สุโขทัย ราชธานีแห่งแรกของประเทศไทย เป็นนครที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน และยังเป็นเมืองมรดกโลก จากการได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ.2534 ภายใต้ชื่อ "เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร" ซึ่งประกอบไปด้วยอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
ด้วยความเป็นเมืองแห่งมรดกโลก รศ.ดร. จิรวัฒน์ พิระสันต์ อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เล็งเห็นความสำคัญในสิ่งนี้ ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทำการสืบค้นข้อมูลทางวัฒนธรรมของจังหวัดสุโขทัยพบว่า พื้นที่รอบอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีชุมชนอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 12 ชุมชน ล้วนแต่เป็นชุมชนที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยว จึงได้จัดโครงการเพื่อพัฒนาให้ชุมชนโดยรอบได้เชื่อมโยงกับอุทยานประวัติศาสตร์ ด้วยการจัดกิจกรรม “รอบรั้วเมืองพระร่วง สานสายใยแห่งวัฒนธรรมชุมชน สืบค้นประวัติศาสตร์โลก” เพื่อดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเที่ยวกันมากขึ้น
ชุมชน ทั้ง12 ชุมชนนี้ อยู่ใน ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง ซึ่งอยู่โดยรอบอุทยานประวัติศาสตร์ ล้วนแต่เป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรม ฝีมือหัตถกรรมและจิตกรรมไทยที่น่าสนใจ ได้แก่
ชุมชนบ้านใหม่ตระพังทอง เป็นชุมชนที่ผลิตเครื่องสังคโลก ทำเครื่องปั้นดินเผาเคลือบเนื้อละเอียด โดยเฉพาะเนื้อแตกลายงาสีเขียวไข่กา งานทุกชิ้นล้วนปั้นด้วยมือ นับเป็นหัตถกรรมเชิงศิลปะที่ทรงคุณค่า สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ไม่เพียงแต่อนุรักษ์ไว้ให้ชนรุ่นหลังได้ชื่นชมเท่านั้น ยังคงสร้างรายได้ที่ดีให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังมีการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ความสลับซับซ้อนของงานหล่อพระพุทธรูปเป็นประติมากรรมที่รวมเอาช่างสิบหมู่ไว้แทบทุกแขนง ทั้งช่างปั้น ช่างหล่อหรือช่างเททอง ช่างขัด และช่างลงรักปิดทอง
ชุมชนถัดไป คือ ชุมชนรามเล็ก ย่านแกะสลักพระพุทธรูปไม้มา กว่า 50 ปี งานหัตถกรรมประเภทนี้มีความงดงามทางศิลป์อยู่ไม่น้อย มีความยากในการขึ้นโครงและลงรายละเอียด จากผลงานที่โดดเด่นและสวยงาม จึงทำให้ในปัจจุบันเป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ รุ่งเรือง ศรีกระจ่าง ช่างแกะสลักพระพุทธรูป เผยว่า “ผมไม่เคยเรียนจากใคร ที่ทำเป็นเพราะซึมซับมาเอง เมื่อก่อนก็เริ่มจากการแกะสลักเป็นรูปสัตว์ต่างๆ จนเมื่อมีความชำนาญมากขึ้น จึงลองแกะสลักพระจากรูปถ่าย และทำได้ดีจนยึดเป็นอาชีพหลัก งานฝีมือประเภทนี้ นอกจากจะต้องประณีตเพื่อให้งานออกมาสวยแล้ว ยังต้องมีใจรักในงานด้วย แล้วตอนนี้กำลังจะพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กๆ ให้มีคนทำสืบต่อไป”
ชุมชนรามใหญ่ ย่านผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้ กรอบรูปและป้ายชื่อติดบ้าน และผลิตภัณฑ์ฉลุลายไม้
