กินก๋วยเตี๋ยวเรือมาก็หลายที ถ้าไม่เจอเรือไม้จอดเทียบท่าอยู่หน้าร้าน ก็หนีไม่พ้นถ้วยชามหัวแหลมท้ายแหลมเสิร์ฟให้เห็นเป็นสัญลักษณ์ หรือคนขายจะหมดมุกกันแล้ว? หลายคนคงคิดแบบเดียวกัน แต่วันนี้มีคนคิดต่างและยินดีที่จะพาคออาหารเส้นขนของออกจากเรือลำเดิมๆ แล้วย้ายสำมะโนครัวไปลิ้มชิมรสกันในหลุมแทน!
ยังไม่ต้องถึงขนาดเตรียมเสียมหรือจอบเพื่อขุดดินสร้างหลุมใดๆ ทั้งนั้น เพราะหลุมที่เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้อยากชักชวนให้เหล่าลูกค้าได้ลงไปชิม ไม่ใช่พื้นที่ใต้ดินแต่อย่างใด แต่คือหลุมแห่งความอร่อยที่อยู่บนโต๊ะอาหารของร้าน “เตี๋ยวเรือหลุม” นี่เอง
“ก็คิดไปเรื่อยค่ะ พยายามหาสไตล์ของตัวเองให้ชัด เพราะถ้าเน้นขายแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือก็ยังมีร้านอีกเยอะแยะ หากินที่ไหนก็ได้ คิดว่าเราต้องทำให้คนจำได้ก่อน ก็เลยพยายามหาจุดสนใจ ตอนแรกจะใช้จานแบบหลุมเสิร์ฟอาหารไปให้ลูกค้า แต่คิดไปคิดมากลัวจะกินลำบากเกินไป แถมแต่ละช่องก็ใส่ได้นิดเดียว เลยเปลี่ยนความคิด ทำเป็นหลุมใส่แก้วที่โต๊ะดีกว่า แต่ก็เป็นปัญหาอีกเพราะแก้วมีหลายขนาด ควบคุมยาก
สุดท้ายเลยมาลงตัวที่หลุมใส่ชามค่ะ ซึ่งมันก็สอดคล้องกับความคิดแรกๆ ที่เราตั้งเอาไว้ คือเราอยากให้ลูกค้าที่มานั่งกินรู้สึกสบาย มีพื้นที่เป็นของตัวเอง การเจาะหลุมใส่ชามเอาไว้ มันสามารถฟิกซ์ที่ฟิกซ์จำนวนคนได้ ทำให้คนที่มานั่งกินไม่ต้องเบียดเสียดกันให้เสียอารมณ์” ครูจิ๋ม ผาสุข ปลัดรักษา เจ้าของร้านสาขาล่าสุด เล่าที่มาของไอเดียสุดเก๋ให้ฟัง
คนที่เดินทางผ่านไปมาแถวสยามสแควร์ สาธร และถนนนวมินทร์ อาจคุ้นตากับโต๊ะเหล็กมีหลุมแบบเดียวกันนี้อยู่บ้าง เพราะร้านนี้เขาโด่งดังจนต้องขยายสาขาไปทั่วกรุงเทพฯ เพื่อตอบรับความต้องการของนักชิม และล่าสุดเพิ่มสาขาที่ 4 บนรามอินทรา 40 เอาใจคนบ้านไกล
ลูกค้าหน้าใหม่ที่เพิ่งเดินทางไปชิมเป็นครั้งแรกอย่าเพิ่งสับสนว่าเข้าผิดร้าน เพราะมองเผินๆ แล้วสภาพโต๊ะคล้ายร้านปิ้งย่างที่เจาะรูไว้ให้ใส่เตาไฟ แต่แท้จริงนั้นเกิดจากการออกแบบและสั่งทำมาเป็นพิเศษเฉพาะใช้ในร้าน พ่อค้าหัวใสรายไหนเห็นแล้วคิดทำตาม ขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่า! เพราะครูจิ๋มกระซิบมาว่าทางร้านจัดการจดสิทธิบัตรเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ไม่ใช่แค่โต๊ะเหล็กรูพรุน เอกลักษณ์ของร้านเท่านั้นที่มีลิขสิทธิ์ติดตัว เมนูอาหารภายในร้านก็มีเหมือนกัน ตามธรรมเนียมแล้วผู้เขียนควรต้องแนะนำก๋วยเตี๋ยวเรือ เมนูหลักของร้านก่อน แต่ความแปลกของ “ขนมจีนต้มยำไก่ขมิ้น” ทำให้อดใจไม่ไหว ขอพูดถึงเป็นอย่างแรก
