xs
xsm
sm
md
lg

ไหว้พระธาตุปีมะเส็ง ณ “วัดเจ็ดยอด” วัดเก่าแก่แห่งล้านนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พระเจดีย์เจ็ดยอด
ตามความเชื่อของคนไทย โดยเฉพาะชาวล้านนา มีความเชื่อกันว่า หากได้นมัสการพระธาตุประจำปีเกิดของตนเอง จะทำให้เกิดสิริมงคลกับชีวิต มีอานิสงส์สูงและทำให้มีอายุยืนนาน และแม้ว่าจะเป็นเพียงความเชื่อดั้งเดิมที่บันทึกอยู่ในตำราพื้นเมืองโบราณ ไม่ได้ปรากฏในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติกันสืบมา

สำหรับในปี 2556 นี้ หากนับปีนักษัตรแล้ว ก็คือ “ปีมะเส็ง” หรือ “ปีงูเล็ก” ซึ่งตามความเชื่อของชาวล้านนา พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเส็งก็คือ “โพธิบัลลังก์ วิหารมหาโพธิเจดีย์” รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากสถานที่ประดิษฐานโพธิบัลลังก์อยู่ไกล จึงอนุโลมให้เป็นพระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ซึ่งก็คือ “พระเจดีย์เจ็ดยอด” หรือ “มหาเจดีย์พุทธคยา”วัดโพธารามมหาวิหาร หรือวัดเจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ต้นศรีมหาโพธิ์
ตามประวัติความเป็นมา ผู้สร้างวัดเจ็ดยอดคือ พระเจ้าติโลกราช แห่งราชวงศ์มังราย โดยตั้งชื่อวัดว่า “วัดมหาโพธาราม” หรือ “วัดโพธารามมหาวิหาร” ซึ่งมาจากที่มีพระเถระชาวลังกานำต้นศรีมหาโพธิ์มาจากประเทศศรีลังกา มาปลูกในบริเวณนี้ และถือว่าต้นศรีมหาโพธิ์เป็นโพธิบัลลังก์ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธองค์

และยังโปรดให้สีหโคตรเสนาบดี เดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อจำลองออกแบบรูปแบบเจดีย์และสัตตมหาสถานเจดีย์ มาสร้าง ณ วัดแห่งนี้ โดยมีโพธิบัลลังก์ (ต้นศรีมหาโพธิ์) เป็นศูนย์กลาง โดยพระเจดีย์มีสถาปัตยกรรมที่แปลกตาไปจากพระเจดีย์อื่นๆ มีฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบด้วยปูนปั้นเทพพนมและลวดลายดอกไม้ที่มีความวิจิตรพิสดาร และเนื่องจากพระเจดีย์เจ็ดยอดเป็นพระธาตุประจำปีคนเกิดปีมะเส็ง ที่ด้านฐานองค์พระเจดีย์จึงมากไปด้วยรูปปั้นงูเล็ก(ส่วนมากเป็นงูเห่า)ที่มีผู้นำมาถวายแก้บน
รูปปั้นงูที่มีคนนำมาถวายแก้บน
พระเจดีย์นี้เป็นส่วนบนของหลังคาพระวิหารโบราณที่ปรากฏอยู่แต่ดั้งเดิม ซึ่งภายในพระวิหารมีพระประธานหลวงพ่อใหญ่ประดิษฐานอยู่ ทางทิศตะวันตกของพระวิหารมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประดิษฐ์ในซุ้มอีกองค์หนึ่ง หลังคาเป็นยอดเจดีย์ 7 ยอด ในพระวิหารมีทางขึ้นลงเพื่อขึ้นไปสักการะพระเจดีย์ พระเจดีย์องค์ใหญ่มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน ส่วนเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุมมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์ และทางทิศตะวันออกของเจดีย์สี่เหลี่ยม ยังมีเจดีย์ทรงระฆังอีก 2 องค์ รวมเจดีย์ที่อยู่ด้านบนพระวิหารมีทั้งหมด 7 องค์ หรือมองเห็นเป็นเจดีย์เจ็ดยอดนั่นเอง และจึงกลายเป็นชื่อวัดที่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกกันว่า “วัดเจ็ดยอด”

นอกจากความสำคัญในเรื่องคติความเชื่อพระธาตุปีเกิดประจำปีมะเส็งแล้ว “วัดเจ็ดยอด” ก็ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นโบราณสถานของเชียงใหม่ และยังเป็นสถานที่ประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก เมื่อประมาณ 500 กว่าปีก่อน
ปูนปั้นลวดลายวิจิตรรอบองค์พระเจดีย์
โดยพระเจ้าติโลกราช โปรดให้มีการทำการสังคายนา ชำระพระไตรปิฎก และอาราธนาพระเถระผู้แตกฉานในพระไตรปิฎกจากทั่วดินแดนล้านนามาร่วมประชุมทำสังคายนาในครั้งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นการประชุมสังคายนาที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งที่ 8 ของโลก (ส่วนใหญ่แล้ว การประชุมสังคายนาพระไตรปิฎกจะจัดขึ้นในประเทศอินเดียและศรีลังกา) และใช้ตัวอักษรล้านนาจารึกเป็นภาษาพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งแรก

เนื่องจากเป็นโบราณสถานที่เก่าแก่ จึงทำให้วัดเจ็ดยอดเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และปรากฏพุทธศิลป์สมัยล้านนาอยู่ทุกมุมวัด อาทิ สถูปอนุสาวรีย์พระเจ้าติโลกราช เจดีย์กู่แก้ว ซุ้มประตูโขง เป็นต้น

ใครที่เกิดในปีมะเส็ง หรือพุทธศาสนิกชนทั่วไป หากมีโอกาสได้เดินทางไปสักการะพระเจดีย์เจ็ดยอด ณ วัดเจ็ดยอด ก็นับว่าเป็นกุศลแก่ตัวเองไม่น้อย
 
 
 
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น