โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทีไร ฉันก็ทำใจให้หยุดอยู่กับบ้านไม่ได้สักที เป็นต้องหาเรื่องออกไปเที่ยวไปกินอยู่ร่ำไป แต่ครั้นจะไปไกลเมืองกรุงมากก็เกรงจะเสียเวลาและเงินทองมากเกินไป ไหนๆ ก็ไหนๆ ฉันจึงต้องเสาะหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามเว็บไซต์ แล้วก็ได้เจอกับชื่อ “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” เห็นชื่อคุ้นๆ แบบนี้ แต่ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวแบบเจาะลึกเสียที ทำเลที่ตั้งก็ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่เพียงแค่เขตตลิ่งชัน เอาเป็นว่าอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปเที่ยวกันดีกว่า
เห็นว่าเป็นตลาดน้ำในเมืองกรุงแบบนี้ ตลาดน้ำที่นี่เขาเปิดกันมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2547 แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น บริเวณแถบนี้ก็เป็นเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพชุมชนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย มีการตัดถนนผ่าน จานสวนผักผลไม้ก็กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรร นายชวน ชูจันทร์ หรือลุงชวน ผู้นำชุมชนจึงได้ริเริ่มหาแนวทางอนุรักษ์คลอง และวิถีชุมชนชาวคลองลัดมะยมไว้ให้อยู่แบบยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการเปิดตลาดน้ำขายสินค้าในวันหยุดสุดสัปดาห์
แรกเริ่มเดิมที ตลาดน้ำคลองลัดมะยมนั้นจะมีอยู่เพียงฝั่งเดียว ในภายหลัง ประมาณปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา จึงมีการขยับขยายพื้นที่ของตลาดให้มีทั้งสองฝั่งถนน ซึ่งหากว่าตอนนี้มาเยี่ยมเยือนตลาดแล้วก็จะเห็นทั้งผู้คนที่มาท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ขาย เดินกันอยู่ขวักไขว่ทั้งสองฝั่งเลยทีเดียว
ฉันมาถึงตลาดเมื่อราวๆ สิบโมงเช้า ตอนแรกก็คิดว่าร้านรวงอาจจะยังเปิดไม่มาก แต่ที่ไหนได้ ทั้งร้านค้าและคนมาเที่ยวก็เยอะแยะแล้ว มาถึงร้อนๆ หิวๆ ก็ขอหาของอร่อยรองท้องก่อนจะไปเที่ยวชมตลาดกัน แต่ขอบอกก่อนว่า กินแค่พออิ่ม ไม่ให้ท้องร้องก็พอ เพราะของกินที่ตลาดนี้เขายังมีให้เลือกชิมกันอีกมากมายละลานตา ชนิดที่ว่ามาสองวันก็ยังกินไม่ครบ
ออกสตาร์ทด้วยก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลองและขนมจีนพออิ่มท้อง แล้วก็เริ่มเดินสำรวจตลาดกันเสียที เริ่มที่ตลาดฝั่งดั้งเดิมก็มีทั้งของคาวของหวาน ขนมนมเนย ของกินเล่นให้เลือกซื้อหา เดินต่อมาก็เริ่มมีเสื้อผ้า ของใช้ ของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องปั้นดินเผาหน้าตาน่ารัก และยังมีพรรณไม้นานาชนิดให้นำกลับไปปลูกเพิ่มความเขียวสดชื่นให้บ้าน