เมนูติดสิทธิบัตรจานนี้เกิดขึ้นจากความซนระคนสร้างสรรค์ของแม่ครัวมือดี หยิบเอาวัตถุดิบหลักๆ ของ “ขนมจีนน้ำเงี้ยว” และ “ขนมจีนแกงใต้” มาผสมกัน จากนั้นเพิ่มรสต้มยำเข้าไปอีกนิด จนออกมาเป็นเมนูใหม่อย่างที่เห็น ฟังแค่ที่มาที่ไปก็น่าสนใจแล้ว เมื่อได้ลองชิมจึงพบว่ารสชาติสมราคาคุย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าความเปรี้ยวของน้ำเงี้ยวถิ่นเหนือจะมาบรรจบกับรสเผ็ดและเครื่องขมิ้นของแดนใต้ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะขนมจีนที่แช่ในน้ำแกงนานจนเนื้อในชุ่มรสจัดจ้านไปทั่ว ช่วยให้ทุกคำที่ป้อนเข้าปาก อร่อยไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
“เตี๋ยวหมูน้ำตก” เมนูเดียวเท่านั้นที่พนักงานจะเสิร์ฟให้ลูกค้ากินในหลุม จึงเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะถ้าไม่ลองกินก๋วยเตี๋ยวในหลุมดูก็เหมือนมาไม่ถึงที่ เมื่อสั่งเมนูยอดนิยมมาปุ๊บจึงเริ่มพิจารณาหน้าตาของอาหารเป็นอย่างแรก พูดตรงๆ ว่าแทบไม่มีอะไรต่างไปจากก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าอื่นๆ ตามท้องตลาดเลย กระทั่งลองชิมส่วนประกอบยิบย่อยจึงได้รู้ว่าต่างจากที่คิดไว้มากทีเดียว
เริ่มจากเนื้อหมูก่อน ถึงหน้าตาจะไม่เหมือนหมูตุ๋นแต่รสสัมผัสแทบไม่ต่างกัน หันไปถามที่มาจึงได้คำตอบว่าร้านนี้คัดเฉพาะเนื้อส่วนสะโพกเท่านั้น จึงได้ชิ้นหมูเนื้อนิ่มเคี้ยวเพลินมาประกอบในชาม ส่วนน้ำซุปก็ไม่เหลือกลิ่นคาวของเลือดให้ตะขิดตะขวงใจ คนทำขยำใบตะไคร้ลงไปในผ้ากรอง จึงช่วยกำจัดกลิ่นได้อย่างหมดจด นอกจากนี้รสชาติจัดจ้านก็เป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญที่ต้องยกนิ้วให้ คนที่ติดนิสัยปรุงไว้ก่อนค่อยชิม ถ้ามาเป็นลูกค้าร้านนี้อยากให้ลองชิมก่อน แล้วจะรู้ว่าเอาเวลาในการปรุงมาใช้สั่งชามต่อไปจะดีกว่า
อีกหนึ่งความเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือกากหมูของร้านนี้ เดิมทีคิดว่าเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ในเมนูอื่นๆ ไม่สลักสำคัญอะไร ที่ไหนได้กลับดึงดูดให้หยิบมาเคี้ยวเล่นกันไม่หยุดปาก กินจนหมดก่อนส่วนประกอบหลักของเมนูด้วยซ้ำ เมื่อเห็นผู้ชิมติดอกติดใจเป็นพิเศษ เจ้าของร้านจึงให้ข้อมูลว่ามีลูกค้าเป็นแบบเดียวกันมาหลายต่อหลายรายแล้ว คือถึงแม้จะสั่งเมนูที่ไม่มีกากหมูโรยหน้ามาด้วย ก็มักขอกากหมูเป็นเครื่องเคียงเพิ่มเติม
