โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
กระแสตลาดน้ำยังคงมาแรงไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะช่วงนี้ตลาดหลายแห่งกลายเป็นตลาดน้ำอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว อีกทั้งหลายแห่งที่เป็นตลาดน้ำก็จมบาดาลไปเรียบร้อยกลายเป็นตลาดในน้ำของแท้กันไปเลย ส่วนตลาดน้ำที่จะพูดถึงนี้เป็นตลาดน้ำที่เพิ่งเปิดใหม่ ไม่เกี่ยวกับมหาอุทกภัยในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยในครั้งนี้ฉันเปลี่ยนบรรยากาศจากการลุยน้ำท่วมมาเดินเที่ยวกินช้อปที่ตลาดน้ำน้องใหม่ “ตลาดน้ำมหานคร”
“ตลาดน้ำมหานคร” ตั้งอยู่ที่ย่านลาดกระบัง เป็นตลาดน้ำน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเริ่มมาจากการขยายตัวของชุมชนเมืองในเขตลาดกระบังที่มาพร้อมกับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งนับเป็นประตูสู่ประเทศไทย ทำให้วิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่โดยรอบสนามบินได้มีการเปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชุมชนหัวตะเข้ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ เกิดความคึกคัก และตื่นตัวในการสร้างแหล่งชุมชนให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้แวะเวียนกันเข้ามาสร้างเงินหมุนเวียนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับชุมชนหัวตะเข้นั้น เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีความคุ้นเคยใกล้ชิดกับวิถีชีวิตริมน้ำมาอย่างยาวนาน เนื่องจากในอดีตจะใช้คลองประเวศน์บุรีรมย์เป็นเส้นทางในการสัญจรหลัก ระหว่างกรุงเทพฯกับหัวเมืองด้านทิศตะวันออก และบริเวณเขตลาดกระบัง ทางตลาดน้ำมหานครได้เล็งเห็นความสอดคล้องตรงจุดนี้ จึงได้พัฒนาที่ดินขนาด 38,000 ตารางเมตรให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีกลิ่นอายของบรรยากาศในยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ภายในตลาดแบ่งเป็นโซนต่างๆ 5 โซนด้วยกัน โดยแต่ละโซนจะมีชื่อตามชื่อของพระราชวังในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และจะแบ่งตามสีและสินค้าที่จำหน่าย โดยสถาปัตยกรรมเป็นแบบบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์สมัยรัตนโกสินทร์ ประตูบานเฟี้ยมสีสันสดใส
แต่ก่อนที่เราจะเดินเที่ยวชิมช้อป ฉันขอไปไหวพระกันที่ “หอพระ” เพื่อเป็นสิริมงคลตามแบบฉบับชาวพุทธกันก่อน โดยหอพระตั้งอยู่ด้านหน้าใกล้สะพานไม้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ด้วยกัน อาทิ พระพุทธชินราช พระสิวลี หลวงปู่ทวด
เมื่อไหว้พระเป็นที่สบายใจแล้วก็ได้เวลาเดินเที่ยวตลาดน้ำมหานครแห่งนี้กันเลย โดยเริ่มที่โซน “พระราชวังบ้านปืน” มีสัญลักษณ์เป็นสีเขียว ที่โซนนี้จะเป็นร้านจำพวกเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน งานศิลปะ งานไอเดีย ใครอยากช้อปของแต่งบ้าน เช่น แจกันดอกไม้มงคลตามวันเกิด เครื่องไม้แกะสลัก ของตกแต่งจากโลหะ สำริด ปลอกหมอน งานหัตถกรรม ก็สามารถมาหาดูหาซื้อกันได้
