เพิ่งย่างเข้าเดือนมีนาคม แต่อากาศอบอ้าวราวกับมีใครไปหมุนปุ่มเพิ่มความร้อนของดวงอาทิตย์ ร้อนๆ อย่างนี้ “ตะลอนเที่ยว” ไม่คิดถึงอย่างอื่น นอกจากคิดอยากจะแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวทะเล กระโดดลงน้ำให้เย็นฉ่ำไปถึงทรวง ยิ่งถ้าเป็นทะเลสวยๆ น้ำใสๆ ด้วยแล้ว จะเล่นน้ำทั้งวันให้ตัวเปื่อยไปเลย
ทะเลกระบี่เป็นสถานที่ที่ “ตะลอนเที่ยว” นึกถึงเสมอเวลาอยากไปทะเล ก็หาดทรายขาวน้ำทะเลใสของกระบี่เขามีเสน่ห์ที่ใครได้ไปเยือนก็ต้องหลงรัก ในวันนี้จึงขอเสนอ “เที่ยวทะเลกระบี่ 4 เกาะ” มาเป็นทางเลือกของคนที่อยากไปดับร้อนกัน
แหวกว่ายน้ำทะเลใส ใน “ทะเลแหวก”
สำหรับเกาะแรกที่ไม่ใช่เพียงเกาะเดียว แต่เป็นสามเกาะ หรือเกาะสามเส้า ได้แก่ เกาะไก่ (เกาะปอดะนอก หรือเกาะด้ามขวาน) เกาะหม้อ และเกาะทับ เกาะเล็กๆ 3 เกาะที่มีสันทรายเชื่อมต่อถึงกัน และสามารถมองเห็นสันทรายได้ชัดเจนเวลาน้ำทะเลลด จนผู้ที่ได้เห็นต่างบอกว่า อะเมซิ่ง! และขนานนามว่าเป็น “ทะเลแหวก” ยกให้เป็นอันซีนไทยแลนด์ที่ไม่ควรพลาดชมแห่งทะเลกระบี่
ปรากฎการณ์ดังกล่าวจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติต้องอาศัยช่วงเวลาที่ถูกต้องในการชม นั่นก็คือช่วงก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ซึ่งจะเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้นและลงมากกว่าเวลาอื่น (ส่วนเวลาน้ำขึ้นน้ำลงต้องสอบถามจากคนขับเรือ) จึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ทะเลแหวก น้ำทะเลจะค่อยๆ ลดลงจนเห็นเป็นสันทรายที่เดินถึงกันได้ผุดขึ้นมาระหว่างเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ
ในสามเกาะนี้ เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือเกาะไก่ มีเอกลักษณ์ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะตรงที่มีชะง่อนหินสูงใหญ่มองไปคล้ายหัวไก่ ส่วนเกาะทับ เป็นเกาะเล็กๆ มีหาดทรายเฉพาะด้านใต้ เมื่อน้ำลดหาดทรายนี้จะเชื่อมต่อกับแนวสันทรายของเกาะไก่ กลายเป็นเส้นทางเดินกลางทะเลยาวกว่า 200 ม. ส่วนเกาะหม้อนั้นเป็นโขดหิน อยู่ห่างจากเกาะทับเพียง 70 ม. หากน้ำลดจะมีสันทรายเชื่อมต่อเช่นกัน
นอกจากจะได้เดินเล่นกลางทะเลบนเส้นทางของสันทรายแล้ว ชายหาดและน้ำทะเลที่บริเวณสามเกาะนี้ก็ยังใสแจ๋วน่าลงไปแหวกว่ายเป็นที่สุด จน “ตะลอนเที่ยว” อดใจไม่ได้ ขอเล่นน้ำกันที่เกาะแรกนี้ก่อนเลยก็แล้วกัน
หลงเสน่ห์ความใส ที่ “เกาะห้อง”
เกาะที่ไม่น่าพลาดในทะเลกระบี่อีกแห่งหนึ่งก็คือ “เกาะห้อง” หรือเกาะเหลาบิเละ ที่ได้ชื่อว่าเกาะห้องก็เนื่องจากบริเวณรอบหาดเป็นภูเขาหินชันล้อมรอบ มีช่องว่างตรงกลางคล้ายประตูทางเข้ากว้างประมาณ 10 เมตร ในอดีตเป็นที่หลบคลื่นหลบลมของเรือชาวประมงยามมีพายุ