แต่หากเดินเข้าไปลึกอีกสักหน่อย ก็จะได้ไปชม สวนเจียมตน ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าศึกษาวิถีชีวิตชาวสวนแบบดั้งเดิม ที่หาได้ยากแล้วในยุคที่บ้านจัดสรรเข้ามาประชิดถึงริมคลอง ฉันว่าถ้าพาเด็กๆ มาด้วย หลายคนคงตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพที่ไม่เคยเห็นแน่ๆ ซึ่งผู้ใหญ่ที่พาไปก็ควรจะอธิบายถึงความเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตของชาวสวนที่อยู่กันอย่างพอเพียง และไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เดินเล่นที่ฝั่งนี้เสร็จแล้ว ฉันก็ข้ามถนนเล็กมาที่ตลาดอีกฝั่งหนึ่ง แต่ช้าก่อน... ฉันขอแวะถ่ายรูปกับหลักกิโลเมตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมถนน ถ่ายรูปเสร็จก็ขอแวะช้อมชมชิมผลิตผลทางการเกษตรที่นำมาวางขายกันในตลาด มีทั้งผักผลไม้สดๆ ของแปรรูป ขนมกินเล่นต่างๆ
ใครที่พาลูกหลานมาเที่ยวด้วยก็ไม่ต้องกลัวว่าเด็กๆ จะเบื่อ เพราะที่ตลาดแห่งนี้มีมุมศิลปะให้เด็กๆ มาลองวาดรูปประชันฝีมือกัน หรืออาจจะมานั่งอ่านหนังสือบนแคร่ ที่มีหนังสือสำหรับเด็กวางไว้บริการก็ได้
แต่เมื่อมาถึงตลาดน้ำแล้ว ฉันก็ขอลงไปสัมผัสกับสายน้ำลำคลองให้เต็มที่เสียหน่อย เลยเดินมาถึงจุดลงเรือที่มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย พอดีมีเวลามากหน่อย ฉันก็เลยขอเลือกนั่งเรือชิลล์ๆ ไปรอบคลองบางระมาด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที แต่ก่อนจะลงเรือนั้น ขอแวะซื้อไอศกรีมโบราณ กับขนมอร่อยๆ ลงไปนั่งกินในเรือด้วยเสียหน่อย เผื่อจะเกิดอาการคอแห้งระหว่างทาง
ระหว่างนั่งเรือที่ล่องไปในลำคลองบางระมาด จะผ่านทั้งหมู่บ้านจัดสรรแบบคนกรุง และบ้านของชาวบ้านที่อยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ซึ่งมีความแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดเจน บ้านของชาวบ้านนั้นดูมีชีวิตชีวา และดูอบอุ่นมากกว่าบ้านสมัยใหม่มาก บางครั้งก็ได้โบกมือทักทายกันกับคนที่อยู่บนฝั่ง บ้างก็เห็นสุนัขตัวเล็กๆ วิ่งตามอยู่บนฝั่ง คอยส่งเสียงเห่าทักทาย ฉันคิดว่ามันเป็นความสุขในชีวิตอีกอย่างหนึ่งที่ในเมืองกรุงอันวุ่นวายนี้เหลืออยู่น้อยเต็มที
ล่องเรือมาเรื่อยๆ พี่คนขับเรือก็แวะให้ฉันขึ้นไปยืดเส้นยืดสายที่ วัดจำปา วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในละแวกนี้ ฉันได้เข้าไปกราบนมัสการพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์เก่าแก่ของวัด ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา และรอบๆ โบสถ์ก็จะมีวิหารคต ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์
จากโบสถ์ ก็เดินมาบริเวณด้านหน้าวัด มาสักการะหลวงพ่อสัมฤทธิโชค พระพุทธลอยน้ำ และพระบรมสารีริกธาตุ ได้ทำบุญทำทานกันแล้ว พี่คนขับเรือก็มาเรียกให้ไปลงเรือต่อ จะพาไปต่อที่อีกจุดหนึ่งคือ บ้านขนมไทย ที่นอกจากจะมีขนมให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีผักผลไม้ของชาวสวนแถบน้ำให้เลือกขมเลือกชิมแบบสดๆ อีกด้วย
เสร็จสรรพจากบ้านขนมไทย ฉันก็กลับลงเรือ แล้วล่องกลับมาที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม นั่งเรือสบายๆ มีลมพัดพอเย็นชื่นใจ กลับมาถึงตลาดท้องไส้ก็เริ่มประท้วง แบบนี้ต้องหาของกินอร่อยๆ กระแทกปากกันอีกสักมื้อ ว่าแล้วก็เดินวนเวียนอยู่รอบตลาด เพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลองชิมอะไรก่อน ด้วยเหตุที่มีของกินเยอะแยะลายตา