ต่อไปฉันเดินข้ามสะพานไม้ไปยังโซน “พระราชวังพญาไท” มีสัญลักษณ์เป็นสีม่วง โดยในโซนนี้ร้านค้าจะเน้นไปในทางเสื้อผ้า แฟชั่นทันสมัย เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า จิวเวอร์รี่ ของเก่าของสะสม ก็มีให้เลือกช้อปมากมาย นอกจากนี้ทางด้านริมคลองขุดยังมี “วังแก้ว” ซึ่งภายในเป็นที่สักการะบูรพระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีทั้ง 9 รัชกาล
ส่วนโซน “พระราชวังบางปะอิน” มีสัญลักษณ์เป็นสีเหลือง ในโซนนี้จะเน้นเป็นถนนสายกาแฟ และธุรกิจบริการ เช่น นวดแผนไทย ใครเมื่อยหรือเหนื่อยล้าก้มาพักนวดพักจิบการแฟกันได้ และที่โซนนี้มีสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่มองแว๊บเดียวก็จะรู้ในทันที่ว่าเป็นโซนพระราชวังบางปะอิน นั้นก็คือ หอวิฑูรทัศนาจำลอง หากใครเคยไปพระราชวังบางปะอินจะต้องเห็นหอนี้ ซึ่งเป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดงในอดีตใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง
ใกล้ๆกันเป็นโซน “พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์” มีสัญลักษณ์เป็นสีส้ม ในโซนนี้ฉันชอบมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นโซนของอาหาร เครื่องดื่ม เช่น กุ้งเผา อาหารทะเล ก๋วยเตี๋ยวเรือ เคบับ ไก่กอและ ส้มตำ ไอติมผัด น้ำหวานเย็นต่างๆ ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหารมากมายหลายเมนู และแพร้านอาหารแล้ว ยังมีโต๊ะให้นั่งกินกันแบบสบายชิลล์ๆริมน้ำคลองประเวศน์บุรีรมย์และคลองหัวตะเข้เคล้าลมที่พัดโชยมาเย็นๆ เพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
นอกจากนี้หากคลองสายนี้เข้าสู่ภาวะปกติ น้ำไม่เชี่ยวแรง จะมีเรือพายขายข้าวของ ผลไม้ และอาหารการกิน ให้เราได้เลือกซื้อเลือกกินให้สมกับที่เป็นตลาดน้ำในยุครัตนโกสินทร์อีกด้วย
โซนสุดท้ายได้แก่โซน “พระราชวังสนามจันทร์” มีสัญลักษณ์เป็นสีชมพู โซนนี้จัดเป็นศูนย์รวมของฝาก ของที่ระลึกที่มีมากมายครบทุกภาคของไทยเราเลยก็ว่าได้ มาที่นี่เดียวครบครัน และภายในตลาดน้ำมหานครแห่งนี้ยังมีบริการนั่งเรือพายชมตลาดแห่งนี้ในราคาคนละ 30 บาทอีกด้วย
สุดท้ายเป็นโซนของ “ลานวัฒนธรรม” ซึ่งมุ่งให้เป็นศูนย์กลางการแสดงเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมไทย ตลอดจนเป็นเวทีกิจกรรมทีมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและกิจกรรมการกุศล สำหรับการแสดงที่มีในโซนนี้ เช่น รำ 4 ภาค, ลิเก, การประกวดร้องเพลง, เวทีรำวงชาวบ้านในบรรยากาศย้อนยุค, การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างๆ เป็นต้น
สำหรับตัวฉันแล้ว ขอแนะนำนิดหนึ่งว่า ถ้าไปช่วงเย็นๆแดดร่มลมตกแล้วนั่งกินอาหารจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ริมน้ำปะทะลมหนาวที่โชยมาอ่อนๆจะได้บรรยากาศมากๆ ใครว่างวันไหนก็ไปเดินเที่ยวชิมช้อปที่ "ตลาดมหานคร" กันได้เลยไม่ต้องรอเสาร์-อาทิตย์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตลาดน้ำมหานคร” ตั้งอยู่ที่ริมถนนลาดกระบัง ติดสะพานข้ามคลองจระเข้น้อย กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร. 08-1492-4075, 08-4700-8883, 08-1142-1836