ทุกวันนี้เรือประมงไม่ค่อยได้เข้ามาใช้บริการ จะมีก็แต่เรือที่พานักท่องเที่ยวมาชมความงามของเกาะห้อง เพราะหาดทรายที่นี่ขาวเนียนละเอียด น้ำทะเลก็ใสไล่เฉดสีจากเขียวอ่อนๆ ไปจนสีฟ้าครามสดใสชวนให้ลงไปแหวกว่าย สายน้ำเย็นฉ่ำสมใจ แถมยังมีฝูงปลามาว่ายน้ำเล่นเป็นเพื่อนไม่เหงาอีกต่างหาก
เกาะห้องไม่ได้มีดีเพียงแค่หาดสวยน้ำใสเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางพายเรือแคนูที่ได้รับความนิยมอีกด้วย โดยอีกด้านหนึ่งของเกาะมีลักษณะเป็นสระธรรมชาติล้อมด้วยภูเขาหินสูงชันแทบทุกด้าน ทำให้มีลักษณะเป็นเหมือนลากูน (Lagoon) หรือทะเลใน เราสามารถพายเรือเข้าไปชมความงามได้ในช่วงที่น้ำขึ้น และในช่วงน้ำลงนั้นสามารถเดินลุยน้ำเข้าไปชมดาวทะเล (หรือที่เรามักเรียกว่าปลาดาว) ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก
เกาะพีพี สวรรค์ของทะเลกระบี่
"เกาะพีพี" ได้ชื่อว่าเป็น "มรกตแห่งอันดามัน" แล้วอย่างนี้ “ตะลอนเที่ยว” จะพลาดได้อย่างไร เกาะพีพีนั้นเป็นหมู่เกาะที่มีหลายๆ เกาะรวมกัน เกาะหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวกันก็คือก็คือเกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล
“เกาะพีพีดอน” เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะพีพี มีเอกลักษณ์ตรงที่มีเวิ้งอ่าวคู่คอดกิ่วคล้ายพระจันทร์เสี้ยว 2 ดวงหันส่วนโค้งชนกันของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม เมื่อมองจากจุดชมวิวลงมาจะเห็นที่ราบแคบๆ ระหว่างอ่าวทั้งสองซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนบนเกาะพีพีดอน ใครที่อยากขึ้นไปชมวิวด้านบนก็สามารถเดินขึ้นไปชมได้จากอ่าวต้นไทร เส้นทางไม่ชันมากนักเป็นขั้นบันไดปูนสลับกับทางดิน ใช้เวลาเดิน 20-30 นาที แต่ก็คุ้มค่ากับความสวยงามที่จะได้เห็น โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
สำหรับสถานที่เล่นน้ำบนเกาะพีพีดอนนั้นก็มีหลายแห่ง เช่น “อ่าวต้นไทร” ที่เป็นทั้งท่าเรือ ศูนย์รวมที่พักและร้านค้า แต่ก็มีชายหาดขาวสะอาดยาวกว่า 2 ก.ม. น้ำทะเลใส “อ่าวโละดาลัม” เวิ้งอ่าวรูปเกือกม้าที่สามารถเล่นน้ำได้ และในช่วงน้ำลดหาดทรายจะกว้างออกไปจนเกือบถึงปากอ่าว นอกจากนั้นก็ยังมีอ่าวหยงกาเส็ม (อ่าวลิง) อ่าวรันตี อ่าวโละลานะ อ่าวโละบาเกา เป็นต้น
ส่วน “เกาะพีพีเล” นั้น มีลักษณะเป็นเขาหินปูนและหน้าผาสูงชัน แต่ก็มีอ่าวและหาดสวยๆ หลายแห่งให้ว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้น โดยอ่าวที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะพีพีเลต้องยกให้ “อ่าวมาหยา” ที่งดงามลือชื่อ ด้วยหาดทรายขาวเนียนละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋วน่าลงไปแหวกว่าย ภูเขาหินปูนโอบล้อม ทำให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกต้องเดินทางมาสัมผัสความงามนี้
