xs
xsm
sm
md
lg

“น้ำตกกรุงชิง-ทะเลหมอก-ถ้ำหงส์” นครศรีดี๊ดี ที่น่าผจญภัย/ปิ่น บุตรี

เผยแพร่:   โดย: ปิ่น บุตรี

โดย : ปิ่น บุตรี
ทะเลหมอกกรุงชิงบนยอดเขาเหล็ก
ปีนี้จังหวัดนครศรีธรรมราชร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานนครศรีธรรมราช ได้ชูสโลแกนท่องเที่ยวภายใต้ชื่อกิ๊บเก๋ว่า “นครศรีดี๊ดี ที่เดียวเที่ยวครบเครื่อง เมืองเดียวเที่ยวทั้งปี”

สำหรับหนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงในนครก็คือการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เพราะแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติหลายแห่งในนครยังคงความพิสุทธิ์การจะเข้าไปสัมผัสในความงาม ต้องออกแรงลุยกันสักหน่อย แต่เมื่อได้ไปถึงยังจุดหมายแล้ว ความเหน็ดเหนื่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง

นั่นจึงทำให้การล่องใต้ไปเมืองคอนของผมเที่ยวนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่ "อ.นบพิตำ" เพราะที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงผจญภัยกันแบบจัดเต็ม ให้ขาเที่ยวผู้ที่มีหัวใจลุยๆได้สนุกเร้าใจกันแบบไม่มีกั๊ก

ทะเลหมอกกรุงชิง

พูดถึงทะเลดังเมืองนครศรีก็ต้องที่ทะเลขนอม ส่วนถ้าทะเลหมอกดังแห่งนครศรีก็ต้องที่นี่ “ทะเลหมอกกรุงชิง” ที่มีจุดชมวิวทะเลหมอกอยู่บนยอดเขาเหล็ก
จุดชมวิวยอดเขาเหล็กวันไร้ซึ่งทะเลหมอก
เขาเหล็กเคยเป็นเหมืองแร่เหล็กมาก่อน ก่อนจะปิดตัวลงไปในราวปี พ.ศ. 2512 จากนั้นชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยได้ร่วมกันก่อตั้ง “ชุมชนกลุ่มทะเลหมอกกรุงชิงขึ้นใน ปี พ.ศ. 2548” เพื่อดูแลด้านธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีได้รับรางวัลมาหลายรางวัล

สำหรับยอดเขาเหล็กจุดชมทะเลหมอกนั้น ตั้งอยู่ในเขตบ้านนบ หมู่บ้านในหุบเขาที่มีอุทยานแห่งชาติเขาหลวงและอุทยานแห่งชาติเขานันโอบล้อม ชาวบ้านที่นี่เรียกขานบริเวณนี้ว่า “อ่าวกรุงชิง”

จากที่พักผมไปเฝ้าลุ้นรอชมทะเลหมอกตั้งแต่เช้ามืดชนิดไก่ยังไม่ทันโห่ โดยช่วงสุดท้ายของทางขึ้นยอดเขาต้องเดินเท้าขึ้นไปประมาณ 300 เมตร แต่ก็บ่ยั่น เพราะการจะชมของดีก็ต้องลุยต้องออกแรงกันกันหน่อย
ดอกยี่โถปีนังบนยอดเขาเหล็ก
ขณะที่การมาเฝ้ารอชมทะเลหมอกบนนี้ก็ต้องลุ้นกันหน่อย เพราะเราไม่สามารถคาดเดาธรรมชาติได้ วันไหนฝนฟ้าเป็นใจก็จะจัดส่งทะเลหมอกขาวโพลนมาลอยฟูฟ่อง ท่ามกลางหุบเขา แมกไม้ชนิดที่ดูแล้วงดงามปานภาพฝันในจินตนิยาย ส่วนถ้าวันไหนฝนฟ้าไม่เป็นใจก็จะได้ภาพของทิวทัศน์มุมกว้างบนยอดเขาเหล็กเป็นสิ่งย้อมใจกลับไปแทน

นอกจากทิวทัศน์ ท้องทะเลหมอกแล้ว บนยอดเขาเหล็กยังมีพันธุ์ไม้ประจำถิ่นที่น่าสนใจให้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็นโชน(เฟินดินชนิดหนึ่ง) ต้นมังเร เฟิน 300 ยอด และ “ดอกยี่โถปีนัง” กล้วยไม้ดิน ขึ้นเป็นนางเอกประดับยอดเขาเหล็กแห่งนี้
มุด ลอด คลาน กับการผจญภัยในถ้ำหงส์
ลุยถ้ำหงส์