กระแสตลาดน้ำยังคงมาแรงไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะช่วงนี้ตลาดหลายแห่งกลายเป็นตลาดน้ำอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว อีกทั้งหลายแห่งที่เป็นตลาดน้ำก็จมบาดาลไปเรียบร้อยกลายเป็นตลาดในน้ำของแท้กันไปเลย ส่วนตลาดน้ำที่จะพูดถึงนี้เป็นตลาดน้ำที่เพิ่งเปิดใหม่ ไม่เกี่ยวกับมหาอุทกภัยในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยในครั้งนี้ฉันเปลี่ยนบรรยากาศจากการลุยน้ำท่วมมาเดินเที่ยวกินช้อปที่ตลาดน้ำน้องใหม่ “ตลาดน้ำมหานคร”
“ตลาดน้ำมหานคร” ตั้งอยู่ที่ย่านลาดกระบัง เป็นตลาดน้ำน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเริ่มมาจากการขยายตัวของชุมชนเมืองในเขตลาดกระบังที่มาพร้อมกับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งนับเป็นประตูสู่ประเทศไทย ทำให้วิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่โดยรอบสนามบินได้มีการเปลี่ยนแปลงไป
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณชุมชนหัวตะเข้ ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ เกิดความคึกคัก และตื่นตัวในการสร้างแหล่งชุมชนให้เกิดสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้แวะเวียนกันเข้ามาสร้างเงินหมุนเวียนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับชุมชนหัวตะเข้นั้น เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีความคุ้นเคยใกล้ชิดกับวิถีชีวิตริมน้ำมาอย่างยาวนาน เนื่องจากในอดีตจะใช้คลองประเวศน์บุรีรมย์เป็นเส้นทางในการสัญจรหลัก ระหว่างกรุงเทพฯกับหัวเมืองด้านทิศตะวันออก และบริเวณเขตลาดกระบัง ทางตลาดน้ำมหานครได้เล็งเห็นความสอดคล้องตรงจุดนี้ จึงได้พัฒนาที่ดินขนาด 38,000 ตารางเมตรให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีกลิ่นอายของบรรยากาศในยุคสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ภายในตลาดแบ่งเป็นโซนต่างๆ 5 โซนด้วยกัน โดยแต่ละโซนจะมีชื่อตามชื่อของพระราชวังในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และจะแบ่งตามสีและสินค้าที่จำหน่าย โดยสถาปัตยกรรมเป็นแบบบ้านไม้ชั้นเดียวสไตล์สมัยรัตนโกสินทร์ ประตูบานเฟี้ยมสีสันสดใส
แต่ก่อนที่เราจะเดินเที่ยวชิมช้อป ฉันขอไปไหวพระกันที่ “หอพระ” เพื่อเป็นสิริมงคลตามแบบฉบับชาวพุทธกันก่อน โดยหอพระตั้งอยู่ด้านหน้าใกล้สะพานไม้ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ด้วยกัน อาทิ พระพุทธชินราช พระสิวลี หลวงปู่ทวด
เมื่อไหว้พระเป็นที่สบายใจแล้วก็ได้เวลาเดินเที่ยวตลาดน้ำมหานครแห่งนี้กันเลย โดยเริ่มที่โซน “พระราชวังบ้านปืน” มีสัญลักษณ์เป็นสีเขียว ที่โซนนี้จะเป็นร้านจำพวกเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน งานศิลปะ งานไอเดีย ใครอยากช้อปของแต่งบ้าน เช่น แจกันดอกไม้มงคลตามวันเกิด เครื่องไม้แกะสลัก ของตกแต่งจากโลหะ สำริด ปลอกหมอน งานหัตถกรรม ก็สามารถมาหาดูหาซื้อกันได้
