“กรุงชิง” อันซีนเมืองนครฯ พร้อมรับนักท่องเที่ยว “พี่ไพ” เต็มใจบริการ

เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่มหัศจรรย์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของเมืองนครศรีธรรมราช นามว่า “กรุงชิง” เผชิญวิกฤตภัยธรรมชาติทั้งน้ำป่า และวาตภัย ทำให้ต้องปิดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟู กระทั่งบัดนี้ ได้ฤกษ์พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั่วประเทศแล้ว

“ASTVผู้จัดการ” จึงถือโอกาสสัมภาษณ์ นางอำไพย์ ถาวระ ประธานการท่องเที่ยวกรุงชิง ที่ได้ร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนเพื่อมาดูแล และฟื้นฟูกรุงชิงว่าตอนนี้มีความพร้อม และความสวยงามอย่างไร

กิจกรรมหลักๆ ของกรุงชิงที่มีความโดดเด่นคือ ?
จุดเด่นของกรุงชิงคือ จะมีน้ำตกกรุงชิง ซึ่งถูกตีพิมพ์ในธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท นอกจากนี้แล้ว ก็จะมีทะเลหมอกที่สามารถชมได้ทั้งปีที่เราอยากจะบอกว่าไม่ต้องไปถึงภาคเหนือ แต่ให้มาปักษ์ใต้บ้านเรา จ.นครศรีธรรมราช ก็มีหมอกให้ชมกันทั้งปีแล้ว และยังมีการล่องแก่ง ชมวิวทิวทัศน์ ชมธรรมชาติสองข้างทางซึ่งมีความสวยงามมากทีเดียว

หลังจากนั้น ก็จะมีการอาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน และก็ไปดื่มน้ำสมุนไพร ส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวถ้าไม่เป็นเขตอุทยาน ก็จะเป็นวิสาหกิจชุมชน บ้านพัก หรือรีสอร์ตต่างๆ แต่เท่าที่มีก็ไม่มากมายไม่เกินสองที่ที่เราดูแลกัน ปีนี้ก็อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาช่วยเหลือ และดูแลกรุงชิงอีกสักครั้ง

นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อได้ที่ไหน ?
ตอนนี้ทุกคนก็ได้ตกลงกันไว้ว่า ให้จองมา และติดต่อที่พี่อำไพย์ที่หนำไพรวัลย์โดยตรง ซึ่งนอกจากพี่จะดูแลในส่วนของตัวเองแล้ว ยังดูแลในส่วนของกลุ่มอีกด้วย เพราะบางที่ยังไม่ฟื้นเลยตั้งแต่น้ำท่วมก็ไม่สามารถรับทัวร์ได้สักชุด มีพี่อำไพย์ที่ให้มีการฟื้นฟูกันอยู่

หรือจะดูสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ หรือจะเป็นโฮมสเตย์ หรือจะไปที่แคมปิ้งก็จะเป็นวังศิลาแคมปิ้ง หรือจะพักในป่าธรรมชาติที่ค่อนข้างใหญ่สักหน่อยก็เป็นเรือนกรุงชิง และถ้าจะดูแลสุขภาพก็ต้องไปที่ศูนย์เรียนรู้คุ้มตานุ้ย และกรุงชิงการ์เด้น

หลังจากที่เราเจออุทกภัยมีหน่วยงานไหนให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูการท่องเที่ยวบ้าง เพราะมัน 2 ปีแล้ว?
จริงๆ แล้วเรื่องการท่องเที่ยวก็มาฟื้นฟูกันบ่อยครั้ง เราไม่โทษสื่อ เราไม่โทษจังหวัด พวกเขาให้ความช่วยเหลือเราอยู่แล้ว พอมีการสัญจรในเรื่องของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะทางจังหวัด ก็จะพักที่หนำไพรวัลเป็นร้อยคน เป็นห้าสิบคน แต่ทั้งนี้มันก็สู้การบอกต่อไม่ได้ ต้องให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วต้องมาเห็นความเป็นจริงว่าที่นี่ก็ยังชื่นมื่นเหมือนเดิม แล้วก็ยังมีการบอกปากต่อปากต่อๆ กันไป ตอนนี้ก็เริ่มจะดีขึ้น

จังหวัดก็ยังให้ความช่วยเหลือ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่จะจัดงานมหัศจรรย์กรุงชิง ดูแลสองอุทยานก็คือ อุทยานเขาหลวง และอุทยานเขานัน เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับดีทีเดียว เรียกว่าแทบจะตอบรับไม่ทันกับเสียงที่จองมา เพราะว่าคนเขาอยากมาดูการช่วยเหลือกัน

