หากดูจากแผนที่แล้ว “ชุมพร” จะเป็นจังหวัดแรกของการเดินทางสู่ภาคใต้ ดินแดนแห่งท้องทะเล ซึ่งหากมุ่งหน้าลงใต้ก็อย่าได้ผ่านเลย “ชุมพร” จังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอวลเสน่ห์จับใจไม่น้อยหน้าจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้เลย
ด้วยเหตุนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงเลือกชุมพรเป็นจุดหมายปลายทาง ยิ่งเดี๋ยวนี้มีสายการบินนกแอร์เปิดบินตรง-กรุงเทพฯ(ดอนเมือง)-ชุมพร ยิ่งทำให้การเดินทางสู่เมืองประตูแดนใต้สะดวกมากขึ้น
ชุมพร แม้จะเป็นเมืองชายทะเล แต่จุดหมายแรกในทริปนี้ เราเริ่มต้นด้วยการมากราบสักการะพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อให้เป็นสิริมงคลกับตัวเองที่ “อนุสรณ์สถานกรมหลวงชุมพรฯ” ที่ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายรี ซึ่งบริเวณโดยรอบประกอบด้วยศาลกรมหลวงชุมพรฯ หลังเก่า และศาลหลังใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา เป็นที่สักการะของประชาชนและผู้แวะเวียนผ่าน
และที่ข้างๆ ศาลหลังเก่าก็ยังมี “เรือรบหลวงชุมพร” เรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ซึ่งได้ปลดประจำการแล้วมาตั้งเพื่อให้ได้ชมกัน นอกจากจะเดินดูรอบๆ แล้ว ก็เดินขึ้นบันไดไปชมบนเรือด้วย เห็นเป็นเรือที่ทำด้วยเหล็กแบบนี้ ก็น่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่าลอยน้ำอยู่ได้อย่างไร ทั้งๆ ที่น้ำหนักก็มากโขอยู่
มาถึงหาดทรายรี เห็นทะเลอยู่ใกล้ๆ ตรงหน้าก็เลยขอลงไปแหวกว่ายให้สุขใจ ซึ่งท้องทะเลชุมพรนั้นก็มีเกาะแก่งที่สวยงามมากมาย อยู่ในความดูแลของ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร” อย่างเช่นที่ “เกาะง่ามเล็ก” และ “เกาะง่ามใหญ่” ที่นั่งสปีดโบ๊ตสักพักก็มาถึงได้ แต่ต้องบอกก่อนว่าเกาะส่วนมากที่อยู่แถบนี้จะมีสัมปทานรังนก และไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนเกาะ
ก่อนจะลงไปในน้ำ ก็นั่งเรือลัดเลาะดูรอบๆ เกาะกันก่อน จะได้เห็นกระท่อมไม้หลังเล็กหลังน้อยเรียงรายอยู่รอบๆ ทั้งเกาะง่ามเล็กและง่ามใหญ่ ซึ่งนั่นก็คือที่พักของคนเฝ้าเกาะนั่นเอง และที่ด้านหนึ่งของเกาะง่ามใหญ่ ก็มีผาหินที่มองดูแล้วช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก เพราะมีรูปร่างคล้ายกับฝ่ามือคน จนได้ฉายามาว่า “ฝ่ามือพระพุทธเจ้า” ที่ตั้งอยู่กลางอ่าวไทย
ชมเกาะจนรอบแล้ว ใต้น้ำก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ว่าแล้วก็สวมชูชีพ ใส่สน๊อกเกิล แล้วกระโดดลงน้ำไปดำผุดดำว่ายในน้ำทะเลใสๆ ก้มหน้าลงไปด้านล่างจะเห็นปลาทะเลหลากหลายสายพันธุ์ ปะการัง และดอกไม้ทะเลหลากสีสัน เป็นภาพที่บนบกไม่สามารถมีได้ เพราะเป็นความสวยงามเฉพาะตัวจริงๆ
ไม่ว่าจะเกาะง่ามใหญ่หรือเกาะง่ามเล็กที่อยู่ใกล้ๆ กัน ก็สวยงามทั้งบนเกาะและใต้น้ำ แต่อีกไฮไลท์ก็คือ “เกาะมัตรา” นอกจากจะลงไปดำน้ำดูปะการังแล้ว ใต้ท้องทะเลก็ยังมีหอยมือเสือ ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ให้ได้เห็น หอยมือเสือถือเป็นหอยที่หาดูได้ยาก และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ต่อไป เพื่อให้หอยมือเสือยังคงอยู่คู่กับท้องทะเลไทยไปอีกนานๆ
ความสวยงามใต้ท้องทะเลอ่าวไทย ก็มีสีสันจับใจไม่น้อยไปกว่าฝั่งทะเลอันดามันเลยทีเดียว ฉะนั้น หากมาเที่ยวครั้งหน้า แวะมาดำน้ำที่ชุมพรก็รับรองว่าต้องถูกใจไม่แพ้ฝั่งอันดามันแน่นอน
ถ้าดำน้ำมาเหนื่อยแล้ว ก็มาหยุดพักผ่อนกันที่ “หาดทุ่งวัวแล่น” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของหาดทรายขาวเนียนละเอียด ที่ถือเป็นหาดไฮไลท์ประจำจังหวัด
