พอลมหนาวพัดมา เชื่อว่าใครหลายๆ คนคงอยากจะขึ้นเหนือไปสัมผัสอากาศที่เย็นกายสบายใจกันเป็นแน่ และจังหวัดเชียงใหม่ก็ดูเหมือนจะเป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมาเที่ยวสัมผัสลมหนาวกัน เพราะว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามมากมายให้ได้เลือกไปเที่ยวกันตามใจปรารถนา
ถ้าหากใครมีโปรแกรมจะขึ้นเหนือมาเที่ยวจ.เชียงใหม่ และกำลังหาสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจ ขอนำเสนอให้มาเที่ยววัดอันเงียบสงบและงดงาม ที่มีชื่อว่า “วัดต้นเกว๋น” ตั้งอยู่ที่ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เหตุที่ชื่อวัดต้นเกว๋น เพราะว่าตั้งตามชื่อที่ชาวเหนือเรียกว่า มะเกว๋นหรือต้นตะขบป่า เนื่องจากสมัยก่อนรอบวัดมีป่าต้นมะเกว๋น แต่ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดอินทราวาส” ซึ่งตั้งตามชื่อเจ้าอาวาส คือครูบาอินทร์ ผู้สร้างวัดนี้ และจากหลักฐานวัดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2399 ถึง ปีพ.ศ. 2412 สมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ เป็นเจ้าหลวงปกครองเมืองเชียงใหม่
วัดต้นเกว๋นเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญในอดีตเพราะเป็นที่พักขบวนพระบรมธาตุศรีจอมทอง จากอ.จอมทอง มาที่เชียงใหม่ ในอดีตเป็นประเพณีที่เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ มีการสรงน้ำพระธาตุ คือจากวัดพระธาตุจอมทองมาก็เดินทางมาด้วยขบวนช้าง ขบวนม้า แล้วแวะมาที่วัดต้นเกว๋น ให้ประชาชนแถวนี้สรงน้ำพระธาตุศรีจอมทอง หลังจากนั้นก็อัญเชิญไปที่วัดสวนดอก 3 วัน 7 วัน แล้วก็ขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพ เป็นประจำทุกปี เป็นเรื่องของเจ้านายฝ่ายเหนือในอดีต
วัดต้นเกว๋นถือว่าเป็นวัดที่สมบูรณ์ที่สุด และเป็นวัดที่งามที่สุดในประเทศไทย ซึ่งได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น ของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพฯ เมื่อปี 2532 ซึ่งวัดต้นเกว๋นมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่แสดงออกถึงแบบแผนทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมล้านนาที่งดงามและทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง โครงสร้างและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมของวัดจะใช้ไม้แกะสลัก โดยนายช่างที่มีความสามารถและชำนาญการแกะสลักในสมัยนั้น
ภายในวัดต้นเกว๋น มีสิ่งที่น่าสนใจ มีวิหารวัดต้นเกว๋น ที่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณที่มีความงดงามเป็นยิ่งนัก จนได้รับการนำไปเป็นต้นแบบของหอคำหลวงในงานพืชสวนโลก วิหารหลังนี้มีความสวยงามด้านงานศิลปกรรมเป็นอย่างมาก หน้าบันวิหารประดับตกแต่งด้วยกระจกแก้วสีแบบฝาตาผ้าหรือฝาปะกน โก่งคิ้วจำหลักไม้ลายเครือเถาสอดสลับรูปเศียรนาค มีลายปูนปั้นรูปเทพนมและดอกไม้อยู่หัวเสา ด้านหน้าบันปีกนกแกะสลักเป็นเศียรนาคในลายเครือเถาผสมกนก ตีเป็นช่องตารางเพื่อระบายอากาศ ปั้นลมและหางหงส์แกะรูปมกรคายนาคอย่างงดงาม คันทวยหูช้างจำหลักไม้เป็นรูปกินนรฟ้อนรำ
ด้านในวิหารมีพระประธานประดิษฐานอยู่บนชุกชีเป็นลายรูปปั้นดอกกูด ฝาหนังด้านหลังพระประธานเป็นซุ้มและมีพระพิมพ์โลหะติดฝาผนัง ซึ่งหล่อเป็นองค์ๆ เอาติดฝาผนังเป็นรูปคล้ายซุ้ม พระพิมพ์มี 2 แบบคือ แบบใบโพธิ์ปางมารวิชัยขนาด 2x4 ซม. และแบบนาคปรก ขนาด 3x5 ซม. แล้วยังมีภาพจิตกรรมฝาผนังที่วาดด้วยสีน้ำทซึ่งหลงเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และด้านนอกวิหารยังมีศาลารายในเขตพุทธาวาส
มีมณฑปจัตุรมุข เป็นมณฑปจัตุรมุขแบบพื้นเมืองล้านนาซึ่งพบเพียงหลังเดียวเท่านั้นในภาคเหนือ ลักษณะเป็นศาลามีมุขยื่นออกมาทั้งสี่ด้าน ส่วนกลางของศาลามีจั่วซ้อนอยู่สองชั้น มุงด้วยกระเบื้องดินเผาที่เรียกว่ากระเบื้องดินขอ ส่วนช่อฟ้าของหลังคามีความพิเศษตรงที่ช่างโบราณจะออกแบบให้มีความโค้งงอซึ่งนกสามารถมาเกาะได้ และที่กลางสันหลังคามีซุ้มมณฑปเล็กๆ ซึ่งทางภาคเหนือเรียกว่า ปราสาทเฟื้อง ลักษณะเดียวกับที่พบในภาคอีสานและลาว
นอกจากนี้แล้วยังมีอาสนะสำหรับตั้งโกศพระบรมธาตุซึ่งยังอยู่ในสภาพดี มีฮางฮดหรือรางรินสำหรับรองน้ำสุคนธาราหรือน้ำอบน้ำหอมที่นำมาหยดหล่อพระธาตุ มีเสลี่ยงสำหรับหามบั้งไฟจุดบูชาที่แกะสลักลวดลายดอกสวยงาม และรูปนาคลงรักชาดปิดทอง แต่ปัจจุบันทรุดโทรมไปแล้ว และมีกลองโยน (กลองบูชา) โบราณเรียกว่า “ก๋องปูจา”
เอาเป็นว่าหนาวนี้ หากใครมีมีโปรแกรมมาแอ่วเชียงใหม่ ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวกราบไหว้ขอพรพระ ที่ “วัดต้นเกว๋น” และจะได้ชมสถาปัตยกรรมล้านนาโบราณที่งดงามยิ่ง