หลังจากที่เกิดอุทกภัยคนยังตื่นตัวอีกไหม ?
จริงๆ แล้วหลังจากเกิดอุทกภัยเราจะมีการรวมกลุ่มเฝ้าระวังภัยกรุงชิง มีเครือข่ายของวิทยุแดง หรือ ว.แดง ซึ่งมีร้อยกว่าเครื่อง ไม่ว่าฝนจะตกตรงไหน เกิดเหตุการณ์อะไรก็จะบอกกันล่วงหน้า ทำให้ทราบเลยว่าตรงนี้ฝนลงหนักแล้ว จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ป้องกันอย่างไร จะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และก็ยังไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น บางครั้งบางคราวที่สื่อออกไปว่า สะพานตรงนั้นขาด ตรงนี้ขาด คือ สะพานชั่วคราวที่เขาไปสร้างกลางน้ำ เพื่อที่จะแก้ปัญหาชั่วคราวก่อนที่จะสร้างสะพานใหญ่เสร็จ

แสดงว่าหลังจากเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ปีนี้ คนในพื้นที่มีความตื่นตัวที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวกลับมาเหมือนเดิมไหม?
ถูกต้องเลยค่ะ ตอนแรกๆ ที่เกิดเหตุการณ์หนัก การสื่อสารต่างๆ ติดต่อไม่ได้เลย ก็มีแต่วิทยุดำ เป็นวีอาร์ เป็นนักวิทยุสมัครเล่น ก็จะแจ้งไปทางจังหวัดเพื่อขอความช่วยเหลือไป หลังจากนั้น ชาวบ้านก็เห็นความสำคัญของวิทยุ ส่วนเรื่องของโทรศัพท์มือถือ เมื่อไหร่ที่ไฟฟ้าดับก็หมดสิทธิที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ตอนนี้ชาวบ้านคิดว่าทำอย่างไรให้เขาดูแลตัวเองก่อนที่คนอื่นจะมาช่วย ก็เลยรวมกลุ่มตรงนี้กันขึ้นสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวบ้านเอง และนักท่องเที่ยวที่เข้ามา

กลุ่มตรงนี้ขยายบทบาทไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยว และการดูแลเอาใจใส่นักท่องเที่ยวด้วยใช่ไหม ?
ทั้งสองภาคส่วนเลย เพราะคนที่เป็นประธานเครือข่ายเป็นเจ้าของวังศิลาแคมปิ้งชื่อคุณนิรมล คงทอง เขาจะดูแลในเรื่องเหล่านี้ ดูแลในเรื่องของภัยพิบัติ และก็มาดูแลเรื่องการท่องเที่ยวด้วย เลยทำให้อบอุ่นใจทุกครั้ง เหมือนอย่างวันนี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ก็จะพูดคุยกัน และติดต่อกันได้ตลอด ใครเข้ามาเขาก็จะเป็นเจ้าบ้านที่ดี พี่อำไพย์จัดการการอบรม การดูแล การบริการ และการต้อนรับที่ดีให้แก่ชาวบ้านสองรอบแล้ว

สถานการณ์ครั้งนั้นทำให้ชุมชนหันหน้าเข้าหากัน และร่วมมือกันมากขึ้น จึงทำให้เกิดวิสาหกิจชุมชนมากมายเลยใช่ไหม ?
ถูกต้องเลยค่ะ เมื่อก่อนรีสอร์ตบางจุดก็คิดว่าเราทำไปเล็กๆ เราทำไปแล้วคิดว่าไม่เป็นไรนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ดูแลตัวเองได้ แต่พอถึงเวลาแล้วมันไม่ใช่อย่างที่เราว่า เราจะต้องจับมือกัน ต้องดูแล ต้องช่วยเหลือกัน ชุมชนก็เลยกลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็งขึ้น

ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วย และที่บ่อน้ำร้อนก็จะมีวิสาหกิจชุมชนเกิดขึ้น และเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ ทำให้มีผลส่วนหนึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวใช่ไหม ?
รวมทั้งทะเลหมอก ทั้งล่องแก่ง ก็เป็นของวิสาหกิจชุมชนทั้งนั้น เจ้าของรีสอร์ตต่างๆ ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมเหล่านั้น แต่ที่ชุมชนทำได้ คือเราจะช่วยกัน เพื่อที่จะอยู่กันได้ทั้งสองฝ่าย

