ผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ชินกับข่าวก่อการร้ายที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าคงส่งผลกระทบภายในระยะเวลาอันสั้น ขณะที่ผู้ประกอบการบางส่วนได้รับผลกระทบจากข่าวดังกล่าว เนื่องจากนักท่องเที่ยวหายไปเป็นจำนวนไม่น้อย
กรณีสถานทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ออกประกาศผ่านเว็บไซต์แจ้งเตือนชาวอเมริกันให้ใช้ความระมัดระวังสูงสุด และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังจุดที่นักท่องเที่ยวตะวันตกนิยมไปรวมตัวกันใน กทม. หลังมีรายงานว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายต่างชาติ มีแผนลงมือก่อวินาศกรรมโจมตีจุดท่องเที่ยวต่างๆ ใน กทม. ระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2555
จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวบนถนนข้าวสาร นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานฝ่ายเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บัดดี้กรุ๊ป โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ย่านถนนข้าวสาร เผยว่า หลังข่าวการก่อการร้ายแพร่ออกไป ล่าสุดยอดจองห้องพักของ บัดดี้ ลอดจ์ ที่นักท่องเที่ยวจองไว้ตั้งแต่วันที่ 16-19 ม.ค.55 ลดลงมากถึง 50% ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังถนนข้าวสารส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มที่ไม่บุ๊คกิ้งนาน จะจองล่วงหน้าแค่ 2-3 วัน ก่อนเดินทาง และจะไม่นิยมโทรศัพท์มาสอบถาม แต่จะหาข้อมูลจากข่าวสาร เมื่อเกิดข่าวเช่นนี้ขึ้น เขาจึงเกิดความไม่มั่นใจ ส่วนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแขกที่จองไว้ยังเข้าพักเต็ม 100% เพราะเดินทางมาแล้ว และยังไม่ได้รับข่าวสาร
ทั้งนี้เหล่าผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจท่องเที่ยวในถนนข้าวสารได้เรียกร้องให้ทางรัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ชี้แจงข้อมูลต่อข่าวดังกล่าวอย่างชัดเจน ว่าเมืองไทยสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากทางภาครัฐได้ยืนยันว่าสามารถจับตัวผู้ก่อการร้ายได้แล้ว เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการร้านค้า ขายของที่ระลึก ส่วนหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลว่า จากข่าวที่เกิดขึ้นคงเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆที่มีนักท่องเที่ยวน้อยลง เพราะเป็นข่าวที่เกิดขึ้นบ่อย จนนักท่องเที่ยวเกิดความเคยชิน แต่ยังคงวางใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำสุนัขตำรวจมาตรวจตราในพื้นที่
ด้านนักท่องเที่ยวชาวฮอลแลนด์คนหนึ่งที่มาเที่ยวบนถนนข้าวสาร กล่าวว่า ไม่มีความกังวลถึงข่าวที่เกิดขึ้น เขายังคงเดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆในประเทศไทย มีแผนว่าจะอยู่เที่ยวที่ไทยอีก 2 เดือน และค่อนข้างที่จะเชื่อมั่นในมาตรการการป้องกันของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิเสธการจะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการการป้องกัน เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นข่าวระดับชาติ จึงไม่มีใครกล้าเปิดเผยข้อมูล