สำหรับชื่อหาดทุ่งวัวแล่นนั้นก็มีที่มาจากการเล่าขานของคนในพื้นที่ว่า มีอ่าวแห่งหนึ่งในป่ารกมีสัตว์นานาชนิดมากมาย ยากต่อการไล่ล่า วันหนึ่งเหล่านายพรานตัดสินใจรวมตัวกันบุกป่าผืนนี้ กระทั่งพบวัวหนึ่งตัววิ่งผ่านมา จึงช่วยกันยิงด้วยปืน วัวเคราะห์ร้ายตัวนั้นได้ลงไปนอนแดดิ้น ร้องโอดครวญก่อนหมดลมหายใจ จากนั้นเหล่านายพรานก็นำวัวไปแล่เนื้อเพื่อเตรียมย่างกิน พร้อมคุยโม้โอ้อวดฝีมือแต่ไม่ทันขาดคำ เจ้าวัวที่โดนถลกหนังไปครึ่งหนึ่ง ลุกขึ้นมาอย่างหืดหอบและวิ่งหนีเข้าป่าไป มนุษย์ที่รายล้อมถึงกับตกตะลึงและหวาดผวาจึงเป็นที่มาของ “หาดทุ่งวัวแล่น” ฟังดูแล้วช่างน่าตื่นเต้นดีจริงๆ ที่ชายหาดนี้จึงได้มีรูปปั้นของวัวตั้งอยู่ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงตำนานเรื่องเล่าของชายหาดแห่งนี้
แต่ถ้าพักที่หาดทุ่งวัวแล่นแล้วยังไม่หายเหนื่อย ก็ต้องมาที่ “โฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่” อีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของชุมพร เอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือการมาใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน ไปพักกับเจ้าของบ้านในพื้นที่ ได้สัมผัสกับบรรยากาศสงบเงียบของป่าชายเลน ใต้ถุนบ้านก็เป็นน้ำที่มีปลาแหวกว่าย และหากใครโชคดีก็จะเจอม้าน้ำที่บริเวณใต้ถุนบ้าน
และใครที่พายเรือเป็น ก็ต้องไม่พลาดที่จะออกไปพายเรือชมรอบๆ อ่าว แล้วค่อยกลับมากินมื้อเย็นแบบจัดเต็มทั้งกุ้งหอยปูปลาฝีมือแม่ครัวท้องถิ่น จากนั้นก็นอนอุ่นๆ ในบ้านพัก เรื่องค่าบริการก็คิดเป็นแพ็คเกจ มีทั้งแบบ 3 วัน 2 คืน และ 2 วัน 1 คืน รวมกับกิจกรรมออกเรือตกหมึกและดำน้ำดูปะการังบริเวณเกาะใกล้ๆอ่าวด้วย
หลังจากตื่นขึ้นมาแบบสดชื่น ก็เตรียมตัวออกเดินทางต่อด้วยความสดใส ไปกันที่ “พระธาตุสวี” หนึ่งในโบราณสถานสำคัญของชุมพร มีตำนานการสร้างว่า เมื่อครั้งเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเสร็จยกทัพมา ได้พบกับช้างเผือกและฝูงกาเกาะกระพือปีกอยู่บนกองอิฐซึ่งเป็นฐานเจดีย์ใหญ่ จึงได้ให้มีการขุดลงไปและได้พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุจึงได้ รวมไพร่พลร่วมกันสร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่ และได้พระราชทานชื่อว่า พระธาตุกาวิปีก (วิปีกแปลว่ากระพือปีก) ต่อมาจึงเรียกว่าพระธาตุกาวี และได้เพี้ยนมาเป็น พระธาตุสวี ในปัจจุบัน
พระธาตุสวี ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุสวี รูปแบบของพระธาตุสวีจะเลียนแบบมาจากพระบรมธาตุเจดีย์ที่นครศรีธรรมราช และนับเป็นโบราณสถานที่ได้รับการนับถือจากชาวชุมพรและพุทธศาสนิกชนทั่วไปด้วย
“ตะลอนเที่ยว” ได้มาเที่ยวที่ชุมพรครั้งนี้ ก็รู้สึกประทับใจกับสถานที่ที่ได้ไปเที่ยว ทั้งแหงนหน้ามองท้องฟ้าเห็นเหยี่ยวอพยพ หรือจะมองตรงๆ ชมวิวสุดลูกหูลูกตา และก้มหน้าดำน้ำดูความงดงามของท้องทะเลชุมพร ต้องบอกว่าชุมพรมีของดี ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
*********************************************************
ล่าสุดสายการบินนกแอร์ ได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - ชุมพร ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สอบถามดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nokair.com หรือสอบถามที่ โทร. 1318 ส่วนผู้สนใจพักค้างโฮมสเตย์บ้านท้องตมใหญ่ให้ดูที่ www.tongtomyai.com และสามารถสอบถามข้อมูลท่องเที่ยว การเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร.0-7750-1831-2, 0-7750-2775-6
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!