ผลิตเฟอร์นิเจอร์จากไม้ ที่ใช้ในครัวเรือน เช่น ตู้โชว์ เตียง ตู้เสื้อผ้า ที่ มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ส่วนใหญ่ทำเป็นทรงยุโรปแต่สลักด้วยลวดลายสุโขทัยโบราณ งานทุกชิ้นทำขึ้นจากมือล้วนๆ โดยใช้ไม้สักที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป สังเกตได้จากสีของไม้ที่เข้ม และเห็นลายไม้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีร้านทำกรอบรูปป้ายชื่อติดบ้าน และร้านผลิตภัณฑ์ฉลุลายไม้ เพื่อนำไปประดับบนฝาตู้กระจก ที่ล้วนเป็นงานที่ละเอียดสวยงาม
ที่ ชุมชนป่ามะม่วง หากใครเดินทางชมอุทยานจนหิว ก็สามารถแวะกินก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอร่อย ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือวังเก่า หรือถ้าเมื่อยก็แวะนวดแผนโบราณได้ที่บ้านนายณรงค์ เรืองศรี ซึ่งได้มีโอกาสเรียนการนวดแผนโบราณมาจาก หมอคอก ผู้อบรมอาชีพของเทศบาลตำบลเมืองเก่า เป็นผู้รู้เกี่ยวกับการนวดแผนโบราณเป็นอย่างดี ภายหลังนายณรงค์ จึงศึกษาข้อมูลด้วยตนเองจากหนังสือหมอจีน ค้นคว้าข้อมูลจากวัดโพธิ์ และได้นำความรู้นั้นมาประกอบเป็นอาชีพ จนมีชาวบ้านหมุนเวียนกันมาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแต่งบ้าน ก็สามารถมาสรรหาของแต่งบ้านสวยๆ ได้ที่ ชุมชนบ้านเหนือ นอกจากนี้ยังมีขนมพื้นเมืองหลากหลายชนิดให้เลือกชิม ทั้ง ขนมแตงโบราณ ขนมฟัก และข้าวแดกงา ซึ่งข้าวแดกงา เป็นขนมพื้นบ้านตั้งแต่สมัยโบราณ เหตุที่เรียกว่าข้าวแดกงานั้น เนื่องจากต้องนำข้าวเหนียวนึ่งสุกไปตำในครกใหญ่ แล้วใช้สากตำแรงๆ หรือแดกให้เหนียวและจับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำมาคลุกกับงาคั่ว โรยเกลือ และมะพร้าวเล็กน้อย จะได้รสชาติหอม เค็ม มัน โดยขนมแดกงามี 2 แบบ คือ นำมาปั้นเป็นทรงแบนๆ และปั้นเป็นทรงกลม มีไส้ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าวและถั่วลิสง
ส่วนผู้ที่รักการเลี้ยงนกสวยงาม หรือนกหัวจุก ที่ ชุมชนตระพังทองหลวง เป็นแหล่งขายกรงนกหัวจุก แม้ว่าจะเป็นเพียงอาชีพเสริม แต่ด้วยเนื้องานที่ละเอียดลออ ก็ทำให้มีผู้มาติดต่อขอซื้อมากมาย นอกจากนี้ ยังมีเครื่องประดับที่ได้รับการยอมรับให้เป็นสินค้าโอทอปมาตรฐาน คือ เครื่องประดับข้าวตอกพระร่วง ซึ่งเป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในจังหวัดสุโขทัย ภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำเม็ดข้าวตอกมาเจียระไน ทำเป็นเครื่องประดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อยคอ ต่างหู กำไลข้อมือ กรอบใส่พระ ด้วยการลงยาแบบลวดลายรูปทรงของสุโขทัย
ชุมชนลิไท เป็นย่านที่มีความเด่นในเรื่องการทำ เรือนไทยจำลอง เป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีความสวยงาม และบ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวต่างชาติจึงให้ความสนใจในการซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก และชาวบ้านยังเอาใจผู้บริโภคด้วยการเพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลินโดยให้มีการประกอบบ้านทรงไทยจำลองด้วยฝีมือตนเองอีกด้วย และนอกจากนี้ยังมีการทำเกวียน โดยได้รับการถ่ายทอดฝีมือมือช่างไม้มาจากบรรพบุรุษ คนในย่านนี้จึงยึดอาชีพทำเกวียนขายและมีรายได้ดี