แสดงว่าเราจะต้องแบ่งค่าใช้จ่ายให้วิสาหกิจชุมชนด้วยใช่ไหม?
ถูกต้องค่ะ ไปทะเลหมอกค่าใช้จ่ายก็ต้องไปอยู่ที่กลุ่มแม่บ้านทะเลหมอก ไปล่องแก่งเราก็จะให้เขาเก็บไปเลยว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่เราจะเป็นคนส่งนักท่องเที่ยวไปให้ทุกจุด และวิสาหกิจชุมชนจะมีส่วนร่วมกับการท่องเที่ยว จะเป็นเจ้าภาพใหญ่เลยทีเดียว เพราะวิสาหกิจชุมชนจะเป็นการรวมกลุ่มของพี่น้องชาวบ้าน นอกเหนือจากนั้น อาชีพดั้งเดิมที่ตัวเองมีคือ กรีดยางพารา หรือทำสวน

เรื่องของวิสาหกิจชุมชนที่เกิดตอนนี้คือ ทะเลหมอกได้รับการตอบรับอย่างดี และได้รับรางวัลที่หนึ่งของประเทศไทย ได้ไปดูงานถึงญี่ปุ่น และเรื่องล่องแก่งเมื่อก่อนเป็นของ อบต. แต่ทำได้ระยะหนึ่งก็โอนมาให้แก่ชุมชน พอชุมชนเข้มแข็ง ก็บอกให้ชุมชนทำรายได้ เขาก็เลยแบ่งกันในกลุ่ม และเป็นสมาชิกลงหุ้นกัน ตอนนี้ก็เป็นของบ่อน้ำร้อน และชุมชนเพื่อสุขภาพแช่มือแช่เท้ากันด้วยสมุนไพรกับน้ำร้อนบริเวณนั้นก็ทำควบคู่กัน

เมื่อเป็นแบบนี้แล้วก็ทำให้เกิดความรู้สึกที่ชุมชนมีให้นักท่องเที่ยว และอัธยาศัยที่ดีทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีใช่ไหม ?
เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นมา เราไม่มีความมั่นใจเลยในตอนแรก บางคนกลัวว่าพูดไปแล้วไม่ถูกอกถูกใจ กลัวว่าพูดไปแล้วเขาจะไม่เข้าใจเลยต้องสร้างความมั่นใจให้แก่เขา เลยเอาเรื่องของการพัฒนาฝีมือแรงงานของจังหวัด เขาให้งบมาส่วนหนึ่ง เราก็มาดูแล และร่วมด้วยหลายๆ ที่ก็ได้มาเป็นวิทยากรในการอบรม การเป็นเจ้าบ้านที่ดี การพูดจาอย่างไร ทักทายอย่างไร ดูแลอย่างไรให้เกิดความพึงพอใจ ทั้งแขกที่มาเยือน ทั้งผู้ที่ต้อนรับให้เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น และที่กรุงชิงเป็นอย่างนี้เราจะกระตือรือร้นทุกครั้งที่นักท่องเที่ยวเข้ามา ไม่ใช่ว่าคุณมา คุณจ่ายเงินแล้วคุณก็กลับไป แต่คุณจะต้องมาใช้บริการซ้ำ โดยเป็นเพราะอัธยาศัยที่ดีของเจ้าบ้าน

โฮมสเตย์นี่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือว่าเพิ่งมามีในช่วงนี้ ?
โฮมสเตย์เมื่อก่อนยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าที่ควร และยังไม่มีความมั่นใจพอว่าเราจะดูแลนักท่องเที่ยวได้ เจ้าบ้านเขาจะมีความเอื้ออาทรแก่บุคคลภายนอก และรู้สึกว่าเขาอยากจะดูแลเราก็เลยส่งเสริม และก็ให้เปิดตรงนี้ขึ้นมา

ตั้งแต่ดำเนินการวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา ชาวบ้านเป็นอย่างไรบ้าง เราต้องปรับปรุง หรือแก้ไขตรงไหนบ้าง ?
กลุ่มชาวบ้านเขาก็กระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น และก็ต้องเพิ่มกลุ่มขึ้น ชาวบ้านเขาตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มีส่วนร่วมขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นศิษย์หมอเขียวของเรานี่เอง ซึ่งได้รับการอบรม และยังคิดเลยว่าที่หนำไพรวัลย์ของเราก็เหมือนกัน นอกจากเราจะดูแลเรื่องอาหารสุขภาพ ผ้าเช็ดตัวผ้าปูที่นอนซักด้วยน้ำสับปะรดที่ไม่ต้องการสารเคมี อาหารที่รับประทานเข้าไปไม่มีสารเคมี ก็จะต้องมาดูแลในเรื่องของการออกกำลังกายจะต้องเชิญหมอเขียว ต้องเชิญทีมงานเข้ามาดู และมาล้างตับ และก็อะไรต่ออะไร

