ต้องไปด้วยกันเป็นคู่ จึงทำให้เป็นสิ่งแปลกอีกอย่างหนึ่งทางด้านพันธุกรรมของปลา นอกจากจะมีปลาที่ตัวติดกันแล้ว ที่นี่ยังมี "ปลาตาบอด" อีกด้วย ลักษณะของปลาตัวนี้คือไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง เหมือนกับปลาตัวอื่นๆ แต่ปลาตาบอดตัวนี้ก็ยังสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติเหมือนกับปลาทั่วไป
ตามไปดู "กบมีเขา" กันต่อ กบที่ว่านี้ก็ไม่ได้มีขางอกมาเพิ่มหรืออย่างใด เพียงแต่กบที่ว่านี้ มีรูปร่าง และลักษณะที่ต่างไปจากกบทั่วไป ตรงที่ลำตัวแบนและมีส่วนที่มองแล้วคล้ายกับเขา งอกขึ้นมาอยู่บนหัว จึงแตกต่างจากกบทั่วไป ต่อจากนั้นไปดูไก่ ไก่ที่พิพิธภัณฑ์นี้มีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกคือ มีหงอนไก่งอนขึ้นมากกว่าไก่ปกติ และประเภทที่สองคือ ขนของไก่นั้น ขึ้นย้อนศร ทำให้ไก่มีลักษณะขนที่พองและฟู จึงแตกต่างจากไก่ทั่วไปที่เราพบเจอกันอยู่บ่อยๆ
นอกจากนั้นแล้วที่ชั้นสองของบ้านสัตว์ประหลาดสยามยังได้รวบรวมของเก่า ของสะสม ของเจ้าของพิพิธภัณฑ์มาตั้งโชว์ ไว้ให้เห็นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชามโบราณต่างๆ ที่ได้มาจากแม่น้ำ หรือ ฟอสซิลปู ฟอสซิลหอย ที่แข็งแล้ว มีอายุนับหลายพันปี และยังคงสภาพที่ดีสามารถมองเห็นเป็นรูปร่างของกระดองปูและเปลือกหอยอย่างชัดเจน และที่แปลกไปกว่านั้น ที่พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีซากของอุกกาบาต มีลักษณะเป็นก้อน คล้ายๆก้อนหินแข็งๆ มีหลุมและรอยขรุขระรอบๆตัว นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์ของแปลก ยังมีของแปลกประหลาดอีกมากมาย ที่รอให้เราไปชม อย่างเช่น ปลาหน้าคน กบตัวใหญ่ ตุ๊กแกมีขนตา และสัตว์แปลกๆอีกมากมาย
และนี่ก็เป็นเพียงแค่สัตว์และสิ่งของบางส่วน ที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงให้ชม หากใครที่อยากจะมาเห็นสัตว์รูปร่างแปลกๆ หรือของแปลก ของโบราณต่างๆ ก็สามารถมาดูได้ที่บ้านสัตว์ประหลาดสยามแห่งนี้ ซึ่งสัตว์หลายตัวนอกจากจะมีลักษณะประหลาดแล้ว ยังสร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นว่า โลกนี้มีอย่างนี้ด้วยหรือ
************************************************************************
บ้านสัตว์ประหลาดสยาม ตั้งอยู่ที่วัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ เปิดให้เข้าชมวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-16.00 น. ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม (อัตราคนไทย) ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท, นักท่องเที่ยวต่างชาติ ค่าใช้จ่ายคนละ 250 บาท
การเดินทางจากสะพานพระปิ่นเกล้า มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี ตรงมาเรื่อยๆ แล้วข้ามสะพานข้ามคลองบางกอกน้อย (สถานีขนส่งสายใต้เก่า) พอข้ามสะพานแล้วให้ชิดซ้ายออกทางคู่ขนานทันที เมื่อเข้าทางคู่ขนานตรงมาเล็กน้อยจะมีซอยแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย (ถนนชัยพฤกษ์) จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ จะเจอแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนชักพระ จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นวัดตลิ่งชันอยู่ทางซ้ายมือ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“วัด” นั้นเป็นสถานที่ที่สามารถช่วยทำให้จิตใจเราสงบได้เสมอ ไม่ว่าจะเข้ามานั่งสมาธิ ทำบุญ หรือฟังเทศน์ฟังธรรม และยังนับว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชน เป็นแหล่งให้ความรู้ เป็นพื้นที่ของทุกๆ คนในชุมชน