เท่าที่มองเห็นก็เริ่มจากของคาว จำพวกข้าวต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย อาหารไทย-จีน-ฝรั่ง ปลาเผา ซีฟู้ด หมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปิ้ง ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมทองต่างๆ ขนมไทยโบราณ ข้าวเหนียวสารพัดหน้า ไอศกรีม และยังมีเครื่องดื่มนานาชนิดให้เลือกชิมดับกระหาย
อาหารมื้อนี้ฉันเลือกซื้อมาลองชิมหลากหลายเมนู ซึ่งก็ล้วนแต่ถูกปากทั้งสิ้น แต่ที่ฉันชอบที่สุดนอกเหนือจากรสชาติของอาหารแล้ว ก็คือบรรยากาศที่นั่งกินริมคลอง มีเรือหลากหลายประเภทล่องผ่านมา ได้เห็นคนเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ริมฝั่ง แล้วก็มีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของแต่ละครอบครัวที่มาพักผ่อนในวันหยุด นี่แหละที่เป็นวิถีชีวิตแบบมีความสุขริมคลองของชาวกรุง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” ตั้งอยู่บน ถ.บางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. การเดินทางหากมาจาก ถ.บรมราชชนนี (ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพุทธมณฑล) ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นป้ายบอกทางเข้าตลาด ให้เลี้ยวเข้า ถ.บางระมาด (ทางลัดไป ซ.จรัญฯ 35) อยู่ตรงข้ามกับสมาคมชาวปักษ์ใต้ วิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นตลาดตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลอง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 09.00-15.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลุงชวน โทร. 0-2422-4270, 08-9215-2659
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
ถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทีไร ฉันก็ทำใจให้หยุดอยู่กับบ้านไม่ได้สักที เป็นต้องหาเรื่องออกไปเที่ยวไปกินอยู่ร่ำไป แต่ครั้นจะไปไกลเมืองกรุงมากก็เกรงจะเสียเวลาและเงินทองมากเกินไป ไหนๆ ก็ไหนๆ ฉันจึงต้องเสาะหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ตามเว็บไซต์ แล้วก็ได้เจอกับชื่อ “ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” เห็นชื่อคุ้นๆ แบบนี้ แต่ก็ยังไม่เคยไปเที่ยวแบบเจาะลึกเสียที ทำเลที่ตั้งก็ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่เพียงแค่เขตตลิ่งชัน เอาเป็นว่าอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปเที่ยวกันดีกว่า
เห็นว่าเป็นตลาดน้ำในเมืองกรุงแบบนี้ ตลาดน้ำที่นี่เขาเปิดกันมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2547 แล้ว แต่ก่อนหน้านั้น บริเวณแถบนี้ก็เป็นเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสภาพชุมชนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วย มีการตัดถนนผ่าน จานสวนผักผลไม้ก็กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรร นายชวน ชูจันทร์ หรือลุงชวน ผู้นำชุมชนจึงได้ริเริ่มหาแนวทางอนุรักษ์คลอง และวิถีชุมชนชาวคลองลัดมะยมไว้ให้อยู่แบบยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการเปิดตลาดน้ำขายสินค้าในวันหยุดสุดสัปดาห์