ต่อไปฉันเดินข้ามสะพานไม้ไปยังโซน “พระราชวังพญาไท” มีสัญลักษณ์เป็นสีม่วง โดยในโซนนี้ร้านค้าจะเน้นไปในทางเสื้อผ้า แฟชั่นทันสมัย เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า จิวเวอร์รี่ ของเก่าของสะสม ก็มีให้เลือกช้อปมากมาย นอกจากนี้ทางด้านริมคลองขุดยังมี “วังแก้ว” ซึ่งภายในเป็นที่สักการะบูรพระมหากษัตริย์ไทยในราชวงศ์จักรีทั้ง 9 รัชกาล
ส่วนโซน “พระราชวังบางปะอิน” มีสัญลักษณ์เป็นสีเหลือง ในโซนนี้จะเน้นเป็นถนนสายกาแฟ และธุรกิจบริการ เช่น นวดแผนไทย ใครเมื่อยหรือเหนื่อยล้าก้มาพักนวดพักจิบการแฟกันได้ และที่โซนนี้มีสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่มองแว๊บเดียวก็จะรู้ในทันที่ว่าเป็นโซนพระราชวังบางปะอิน นั้นก็คือ หอวิฑูรทัศนาจำลอง หากใครเคยไปพระราชวังบางปะอินจะต้องเห็นหอนี้ ซึ่งเป็นหอสูง 3 ชั้น ทาสีเหลืองสลับแดงในอดีตใช้เป็นที่ทอดพระเนตรโขลงช้างป่า และภูมิประเทศโดยรอบพระราชวัง
ใกล้ๆกันเป็นโซน “พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์” มีสัญลักษณ์เป็นสีส้ม ในโซนนี้ฉันชอบมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นโซนของอาหาร เครื่องดื่ม เช่น กุ้งเผา อาหารทะเล ก๋วยเตี๋ยวเรือ เคบับ ไก่กอและ ส้มตำ ไอติมผัด น้ำหวานเย็นต่างๆ ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหารมากมายหลายเมนู และแพร้านอาหารแล้ว ยังมีโต๊ะให้นั่งกินกันแบบสบายชิลล์ๆริมน้ำคลองประเวศน์บุรีรมย์และคลองหัวตะเข้เคล้าลมที่พัดโชยมาเย็นๆ เพลิดเพลินอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว
นอกจากนี้หากคลองสายนี้เข้าสู่ภาวะปกติ น้ำไม่เชี่ยวแรง จะมีเรือพายขายข้าวของ ผลไม้ และอาหารการกิน ให้เราได้เลือกซื้อเลือกกินให้สมกับที่เป็นตลาดน้ำในยุครัตนโกสินทร์อีกด้วย
โซนสุดท้ายได้แก่โซน “พระราชวังสนามจันทร์” มีสัญลักษณ์เป็นสีชมพู โซนนี้จัดเป็นศูนย์รวมของฝาก ของที่ระลึกที่มีมากมายครบทุกภาคของไทยเราเลยก็ว่าได้ มาที่นี่เดียวครบครัน และภายในตลาดน้ำมหานครแห่งนี้ยังมีบริการนั่งเรือพายชมตลาดแห่งนี้ในราคาคนละ 30 บาทอีกด้วย
สุดท้ายเป็นโซนของ “ลานวัฒนธรรม” ซึ่งมุ่งให้เป็นศูนย์กลางการแสดงเอกลักษณ์ของศิลปวัฒนธรรมไทย ตลอดจนเป็นเวทีกิจกรรมทีมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนและกิจกรรมการกุศล สำหรับการแสดงที่มีในโซนนี้ เช่น รำ 4 ภาค, ลิเก, การประกวดร้องเพลง, เวทีรำวงชาวบ้านในบรรยากาศย้อนยุค, การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินต่างๆ เป็นต้น
สำหรับตัวฉันแล้ว ขอแนะนำนิดหนึ่งว่า ถ้าไปช่วงเย็นๆแดดร่มลมตกแล้วนั่งกินอาหารจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ริมน้ำปะทะลมหนาวที่โชยมาอ่อนๆจะได้บรรยากาศมากๆ ใครว่างวันไหนก็ไปเดินเที่ยวชิมช้อปที่ "ตลาดมหานคร" กันได้เลยไม่ต้องรอเสาร์-อาทิตย์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ตลาดน้ำมหานคร” ตั้งอยู่ที่ริมถนนลาดกระบัง ติดสะพานข้ามคลองจระเข้น้อย กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-24.00 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร. 08-1492-4075, 08-4700-8883, 08-1142-1836