ประสาท ใจรัก ช่างปูนปั้นเทวรูป ชาว ชุมชนบ้านใต้ เผยว่า “เขาได้รับการถ่ายทอดและแรงบัลดาลใจในการทำงานมาจากคุณปู่ ที่ทำงานด้านประติมากรรมประดับโบสถ์วิหารเก่า ถือเป็นการอนุรักษ์ศิลปะ และเทคนิควิธีการทำงานแบบโบราณไว้ เพื่อประโยชน์ในการสร้างสรรค์ต่อไป” และที่ชุมชนบ้านใต้แห่งนี้ ยังมีจิตรกรรมวาดลายไทยบนผืนผ้าใบ ไม่ว่าจะเป็น ลายกระหนก ลายสุโขทัย และลายประยุกต์อื่นๆ ซึ่งล้วนสร้างความตื่นตาให้แก่ผู้มาเยี่ยมชม
ชุมชนสุโขทัยนคร 1 เป็นจุดจำหน่ายเรือสำเภาจำลอง โดยออกแบบเรือ ในรูปแบบที่หลากหลาย ด้วยการใช้เศษไม้สักที่เหลือจากทำตู้ไม้ของชุมชนอื่นๆมาใช้ประดิษฐ์ การจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นการขายส่งไปยังร้ายขายปลีกทั่วๆไปในสุโขทัย มากกว่าขายหน้าร้าน และยังผลิตเฟอร์นิเจอร์โต๊ะไม้ ที่เกิดจากความไม่ตั้งใจของเกษตรกรคนหนึ่ง ซึ่งทำไว้ให้เด็กนั่งเล่นกันเท่านั้นแต่กลับมีคนมาขอซื้อหลายราย ภายหลังจึงได้เริ่มทำขาย และเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
ชุมชนสุโขทัยนคร 3 เป็นหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่งที่ขายของตกแต่งบ้าน คือ แกะสลักไม้รูปสัตว์ ไม้ที่ใช้ที่มาจาก ไม้สัก ไม้ขนุน ทำให้มีความคงทน โดยงานที่จะแกะสลักเป็นรูปสัตว์ได้แก่ นกสิรินธร ไก่ ปลาเทวดา ปลากัด ช้าง นกคุ้ม จาก ไม้สัก แบบยังไม่ลงสี
นอกจากนี้ ยังมีชุมชนแม่รำพัน ที่ผลิตสินค้าประเภทนี้ที่เป็นจุดจำหน่ายของตกแต่ง ทั้งภาพนกไม้ติดฝาผนัง และกระถางต้นไม้ทั้งแบบตั้งและแบบแขวนให้ได้เลือกซื้อกลับไปตกแต่งสวนได้ในราคาไม่แพง
ชุมชนศรีชุม หากใครที่ชอบสวมเสื้อจากผ้าโครเชท์ หรือจะซื้อนำกลับไปเป็นของฝาก ทีนี่มีความเด่นในเรื่องผลิตภัณฑ์ ถักเสื้อโครเชท์ ซึ่งขายอยู่บริเวณหน้าวัดศรีชุมมากว่า10 ปีแล้ว สินค้ามีให้เลือกซื้อหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น เสื้อ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าคลุมโต๊ะ ผ้าพันคอ และพวงกุญแจเล็ก
ที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวในหลากหลายรูปแบบ เช่น การเดินเที่ยว การขี่มอเตอร์ไบค์ท่องเมืองเก่า ปั่นจักรยานสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีการจัดภูมิทัศน์เส้นทางการท่องเที่ยวให้สวยงาม รวมถึงมีการบริการนำเที่ยวจากมัคคุเทศก์
และภายหลังกิจกรรม “รอบรั้วเมืองพระร่วง สานสายใยแห่งวัฒนธรรมชุมชน สืบค้นประวัติศาสตร์โลก” ก็ยังสามารถพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยวหลักๆ 12 จุด ด้วยการนั่งรถรางชมเมืองไปยังจุดต่างๆ ในย่านชุมชน ที่จะส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมของคนในชุมชนได้รับการพัฒนาและยกระดับให้ดีขึ้น
ทั้งหมดก็เพื่อจะพัฒนาการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันระหว่างอุทยานประวัติศาสตร์กับชุมโดยรอบ ให้เอื้อประโยชน์และพึ่งพากันเป็นการสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ให้กับคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวให้รับรู้ถึงคุณค่าและเห็นความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรม ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานมรดกทางสถาปัตยกรรมไทยให้คงอยู่และพัฒนาต่อไป