จากยอดเขาสูงเราเปลี่ยนมาลงต่ำเพื่อไปมุดถ้ำกันบ้างที่ “ถ้ำหงส์” ที่แม้จะเป็นถ้ำที่มีความลึกไม่มากและประมาณ 300 เมตร แต่ภายในถ้ำมีลักษณะพิเศษในระดับอันซีนเมืองนครที่ไม่เข้าถ้ำหงส์ มีหรือจะได้เห็นเป็ด

อ้าว!?! ทำไมเป็นเช่นนั้น มาถ้ำหงส์ทำไมถึงเจอเป็ด งานนี้เมื่อผมอยากรู้มีแต่ต้องมุดถ้ำเข้าไปดูถึงจะกระจ่าง

ถ้ำหงส์ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน หน่วยคลองลำแพน มีสภาพแวดล้อมบนทางเดินสู่ถ้ำหงส์ร่มรื่นเขียวครึ้ม
น้ำตกชั้นหนึ่ง กับบันไดลิงปีนป่ายสู่จุดต่อไป
ครั้นเมื่อพี่เจ้าหน้าที่อุทยานฯเขานัน พาผมเดินมาถึงจุดที่พี่แกบอกว่าเป็นทางเข้าถ้ำ ผมก็ยังงงอยู่ว่ามันมีปากถ้ำตรงไหน กระทั่งพี่แกชี้ให้ดูช่องรูเล็กๆที่ลึกลงไปใต้ดินนั่นแหละ ผมจึงถึงบางอ้อ และก็รู้สึกว่างานนี้ไม่ธรรมดา และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะแค่แรกเริ่มผมและคณะก็ต้องมุดช่องแคบเล็กๆลงไป ซึ่งได้แต่สงสัยว่า ใครหนอช่างเสาะหามาเจอถ้ำแห่งนี้

หลังมุดลงไปในถ้ำ ด่านต่อไปผมเจอกับความเปียกเย็นของลำธารน้ำภายในถ้ำที่เป็นลำธารตื้นๆเหนือตาตุ่มให้เราเดินลุยต่อไป พร้อมๆกับความสวยงามของหินย้อยรูปร่างแปลกตาที่ธรรมชาติสรรค์สร้างมาต้อนรับ

จากนั้นพี่เจ้าหน้าที่เดินหน้าพาผมกับคณะเดินลุยธารน้ำชมความงามของสิ่งน่าสนใจภายในถ้ำ โดยช่วงแรกจะมีหินงอกหินย้อยประกายเพชรส่องแสงระยิบระยับให้ชม จากนั้นจะเป็นช่องลอดหินปูนที่ต้องมุดลอดเข้าไปแบบเปียกปอนทุลักทุเล ก่อนที่เส้นทางจะพาไปพบกับน้ำตกเล็กๆภายในถ้ำซึ่งเป็นน้ำตกชั้นที่ 1 มีน้ำใสไหลเย็นชุ่มฉ่ำ ข้างตัวน้ำตกมีบันไดลิงเล็กๆให้พวกเราปีนขึ้นเพื่อเดินทางไปยังจุดน่าสนใจต่อไป
เป็ดย่างหินกินไม่ได้
พ้นจากน้ำตกชั้นที่หนึ่ง เราได้พบกับ“เป็ดย่าง” ที่เป็นหินย้อยรูปร่างประหลาดดูคล้ายเปิดย่างๆสุกใหม่ๆจากเตาชนิดที่เห็นแล้วชวนหิวไม่น้อย และนี่ก็คือเป็ดที่ผมพูดถึงในเบื้องต้น

จากเป็ดย่าง จุดน่าสนใจต่อไปเป็นผาหิมะ ที่เป็นหินงอกหินย้อยลักษณะพิเศษมีสีขาวเนียนดูคล้ายก้อนหิมะขนาดย่อมก่อตัวลงมาจากเพดานถ้ำ แถมยังเป็นหิมะพิเศษที่ไม่ละลาย
ผาหิมะ
ทางเดินพามุดลุยต่อไปสู่อีกหนึ่งจุดชวนตื่นเต้นกับห้องค้างคาว ที่เบื้องบนเพดานมีค้างคาวจำนวนมากเกาะห้อยหัวอยู่