อร่อยเด็ดขนาดนี้มีเคล็ดลับง่ายๆ คือความสดใหม่ ทอดขายกันวันต่อวัน จึงทำให้กากหมูของที่นี่ เวลาเคี้ยวไปมีแต่กลิ่นหอมของเนื้อหมูลอยขึ้นมาเตะจมูก ไม่มีกลิ่นหืนของน้ำมันมากวนใจแม้แต่นิดเดียว ที่สำคัญคือรสสัมผัสกรอบนอกนุ่มในที่ลงตัว แรกเคี้ยวความกรุบจะกระทบฟันให้พอรู้สึก แต่เมื่อกัดผ่านเนื้อในก็ยังคงความนิ่มไว้อย่างดี คนที่เข็ดกับรสสัมผัสแห้งๆ ของหมูที่ผ่านการอุ่นมาหลายครั้งจนน้ำเหือด แนะนำให้ลองเลือกสักเมนูที่มีกากหมูโรยหน้า รับรองจะติดใจ โดยเฉพาะ “ข้าวผัดปลาทูกากหมู” จานนี้ขนกันมาล้นจานทั้งเนื้อปลาทั้งกากหมูจริงๆ
“ลวกจิ้มแจ่ว” ก็เป็นอีกจานที่ขาดไม่ได้สำหรับการกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ลูกชิ้นของร้านนี้กินแล้วรู้เลยว่ามีส่วนผสมของเนื้อมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนเพราะแป้งลูกชิ้น ที่สำคัญเสิร์ฟมาพร้อมกับตับและผักลวกท้ายจาน จึงเป็นเมนูแนะนำสำหรับเหล่าคนรักสุขภาพได้เลย ส่วนแจ่วถ้วยเล็กๆ ก็ต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วไป เพราะร้านนี้เขาเน้นรสชาติคนเมือง จึงให้รสหวานปนเปรี้ยว ไม่เผ็ดจนแสบลิ้นเหมือนกับรสแจ่วของทางพื้นเมือง
ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่น่าลิ้มลอง แวะมาร้านนี้แต่ไม่อยากกินก๋วยเตี๋ยวก็สามารถสั่งอย่างอื่นได้ อย่าง “ข้าวแฮมไข่นมสด” ของที่นี่ก็ไม่แพ้ใคร แฮมที่แปะมาบนไข่ชิมปราดเดียวก็รู้ว่าใช้ของดีเพราะเนื้อแฮมทั้งหนาและแน่น ส่วนตัวไข่ก็ดูพองฟูน่ากิน แถมยังเนื้อนุ่มเพราะใช้นมสดเป็นส่วนประกอบด้วย
เมนูทานเล่นก็มีเหมือนกัน มีให้เลือกทั้ง “ปีกไก่แช่น้ำปลาทอด” และ “เกี๊ยวห่อชีส” ส่วนเครื่องดื่มขอนำเสนอ “โอเลี้ยง” ซึ่งใช้เมล็ดกาแฟคั่วสดจากภาคใต้มาทำ คนที่ดื่มประจำจะรู้ว่ากลิ่นหอมของมันต่างจากโอเลี้ยงน้ำใสๆ ทั่วไปอย่างไร ส่วนเมนูอื่นที่ไม่สามารถแนะนำให้หมดภายในคอลัมน์นี้ได้ ทางร้านขอเชิญให้มามอบคำติชมกันเอาเอง
ข่าวโดย Manager Lite/ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์
ภาพโดย พลภัทร วรรณดี
เตี๋ยวเรือหลุม
สาขาล่าสุดตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา 40 หากมาทางเลียบทางด่วนให้ลงตรงรามอินทรา เข้าซอยนวลจันทน์ จะเจอถนนรามอินทรา 40 แยก 8 ร้านอยู่ทางขวามือ
ส่วนอีก 3 สาขาตั้งอยู่บนสยามสแคร์ซอย 6, สาทร-นราธิวาส และถนนนวมินทร์
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 -20.00 น.
เบอร์ติดต่อสาขารามอินทรา 02-944-6980