ส่วน “อ่าวปิเละ” เป็นอีกหนึ่งอ่าวที่นักท่องเที่ยวไปเยือนไม่ขาด ด้วยลักษณะของอ่าวที่เป็นเป็นลากูน ถูกโอบล้อมด้วยหน้าผาสูงชันเกือบทุกด้าน น้ำทะเลภายในอ่าวจึงนิ่งเพราะไม่มีคลื่นลมและมีสีเขียวสดใสจนหลายคนให้ฉายาว่า “สระว่ายน้ำกลางทะเล” และสำหรับคนรักการดำน้ำตื้นต้องมาที่อ่าวโละซามะ อ่าวเล็กๆ ไม่มีชายหาด แต่มีโลกใต้ทะเลที่สวยงาม หรือจะเป็นเกาะบิดะใน และเกาะบิดะนอก ก็เป็นจุดดำน้ำชั้นดีอีกจุดหนึ่ง
หมู่เกาะพีพียังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่น่าสนใจ เหมาะแก่การดำน้ำตื้นอีกมาก เช่น เกาะไม้ไผ่ ที่มีหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส หินกลาง จุดที่ดำน้ำที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำดูปะการังแข็งและให้อาหารปลากัน
มุมสงบเป็นธรรมชาติ ที่ “เกาะลันตา”
ปิดท้ายกระบี่ 4 เกาะ กันที่ “เกาะลันตา” ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกเม็ดใหม่แห่งอันดามัน” เกาะลันตาเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความสงบเป็นธรรมชาติ เพราะคนบนเกาะยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม แถมยังเป็นชุมชนเก่าแก่มีประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี บนเกาะยังมีย่านเมืองเก่าเกาะลันตาซึ่งเป็นชุมชนบ้านชาวจีนโบราณ มีสถาปัตยกรรมแบบเก่านับ 100 ปีที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ “ศาลเสด็จเตี่ย” หรือพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ที่เคารพของชาวเกาะลันตาอีกด้วย
ในส่วนของท้องทะเลของหมู่เกาะลันตาก็มีเสน่ห์ไม่น้อย โดยมีชายหาดที่โดดเด่น เช่น “หาดคลองดาว” หาดโค้งยาวกว่า 3 ก.ม. ไม่ลาดชันสามารถลงเล่นน้ำได้ และยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม “หาดคลองโขง” หาดสงบท่ามกลางบรรยากาศของทิวมะพร้าวและแนวสน “หาดพระแอะ” หรือที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเรียกกันว่า “Long Beach” เนื่องจากเป็นแนวหาดยาวต่อเนื่องประมาณ 2-3 ก.ม. สำหรับหาดพระแอะนี้มีหาดทรายที่สามารถลงเล่นน้ำได้ในบางจุด และที่พักในหลายราคาให้เลือกพัก
นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว เกาะลันตายังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเช่น หาดคอกวาง หาดคลองนิน หาดบากันเตียง แหลมโตนด อ่าวไม้ไผ่ โดยแต่ละหาดต่างก็มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป แต่มีบรรยากาศของความสงบและสะอาดของชายหาดและท้องทะเล
และนี่ก็คือ 4 เกาะน่าเที่ยวแห่งทะเลกระบี่ ที่ “ตะลอนเที่ยว” เอามาแนะนำสำหรับใครกำลังมองๆ หาที่เที่ยวพักร้อนในช่วงนี้ แต่จริงๆ แล้วกระบี่ยังมีเกาะและชายหาดน่าเที่ยวอีกหลายแห่งให้เลือกเที่ยวได้ตามความพอใจ ไม่ว่าจะเลือกมาเกาะไหน ก็เชื่อว่าจะได้รับความประทับใจกลับไปไม่น้อยกว่ากัน