แรกเริ่มเดิมที ตลาดน้ำคลองลัดมะยมนั้นจะมีอยู่เพียงฝั่งเดียว ในภายหลัง ประมาณปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา จึงมีการขยับขยายพื้นที่ของตลาดให้มีทั้งสองฝั่งถนน ซึ่งหากว่าตอนนี้มาเยี่ยมเยือนตลาดแล้วก็จะเห็นทั้งผู้คนที่มาท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ขาย เดินกันอยู่ขวักไขว่ทั้งสองฝั่งเลยทีเดียว
ฉันมาถึงตลาดเมื่อราวๆ สิบโมงเช้า ตอนแรกก็คิดว่าร้านรวงอาจจะยังเปิดไม่มาก แต่ที่ไหนได้ ทั้งร้านค้าและคนมาเที่ยวก็เยอะแยะแล้ว มาถึงร้อนๆ หิวๆ ก็ขอหาของอร่อยรองท้องก่อนจะไปเที่ยวชมตลาดกัน แต่ขอบอกก่อนว่า กินแค่พออิ่ม ไม่ให้ท้องร้องก็พอ เพราะของกินที่ตลาดนี้เขายังมีให้เลือกชิมกันอีกมากมายละลานตา ชนิดที่ว่ามาสองวันก็ยังกินไม่ครบ
ออกสตาร์ทด้วยก๋วยเตี๋ยวเรือริมคลองและขนมจีนพออิ่มท้อง แล้วก็เริ่มเดินสำรวจตลาดกันเสียที เริ่มที่ตลาดฝั่งดั้งเดิมก็มีทั้งของคาวของหวาน ขนมนมเนย ของกินเล่นให้เลือกซื้อหา เดินต่อมาก็เริ่มมีเสื้อผ้า ของใช้ ของประดับตกแต่งบ้าน เครื่องปั้นดินเผาหน้าตาน่ารัก และยังมีพรรณไม้นานาชนิดให้นำกลับไปปลูกเพิ่มความเขียวสดชื่นให้บ้าน
แต่หากเดินเข้าไปลึกอีกสักหน่อย ก็จะได้ไปชม สวนเจียมตน ที่เปรียบเสมือนห้องเรียนธรรมชาติให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าศึกษาวิถีชีวิตชาวสวนแบบดั้งเดิม ที่หาได้ยากแล้วในยุคที่บ้านจัดสรรเข้ามาประชิดถึงริมคลอง ฉันว่าถ้าพาเด็กๆ มาด้วย หลายคนคงตื่นตาตื่นใจกับทัศนียภาพที่ไม่เคยเห็นแน่ๆ ซึ่งผู้ใหญ่ที่พาไปก็ควรจะอธิบายถึงความเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตของชาวสวนที่อยู่กันอย่างพอเพียง และไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อมเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เดินเล่นที่ฝั่งนี้เสร็จแล้ว ฉันก็ข้ามถนนเล็กมาที่ตลาดอีกฝั่งหนึ่ง แต่ช้าก่อน... ฉันขอแวะถ่ายรูปกับหลักกิโลเมตรตลาดน้ำคลองลัดมะยม ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมถนน ถ่ายรูปเสร็จก็ขอแวะช้อมชมชิมผลิตผลทางการเกษตรที่นำมาวางขายกันในตลาด มีทั้งผักผลไม้สดๆ ของแปรรูป ขนมกินเล่นต่างๆ
ใครที่พาลูกหลานมาเที่ยวด้วยก็ไม่ต้องกลัวว่าเด็กๆ จะเบื่อ เพราะที่ตลาดแห่งนี้มีมุมศิลปะให้เด็กๆ มาลองวาดรูปประชันฝีมือกัน หรืออาจจะมานั่งอ่านหนังสือบนแคร่ ที่มีหนังสือสำหรับเด็กวางไว้บริการก็ได้
แต่เมื่อมาถึงตลาดน้ำแล้ว ฉันก็ขอลงไปสัมผัสกับสายน้ำลำคลองให้เต็มที่เสียหน่อย เลยเดินมาถึงจุดลงเรือที่มีโปรแกรมให้เลือกหลากหลาย พอดีมีเวลามากหน่อย ฉันก็เลยขอเลือกนั่งเรือชิลล์ๆ ไปรอบคลองบางระมาด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที แต่ก่อนจะลงเรือนั้น ขอแวะซื้อไอศกรีมโบราณ กับขนมอร่อยๆ ลงไปนั่งกินในเรือด้วยเสียหน่อย เผื่อจะเกิดอาการคอแห้งระหว่างทาง
ระหว่างนั่งเรือที่ล่องไปในลำคลองบางระมาด จะผ่านทั้งหมู่บ้านจัดสรรแบบคนกรุง และบ้านของชาวบ้านที่อยู่มาตั้งแต่ดั้งเดิม ซึ่งมีความแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดเจน บ้านของชาวบ้านนั้นดูมีชีวิตชีวา และดูอบอุ่นมากกว่าบ้านสมัยใหม่มาก บางครั้งก็ได้โบกมือทักทายกันกับคนที่อยู่บนฝั่ง บ้างก็เห็นสุนัขตัวเล็กๆ วิ่งตามอยู่บนฝั่ง คอยส่งเสียงเห่าทักทาย ฉันคิดว่ามันเป็นความสุขในชีวิตอีกอย่างหนึ่งที่ในเมืองกรุงอันวุ่นวายนี้เหลืออยู่น้อยเต็มที