สำหรับจุดชวนชมจุดต่อไปซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คือน้ำตกชั้นที่ 2 มีลักษณะเป็นน้ำตกสายเล็กๆไหลตกมากระทบโขดหินและแอ่งน้ำตื้นๆที่เบื้องล่าง ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ถ้ำของเมืองไทยที่มีน้ำตกให้สัมผัสกัน ซึ่งแม้การเที่ยวชมถ้ำหงส์จะทุกลักทุเลพอตัว เพราะบางช่วงต้องปีนป่าย บางช่วงต้องหมอบคลานต่ำลุยธารน้ำมุดลอดไปในโพรงถ้ำเตี้ยๆชนิดทำเปียกปอนไปตามๆกัน แต่เมื่อได้เข้ามาแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะสิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างในถ้ำหงส์ถือว่าน่าชมไม่น้อยเลย
ต้นชิง
น้ำตกกรุงชิง อลังการ หนานฝนแสนห่า

เมืองนครศรี มีน้ำตกชั้นดีชั้นดังในระดับไฮไลท์ของจังหวัดคือ “น้ำตกกรุงชิง” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ทางฝั่ง อ.นบพิตำ ซึ่งทั้งน้ำตกกรุงชิงและอ่าวกรุงชิง ต่างมีชื่อมาจาก “ต้นชิง” พันธุ์ไม้ตระกูลปาล์มใบเป็นแฉกที่พบมากภายในพื้นที่เขาหลวงแถบนี้

น้ำตกกรุงชิงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันออกไป ได้แก่ ชั้นที่1. หนานมัดแพ 2. หนานฝนแสนห่า 3. หนานปลิว 4. หนานจน 5. หนานโจน 6. หนานต้นตอ 7. วังเรือบิน ซึ่งทางอุทยานเปิดให้เที่ยวชมน้ำตกกันทั้ง 7 ชั้น
น้ำตกกรุงชิงชั้น 2 หนานฝนแสนห่า
การเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกถือเป็นการผจญภัยเล็กๆ เพราะต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 3.8 กิโลเมตร ที่ช่วงท้ายประมาณ 800 เมตร นั้นสมบุกสมบันเอาเรื่อง

สำหรับน้ำตกกรุงชิงชั้นที่สวยที่สุด ได้ชื่อว่าเป็นไฮไลท์คือชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า ที่เมื่อเดินเหนื่อยๆมาเจอน้ำตกชั้นนี้ ความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้ง

หนานฝนแสนห่ามีสายน้ำตกสีขาวโพลนไหลลดหลั่นกันมาตามชั้นหน้าผาที่มีความสูงประมาณ 100 เมตร มาแตกกระจายแผ่กว้างในช่วงท้ายและไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
หนานฝนแสนห่าถูกนำไปตีพิมพ์ในธนบัตรใบละ 100 บาท ปี 2535
ด้วยเสน่ห์และความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้ ทำให้หนานฝนแสนห่าได้ถูกนำไปตีพิมพ์(เป็นภาพวาดลายเส้น)ในธนบัตรใบละ 1,000 บาท (รุ่นแรก) ของปี พ.ศ. 2535 ซึ่งวันนี้แบ๊งก์พันรุ่นนี้กลายเป็นของสะสมหายากไปแล้ว

นอกจากน้ำตกกรุงชิงอันสวยงามแล้ว ในพื้นที่แห่งนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทางอุทยานฯได้จัดทำไว้ พานำชมสิ่งน่าสนใจต่างๆ โดยเฉพาะกับพืชพันธุ์ไม้ประจำถิ่นอันโดดเด่นของที่นี่

และนี่ก็เป็นเสน่ห์ 3 สิ่งของธรรมชาติเมืองนครที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ซึ่งแม้การเข้าชม การเข้าถึง จะต้องออกแรงลุย ผจญภัยกันบ้าง แต่เมื่อเราสามารถฟันฝ่าไปถึงจุดหมายแล้ว ความงาม ความน่าสนใจ ของธรรมชาติจะทำให้ความเหน็ดเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง

ที่สำคัญคือการดั้นด้นตะลุยไปให้ถึงยังจุดหมายนั้น ถือเป็นบททดสอบในการเอาชนะใจตนเองที่สำคัญอีกบทหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น