xs
xsm
sm
md
lg

นั่งมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเที่ยวทั่วเส้นทาง “ปากน้ำประแส”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุ่งโปรงทองอันงดงามตามชื่อ
พูดถึงอำเภอแกลง ในจังหวัดระยองแล้ว เชื่อว่าชื่อของสุนทรภู่คงจะลอยมาในความคิดของหลายๆ คนเป็นสิ่งแรก แต่แท้จริงแล้วอำเภอนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมาก โดยเฉพาะในตำบลปากน้ำประแส ตำบลเล็กๆ น่าอยู่แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย
ใบต้นโปรงสีเขียวอมเหลืองเมื่ออยู่กลางแจ้งทำให้ดูกลายเป็นสีทอง
มาว่ากันด้วยเรื่องชื่อตำบลกันก่อน บ้างก็ใช้คำว่า “ปากน้ำประแส” บ้างก็ใช้ว่า “ปากน้ำกระแส” แต่เมื่อเข้าไปค้นข้อมูลในเว็บไซต์ของเทศบาลตำบลปากน้ำประแสจึงได้ทราบว่า คำว่า "ประแส" เป็นคำที่ใช้เรียกกันมาตั้งแต่โบราณ แต่ยังหาที่มาและความหมายไม่ได้ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานก็มิได้เก็บคำนี้ไว้ เมื่อไม่สามารถหาความหมายของคำดังกล่าวได้ ทางราชการจึงเปลี่ยนชื่อจาก "ประแส" เป็น "กระแส" ซึ่งหมายถึงกระแสน้ำ และเปลี่ยนชื่อตำบลว่า "ตำบลปากน้ำกระแส" แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกชื่อ "ประแส" ตามที่เรียกกันมาแต่ดั้งเดิม
ทุ่งโปรงทองขึ้นเบียดกันแน่นกินบริเวณกว้าง
แต่ไม่ว่าจะเรียกด้วยชื่อใดก็ตาม ที่ปากน้ำประแสก็ยังคงความน่าสนใจของสถานที่ไว้รอให้นักท่องเที่ยวมาเยือน ซึ่งหากใครมาเที่ยวก็จะได้รับข้อมูลความรู้และความสนุกสนานจากเจ้าบ้านโดยตรง เพราะทางชุมชนปากน้ำประแสได้รวมกลุ่มกันจัดทำโฮมสเตย์มาตั้งแต่ปี 2549 นอกจากจะมีที่พักพร้อมแล้ว ก็ยังพร้อมที่จะพาชมสถานที่ท่องเที่ยวในตำบลปากน้ำประแสร์ โดยมีเจ้าของบ้านเป็นมัคคุเทศก์นำเที่ยว และใช้ยานพาหนะเป็น “รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง” พาหนะที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนปากน้ำประแส มาใช้แว้นซิ่งพานักท่องเที่ยวไปชมวิถีชีวิตและแหล่งท่องเที่ยวที่นี่
มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ยานพาหนะที่ใช้ในการท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนปากน้ำประแสนั้นมีหลากหลายด้วยกัน ด้วยความที่เป็นชุมชนปากแม่น้ำชายฝั่งทะเล สภาพพื้นที่แถบนี้จึงเป็นป่าชายเลนที่ชาวบ้านร่วมกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ไว้จนอุดมสมบูรณ์ถึงกว่า 6,000 ไร่ มีความหลากหลายของพืชพันธุ์ป่าชายเลน ทั้งต้นโกงกาง แสม ลำพู ฯลฯ แต่ที่พิเศษสุดต้องยกให้ “ทุ่งโปรงทอง” ทุ่งกว้างที่มีต้นโปรงขึ้นเบียดกันแน่นเต็มพื้นที่ ใบของต้นโปรงนั้นมีสีเขียวอมหลืองสดใส เมื่ออยู่รวมกันเป็นจำนวนมากจึงทำให้ท้องทุ่งแห่งนี้กลายเป็นสีทองสว่างไสว ยิ่งถ้าอยู่กลางแสงแดดแล้วก็จะยิ่งเพิ่มความงามขึ้นอีก สมกับชื่อที่ชาวบ้านเรียกว่าทุ่งโปรงทองจริงๆ
ป่าชายเลนหนาแน่นระหว่างทางเดินไปยังทุ่งโปรงทอง
ทางชุมชนปากน้ำประแสได้ทำสะพานไม้ไว้ให้เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน สะพานนี้มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทอดผ่านป่าชายเลน ทุ่งโปรงทอง และยาวต่อไปจนถึงชายทะเล มีจุดให้นั่งเล่นชมวิวริมทะเลกันด้วย และป่าชายเลนแห่งนี้นอกจากจะเป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเลหลากชนิดแล้ว ยังเป็นที่อยู่อาศัยของหิ่งห้อยจำนวนมากอีกด้วย สามารถล่องเรือชมแมลงเรือแสงนี้ได้ในช่วงค่ำ
ต้นตะเคียนต้นใหญ่ สัญลักษณ์ของวัดตะเคียนงาม
นอกจากนั้น สถานที่สำคัญของชุมชนก็คือ “วัดตะเคียนงาม” วัดสำคัญในชุมชน ที่มีความโดดเด่นตรงต้นตะเคียนใหญ่ อายุกว่า 500 ปี อายุขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงความสูงใหญ่ ต้นตะเคียนถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของวัดแห่งนี้ โดยในสมัยก่อนชาวประมงจะใช้ต้นตะเคียนใหญ่เป็นจุดเป้าหมายในการนำเรือกลับเข้าฝั่ง เรียกว่าใช้ต้นตะเคียนแทนเข็มทิศกันเลย อีกทั้งภายในวัดตะเคียนงามยังมีศาลเจ้าแม่ตะเคียนให้ชาวบ้านและผู้มาเยือนได้กราบสักการะกันอีกด้วย
เรือรบหลวงประแส
ที่ปากน้ำประแสบริเวณชายหาดประแส ยังมี “อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส” เป็นความภาคภูมิใจของชาวตำบลปากน้ำประแสที่ได้มีส่วนร่วมในการตั้งอนุสรณ์เรือหลวงประแส ไว้ ณ บริเวณปากน้ำประแส โดยเรือรบหลวงประแสได้เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลีเมื่อปี 2493 ในการรบครั้งนี้กองทัพเรือต้องสูญเสียเรือรบหลวงประแส (ลำที่ 1) ไป ต่อมาไทยจึงได้ติดต่อซื้อเรือจากประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 2 ลำ หนึ่งในนั้นคือเรือรบหลวงประแส ( ลำที่ 2 ) และได้นำออกไปปฏิบัติการในสงครามเกาหลีอีกครั้ง
ทิวทัศน์เมื่อมองจากเรือรบหลวง
ต่อมาเมื่อปลดประจำการจากกองทัพเรือ ทางเทศบาลตำบลปากน้ำประแสจึงขอรับเรือรบหลวงประแสมาตั้งเป็นอนุสรณ์ในปี 2546 เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของท้องถิ่น โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศของเรือรบ ไปลองชมห้องต่างๆ ภายในตัวเรือ ไปลองเล็งกระบอกปืนส่องข้าศึก รวมทั้งไปสัมผัสบรรยากาศของหาดประแสจากมุมสูงกันได้อีกด้วย งานนี้ใครมีลูกหลานก็ไม่ควรพลาด เด็กๆ น่าจะชอบกันมากทีเดียว
ศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่เคารพของชาวปากน้ำประแส
แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ “ศาลกรมหลวงชุมพรฯ” หรือ “เสด็จเตี่ย” ผู้ทรงเป็นที่เคารพนับถือของชาวเรือไม่ว่าภาคไหนๆ พระองค์ได้ชื่อว่าเป็น "พระบิดาแห่งทหารเรือ" และก่อนที่ชาวประมงจะออกเรือไปหาปลาก็จะต้องมากราบสักการะขอพรจากท่านให้อยู่รอดปลอดภัยและเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย

ได้ชมสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจของตำบลปากน้ำประแสกันไปแล้ว ก็น่าจะลองพักผ่อนที่โฮมสเตย์ของที่นี่ด้วย เพราะโฮมสเตย์แห่งนี้ได้รับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยเมื่อปี 2551 และปี 2554 จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความสะดวกสบายตามมารตรฐานโฮมสเตย์ เชื่อว่าใครที่ได้มาพักก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนปากน้ำประแสได้ลึกซึ้งกว่านักท่องเที่ยวคนอื่น และยังมีเวลาในการเดินเล่นชมชุมชน เช่น ได้ชมตลาดเช้าในตัวตำบล เห็นวิถีชีวิตและอาหารการกินในพื้นถิ่น อีกทั้งบรรยากาศของบ้านเรือนในตลาดก็ยังมีความคลาสสิคไม่น้อย ยังสามารถเห็นเรือนแถวไม้เก่าแก่สวยๆ หลายหลัง ถูกใจคนชอบบรรยากาศเก่าๆ ยิ่งนัก
บรรยากาศในชุมชนปากน้ำประแส
การท่องเที่ยวชุมชนอาจจะดูเป็นการท่องเที่ยวแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ก็จะได้รับความสนุกสนานและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของคนในชุมชน และที่สำคัญยังเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งเป็นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึงได้อย่างแท้จริง

*  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้ที่ เทศบาลตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โทร. 0 3866 1720 - 1 ต่อ 17 หรือสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักโฮมสเตย์ สอบถามได้ที่ คุณนรา ชาญวัตถาภรณ์ ประธานกลุ่มโฮมสเตย์ โทร. 08 1399 8756

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น