ล่องเรือมาเรื่อยๆ พี่คนขับเรือก็แวะให้ฉันขึ้นไปยืดเส้นยืดสายที่ วัดจำปา วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งในละแวกนี้ ฉันได้เข้าไปกราบนมัสการพระประธานที่ประดิษฐานอยู่ภายในโบสถ์เก่าแก่ของวัด ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา และรอบๆ โบสถ์ก็จะมีวิหารคต ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์
จากโบสถ์ ก็เดินมาบริเวณด้านหน้าวัด มาสักการะหลวงพ่อสัมฤทธิโชค พระพุทธลอยน้ำ และพระบรมสารีริกธาตุ ได้ทำบุญทำทานกันแล้ว พี่คนขับเรือก็มาเรียกให้ไปลงเรือต่อ จะพาไปต่อที่อีกจุดหนึ่งคือ บ้านขนมไทย ที่นอกจากจะมีขนมให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีผักผลไม้ของชาวสวนแถบน้ำให้เลือกขมเลือกชิมแบบสดๆ อีกด้วย
เสร็จสรรพจากบ้านขนมไทย ฉันก็กลับลงเรือ แล้วล่องกลับมาที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม นั่งเรือสบายๆ มีลมพัดพอเย็นชื่นใจ กลับมาถึงตลาดท้องไส้ก็เริ่มประท้วง แบบนี้ต้องหาของกินอร่อยๆ กระแทกปากกันอีกสักมื้อ ว่าแล้วก็เดินวนเวียนอยู่รอบตลาด เพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะลองชิมอะไรก่อน ด้วยเหตุที่มีของกินเยอะแยะลายตา
เท่าที่มองเห็นก็เริ่มจากของคาว จำพวกข้าวต่างๆ ก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย อาหารไทย-จีน-ฝรั่ง ปลาเผา ซีฟู้ด หมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปิ้ง ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมทองต่างๆ ขนมไทยโบราณ ข้าวเหนียวสารพัดหน้า ไอศกรีม และยังมีเครื่องดื่มนานาชนิดให้เลือกชิมดับกระหาย
อาหารมื้อนี้ฉันเลือกซื้อมาลองชิมหลากหลายเมนู ซึ่งก็ล้วนแต่ถูกปากทั้งสิ้น แต่ที่ฉันชอบที่สุดนอกเหนือจากรสชาติของอาหารแล้ว ก็คือบรรยากาศที่นั่งกินริมคลอง มีเรือหลากหลายประเภทล่องผ่านมา ได้เห็นคนเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ริมฝั่ง แล้วก็มีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของแต่ละครอบครัวที่มาพักผ่อนในวันหยุด นี่แหละที่เป็นวิถีชีวิตแบบมีความสุขริมคลองของชาวกรุง
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตลาดน้ำคลองลัดมะยม” ตั้งอยู่บน ถ.บางระมาด แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. การเดินทางหากมาจาก ถ.บรมราชชนนี (ฝั่งขาออก มุ่งหน้าพุทธมณฑล) ให้วิ่งตรงมาเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.กาญจนาภิเษก จากนั้นวิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นป้ายบอกทางเข้าตลาด ให้เลี้ยวเข้า ถ.บางระมาด (ทางลัดไป ซ.จรัญฯ 35) อยู่ตรงข้ามกับสมาคมชาวปักษ์ใต้ วิ่งตรงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะเห็นตลาดตั้งอยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามคลอง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 09.00-15.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลุงชวน โทร. 0-2422-4270, 08-9215-2659
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com