นอกเหนือจากนั้น วัด ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งการเข้าไปเที่ยวชมงานศิลป์แขนงต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ภายในวัด หรือวัดบางที่ก็ยังมีตลาด มีพิพิธภัณธ์ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้
อย่างที่ "วัดตลิ่งชัน" ที่อยู่บนถนนบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน ก็มีตลาดน้ำวัดตลิ่งชัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน จำหน่ายทั้งของกิน ของใช้ ของฝาก ให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างมากมาย แม้แต่ในวัดตลิ่งชันเอง ผู้คนก็นิยมเข้าไปสักการะ “พระพุทธมงคลสิทธิ์นิรมิตรประชานาถ” พระประธานของวัดที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ และฉันเองก็ต้องไม่พลาดด้วยเช่นกัน เพราะไหนๆ ก็มาเข้าวัดทั้งที ต้องเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองเสียหน่อย
แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันตั้งใจจะมาดูให้เห็นกับตาก็คือ “บ้านสัตว์ประหลาดสยาม” ที่ก็ตั้งอยู่ภายในวัดตลิ่งชันแห่งนี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นสถานที่ที่รวบรวมสิ่งแปลกประหลาดมหัศจรรย์ และสิ่งหายากจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มารวมรวบไว้ที่นี่ แบบนี้ต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้
ผู้จัดตั้งบ้านสัตว์ประหลาดสยามได้บอกกับฉันว่า ของที่มาในจัดแสดงภายของแปลกนี้ว่า เป็นของที่สะสมเอาไว้ แรกเริ่มเดิมที เป็นคนชอบสัตว์ที่มีรูปร่างแปลกประหลาดมาตั้งแต่เด็ก พอเริ่มโตขึ้น มีงานทำ จึงเริ่มสะสมพวกสัตว์รูปร่างหน้าตาแปลกประหลาด หรือว่ามีอวัยวะส่วนอื่น ที่งอกออกมา แล้วยังสามารถใช้การได้ เช่น เต่า มี 2 หัว 6 ขา และขาทั้ง 6 ขา ยังสามารถใช้การได้ จึงนำสัตว์ประเภทนี้นั้นมาเก็บสะสม(โดยสัตว์และของแปลกต่างๆเป็นของสะสมที่ได้มาโดยถูกต้องตามกฏหมาย)
เริ่มกันด้วยของแปลกที่นับได้ว่าเป็นของแปลกตัวเดียวในโลก นั่นก็คือ “ตะพาบ 2 หัว” มีลักษณะเหมือนตะพาบทั่วไป เพียงแต่ตะพาบตัวนี้มีความแปลก ตรงที่มีหัวงอกขึ้นมาเพิ่มอีก 1 หัว จากปกติ นอกจากนี้ยังมี "เต่า 2 หัว" ลักษณะเหมือนกับเต่าทั่วไป แต่มีความพิเศษแตกต่างจากเต่าตัวอื่นๆตรงที่ เต่าตัวนี้มีหัวโผล่ขึ้นมา 2 หัว ทำให้เต่าตัวนี้ดูแปลกตาน่าสนใจทีเดียว
หลังจากนั้นไปต่อกันด้วย ตู้โชว์ใกล้ๆกันคือ “เต่า 2 หัว 6 ขา” ซึ่งนับว่าเป็นสัตว์ที่ประหลาดโดยมีลักษณะลำตัวและกระดองของเต่า 2 ตัวอยู่ติดกัน มีขาหน้างอกออกมาทั้งสองตัว แต่ขาด้านหลังมีเพียง 2 ขาเท่านั้น จึงทำให้มีลักษณะที่ต่างออกไป โดยปรกติถ้าเต่า 2 ตัวจะต้องมีขาทังหมด 8 ขา แต่ที่แปลกคือ มี 6 ขา รวมทั้งลำตัวก็ติดกันด้วย