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ มหัศจรรย์กรุงชิงนี้ เบื้องหลังแล้วมีอะไรเป็นอันซีนไทยแลนด์?
มหัศจรรย์กรุงชิงของเราก็คือ ที่เรามาตั้งชื่อคือ กรุงชิง เพราะเป็นเมืองเดียวที่มีทรัพยากรชาติมากมาย มีเหมืองแร่ มีภูเขา มีแม่น้ำ มีถ้ำ มีบ่อน้ำร้อน มีทะเลหมอก และก็มีน้ำตกมากมาย มาอยู่กัน 2-3 วันเที่ยวกันไม่หมด เราก็ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะมา

และอย่างถ้ำหงส์ ต้องมุด ต้องลอด ต้องปีนป่าย อันนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะที่ไหนก็มี แต่น้ำตกที่นี่เล่นท่ามกลางความมืด ในถ้ำเป็นอันซีนของนครศรีธรรมราช และใต้พื้นโลกมีน้ำตกด้วย แต่คนไม่รู้จักเลยไม่ได้เข้ามาสัมผัส และเพราะคนยังรู้จักน้อยเลยเข้าไปช่วยกัน

• แสดงว่าตอนนี้ชุมชนก็มีความเข้มแข็งขึ้นใช่ไหม ?
  เข้มแข็งขึ้นค่ะ และก็คิดว่าปี 2556 นี้ จะมีอะไรที่ดีๆ มาเพิ่มเติมอีกมากมาย ในเรื่องของการดูแลนักท่องเที่ยวตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวทุกอย่างจะต้องพัฒนาขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าคนที่มาที่กรุงชิงจะเน้นเรื่องสุขภาพ จะมาทานผักกรูด ผักพื้นบ้าน หยวกกล้วย และผักที่เราทานกันทั่วไปเอามาจับทอด จากเด็กๆ ที่ไม่เคยกินผักเลยก็จะต้องกินผักเป็น แล้วเราก็ดูแลในเรื่องผลิตภัณฑ์ของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ก็อยากให้เข้ามาสัมผัส และได้มาเห็นได้มารู้จัก
  
  แสดงว่ากรุงชิงเป็นพี่น้องพันธมิตรฯ?
  เราเป็นพี่น้องพันธมิตรฯ ส่วนหนึ่งแล้วก็ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องพันธมิตรฯ หรือว่ากลุ่มไหนก็แล้วแต่ แต่เราก็ขอมุ่งมั่นว่าให้ทำความดี ต้องช่วยเหลือแล้วก็ดูแลสังคมจะไม่มีใครเปลี่ยนคนกรุงชิงได้เลย มั่นใจว่าคนกรุงชิงเป็นคนที่มีเกียรติของตัวเอง
  
  พูดถึงเรื่องการเมืองก็มีความคิดที่ค่อนข้างจะรุนแรง ไม่มีใครที่จะดึงไปได้ถ้าเขาไม่ชอบใจ อย่าคิดว่ามีพละกำลัง มีเงินที่จะมาสร้างอะไรให้เขาได้ก็จะดึงเข้าไปเป็นพวก เพราะว่าครั้งหนึ่งเบื้องบนเคยเอามาพูดท่านบอกว่า เรื่องของคนกรุงชิงเป็นคนที่มีความคิดอ่านไม่เหมือนกับที่อื่น เขารู้จักคำว่าโหวตโนตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่ได้คุยกันถ้าไม่เป็นที่ชื่นชอบเขาไม่ลงคะแนนเขาไปเลือก แล้วก็กาช่องไม่ประสงค์ลงคะแนนตั้งแต่เกือบจะสองกว่าปีที่ผ่านมา และไม่มีใครไปชี้แนะเขาค่ะ
  
  

สุดท้าย ต้องยกสุภาษิตโบราณที่กล่าวว่า “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น” หากใครต้องการพิสูจน์ความสวยงามของกรุงชิงแล้ว สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.numpriwon.com/?page_id=31 หรือติดต่อคุณอำไพย์-คุณไกวัล ถาวระ เลขที่ 90 บ้านปากลง หมู่ที่ 6 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ นครศรีธรรมราช 80160 โทรศัพท์ : 0-7534-4243, 08-1968-6113, 08-4-47-7710 Fax : 0-7534-0090 Email : numpriwon@hotmail.com