เที่ยวท่องล่องใต้ มีอีกหนึ่งทริปที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ ป่า เขา ลำเนาไพร กับความมหัศจรรย์ ที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมา เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว ของ จ.นครศรีธรรมราช สำหรับทริปนี้ มี 3 สถานที่สุดมหัศจรรย์ มาแนะนำกัน คือ จิบกาแฟ แกล้มสายหมอกยามรุ่งอรุณ เดินป่าชมความสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์สู่น้ำตกกรุงชิง และ อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน
ไปลุยกันเลย ตื่นรับอรุณมาเตรียมตัวกันตั้งแต่ตี 4 เพื่อจะขึ้นเขาไป “จิบกาแฟ แกล้มสายหมอก” ที่บนยอดเขาเหล็ก ตั้งอยู่ที่ ม.1 บ้านนบ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขานัน ซึ่งเป็นทะเลหมอกที่ไม่แพ้ทะเลหมอกทางภาคเหนือเลย มีหมอกปกคลุมภูเขาน้อยใหญ่ตลอดทั้งปี บรรยากาศดีมากๆ ด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องด้วยที่นี่มีแร่อยู่ประมาณ 5-6 ชนิด หากไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ จะมีบริการขนมพื้นบ้านบริการให้กับนักท่องเที่ยวกันแบบสดๆ ร้อนๆ ด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มชุมชนในพื้นที่ ที่รวมตัวกันตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชนขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง กระจายรายได้สู่ชุมชน
ดื่มด่ำกับกาแฟร้อนๆ และอาหารพื้นบ้านที่แสนอร่อย ท่ามกลางแมกหมอกที่มาสัมผัสผิวกายเย็น เบาๆ กันแล้ว ก็มาเก็บบันทึกความทรงจำ ถ่ายรูปสวยๆ กับสายหมอกและหุบเขาที่เต็มไปด้วยความเย็นของหมอยามเช้า รอสักพักพระอาทิตย์ขึ้นส่องแสง ยิ่งงดงามชวนให้น่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก
หลังจากนั้นต้องมาเพิ่มพลังรับประทานอาหารให้เรียบร้อย เพราะการเดินทางต่อไปนี้ค่อนข้างจะหนักหนาพอสมควร ด้วยระยะทาง 3.7 กม.เพื่อพิชิตน้ำตกกรุงชิง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ น้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น แต่น้ำตกกรุงชิงแปลกจากจากน้ำตกโดยทั่วไป คือ เราจะไปถึงชั้น 7 ก่อน แล้วค่อยเดินไต่ไหลเขาไปจนถึงชั้น 1 ซึ่งทั้ง 7 ชั้นประกอบด้วย ชั้น 7 คือวังเรือบิน ชั้นที่ 6 หนานต้นตอ ชั้นที่ 5 หนานโจน ชั้นที่ 4 หนานจน ชั้นที่ 3 หนานปลิว ชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า และชั้นที่ 1 หนานมัดแพ
ความสวยงามทั้งหมดของน้ำตกกรุงชิง อยู่ที่ชั้นที่ 2 หนานฝนแสนห่า ซึ่งเป็นชั้นที่สวยที่สุด โดยกระทรวงการคลังได้นำภาพของน้ำตกชั้นนี้พิมพ์ลงในธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท เมื่อปี พ.ศ.2535 นอกจากนี้ ตลอดเส้นทาง 3.7 กม. ที่อุดมไปด้วยความสมบูรณ์ของป่าไม้ที่หนาทึบตลอดสองข้างทาง ก็จะมีการจารึกประวัติศาสตร์ไว้ เนื่องจากเขาหลวงเคยเป็นเส้นทางการทำสงครามคอมมิวนิสต์ ซึ่งยังคงมีร่องรอยของประวัติศาสตร์เหล่านั้นอยู่เช่น หลุมขวาก บันได 3 ขั้น ประตูชัย ฯลฯ
เดินไปกลับร่วม 8 กม.ทั้งทางราบทางชัน ทำเอาเหนื่อยและเมื่อยขาไปหมดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นออกจากน้ำตก เราก็ไปแช่เท้าให้ผ่อนคลายกันที่บ่อน้ำร้อน ซึ่งอยู่ในความดูแลของวิสาหกิจชุมชน บ้านพิตำ “พี่เพ็ญ” หนึ่งในสมาชิกกลุ่ม เล่าว่า บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ ถูกพบโดยพระธุดงค์ ซึ่งเป็นน้ำแร่ แต่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า ค้นพบเมื่อปี พ.ศ.ไหน จนได้มีการปรับปรุง ปรับสถานที่เรื่อยมา เปิดบริการให้กับนักท่องเที่ยวโดยชุมชนเข้ามาบริหารเอง
สำหรับการให้บริการนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกรุ๊ป ทางชุมชนจะมีบริหารน้ำสมุนไพร และขนมหวาน ส่วนนักท่องเที่ยวขาจร จะคิดค่าบริการท่านละ 20 บาท มีบริการน้ำสมุนไพร โดยสามารถแช่ หรืออาบน้ำแร่ได้ทั้งวัน จะมีที่บริการให้แช่เท้า โดยมีรางจืด พืชสมุนไพรให้ด้วย และมีห้องสำหรับอาบน้ำทั้งหมด 12 ห้อง
นี่เป็นเพียงตัวอย่างเรียกน้ำย่อย กรุงชิง ยังมีอีกหลายสิ่งมหัศจรรย์ให้ได้ไปเชยชมกัน อย่างเช่น ความลี้ลับของถ้ำหงส์ ล่องแก่งคลองกลาย และน้ำตกอีกหลายแห่ง เที่ยวหน้า ไม่พลาดแน่นอนที่จะตระเวนไปให้ทั่วกรุงชิง และจะเก็บภาพสวยๆ มาฝากกันในคอลัมน์ เที่ยวท่องล่องใต้
สำหรับทริปนี้ขอขอบคุณ “หนำไพรวัลย์” และ “กรุงชิงฮิลล์” สำหรับอาหารและที่พักให้กับทีมงาน