และใกล้ๆกันนี้เอง ก็มี "ปลากัดลายธงชาติ" ที่สีของลำตัวและส่วนของครีบปลานั้นคล้ายคลึงกับสีของธงชาติไทย ซึ่งมีสี แดง น้ำเงิน และขาว อยู่ในตัวเดียวกัน จึงนับได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หาดูได้ยาก ถัดมาไปดูปลาที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยคือ "ปลาตัวติดกัน" โดยปลาที่ว่านี้จะมีลักษณะที่แตกต่างกับตัวอื่นตรงที่ ลำตัวของปลาทั้ง 2 ตัวอยู่ติดกัน ทำให้เวลาเคลื่อนตัวไปไหน ก็ต้องไปด้วยกันเป็นคู่ จึงทำให้เป็นสิ่งแปลกอีกอย่างหนึ่งทางด้านพันธุกรรมของปลา นอกจากจะมีปลาที่ตัวติดกันแล้ว ที่นี่ยังมี "ปลาตาบอด" อีกด้วย ลักษณะของปลาตัวนี้คือไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง เหมือนกับปลาตัวอื่นๆ แต่ปลาตาบอดตัวนี้ก็ยังสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติเหมือนกับปลาทั่วไป
ตามไปดู "กบมีเขา" กันต่อ กบที่ว่านี้ก็ไม่ได้มีขางอกมาเพิ่มหรืออย่างใด เพียงแต่กบที่ว่านี้ มีรูปร่าง และลักษณะที่ต่างไปจากกบทั่วไป ตรงที่ลำตัวแบนและมีส่วนที่มองแล้วคล้ายกับเขา งอกขึ้นมาอยู่บนหัว จึงแตกต่างจากกบทั่วไป ต่อจากนั้นไปดูไก่ ไก่ที่พิพิธภัณฑ์นี้มีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกคือ มีหงอนไก่งอนขึ้นมากกว่าไก่ปกติ และประเภทที่สองคือ ขนของไก่นั้น ขึ้นย้อนศร ทำให้ไก่มีลักษณะขนที่พองและฟู จึงแตกต่างจากไก่ทั่วไปที่เราพบเจอกันอยู่บ่อยๆ
นอกจากนั้นแล้วที่ชั้นสองของบ้านสัตว์ประหลาดสยามยังได้รวบรวมของเก่า ของสะสม ของเจ้าของพิพิธภัณฑ์มาตั้งโชว์ ไว้ให้เห็นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชามโบราณต่างๆ ที่ได้มาจากแม่น้ำ หรือ ฟอสซิลปู ฟอสซิลหอย ที่แข็งแล้ว มีอายุนับหลายพันปี และยังคงสภาพที่ดีสามารถมองเห็นเป็นรูปร่างของกระดองปูและเปลือกหอยอย่างชัดเจน และที่แปลกไปกว่านั้น ที่พิพิธภัณฑ์นี้ยังมีซากของอุกกาบาต มีลักษณะเป็นก้อน คล้ายๆก้อนหินแข็งๆ มีหลุมและรอยขรุขระรอบๆตัว นอกจากนี้ที่พิพิธภัณฑ์ของแปลก ยังมีของแปลกประหลาดอีกมากมาย ที่รอให้เราไปชม อย่างเช่น ปลาหน้าคน กบตัวใหญ่ ตุ๊กแกมีขนตา และสัตว์แปลกๆอีกมากมาย
และนี่ก็เป็นเพียงแค่สัตว์และสิ่งของบางส่วน ที่ทางพิพิธภัณฑ์นำมาจัดแสดงให้ชม หากใครที่อยากจะมาเห็นสัตว์รูปร่างแปลกๆ หรือของแปลก ของโบราณต่างๆ ก็สามารถมาดูได้ที่บ้านสัตว์ประหลาดสยามแห่งนี้ ซึ่งสัตว์หลายตัวนอกจากจะมีลักษณะประหลาดแล้ว ยังสร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นว่า โลกนี้มีอย่างนี้ด้วยหรือ
************************************************************************
บ้านสัตว์ประหลาดสยาม ตั้งอยู่ที่วัดตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กทม. เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ เปิดให้เข้าชมวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.30-16.00 น. ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม (อัตราคนไทย) ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท, นักท่องเที่ยวต่างชาติ ค่าใช้จ่ายคนละ 250 บาท
การเดินทางจากสะพานพระปิ่นเกล้า มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี ตรงมาเรื่อยๆ แล้วข้ามสะพานข้ามคลองบางกอกน้อย (สถานีขนส่งสายใต้เก่า) พอข้ามสะพานแล้วให้ชิดซ้ายออกทางคู่ขนานทันที เมื่อเข้าทางคู่ขนานตรงมาเล็กน้อยจะมีซอยแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย (ถนนชัยพฤกษ์) จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ จะเจอแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนชักพระ จากนั้นขับตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นวัดตลิ่งชันอยู่ทางซ้ายมือ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com