อานิสงส์คนกรุงหนีน้ำท่วม ทำบรรยากาศงานลอยกระทงในพื้นที่เด่นคึกคัก

แม้ว่าในขณะนี้หลายๆจังหวัดของประเทศไทยจะประสบปัญหาน้ำท่วม แต่เทศกาลลอยกระทงในปีนี้ก็ยังมีหลายพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ยังคงสืบสานประเพณีลอยกระทง ไม่ว่าจะเป็นประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, งานเทศกาลลอยกระทง ย้อนยุคทั่วไทย สุขใจที่พิษณุโลก, งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จังหวัดตาก, งานประเพณีเดือนยี่เป็ง หมู่เฮา ฮ่วมใจ๋ หื้อยี่เป็งเจียงใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ ที่เชียงใหม่ และงานลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
 
ทั้งนี้งานประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องที่ต่างก็มีเอกลักษณ์และความโดดเด่นของงานแตกต่างกันออกไป โดยบรรยากาศงานลอยกระทงในพื้นที่หลักมีดังนี้

จังหวัดสุโขทัยในปีนี้ยังจัดงานลอยกระทงยิ่งใหญ่เช่นเดิม โดยได้จัดงาน “ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2554” ขึ้นตั้งแต่วันที่ 8-10 พ.ย. โดยบรรยากาศภายในงานทั้ง 3 วันนั้น นางสาวจิตติมา สุขผลิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย กล่าวว่า ในวันแรกคนอาจจะมาร่วมงานน้อยกว่าปีก่อนๆ แต่ก็ไม่น้อยกว่าที่คาดไว้ อาจเป็นเพราะคนยังไม่มั่นใจเรื่องเส้นทางการเดินทางขึ้นมายังภาคเหนือ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ที่หนีน้ำมาพอสมควร โดยยอดจองโรงแรมในวันแรกของงานอยู่ที่ 60-70% วันที่สองยอดจอง 90-95% ส่วนในคืนนี้ยอดจองเต็มแล้ว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมประมาณ 7000-8000 คน นักท่องเที่ยวชาวไทยรวมประมาณ 93,000-94,000 คน

“การจัดงานปีนี้เรายังมีกิจกรรมต่างๆ ครบถ้วนเหมือนเดิม มีบางอย่างที่เพิ่มด้วยซ้ำ เช่น การแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ซึ่งจะจุดแสดงในช่วงประมาณ 23.00 น. มีกิจกรรมตลาดแลกเบี้ย ซึ่งเป็นตลาดโบราณย้อนยุคที่ให้คนซื้อขายของกันโดยใช้หอยเบี้ย มีของกินของที่ระลึกที่เป็นพื้นบ้านแท้ๆ หากินได้ยาก ส่วนกิจกรรมเด่นในวันนี้ก็คือขบวนแห่นางนพมาศที่จัดไปตอน 14.00 น. มีนางนพมาศจาก 9 อำเภอ มาประกวด และเรายังได้ทำงานร่วมกับ ททท.สำนักงานโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดประกวดนางนพมาศที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่ได้ที่ 1 จะมาร่วมในขบวนแห่นางนพมาศในวันนี้ด้วย อีกทั้งในคืนนี้ยังมีการแสดงแสงเสียงถึงสองรอบ คือ 19.30 และ 21.00 เพิ่มเป็นสองรอบเพราะคนเข้าชมงานเยอะ คาดว่าในคืนนี้น่าจะมีนักท่องเที่ยวเป็นหมื่นคน” จิตติมา กล่าว

นอกจากนี้ นส.จิตติมายังได้กล่าวเชิญชวนให้ผู้สนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดสุโขทัยภายหลังจากนี้

“หลังจากงานลอยกระทงแล้วก็อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวสุโขทัย เพราะจะมีหลายโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการในการช่วยกันฟื้นฟูและเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่น หากเข้าพักยาวเป็นเวลา 3 คืน จะได้ราคาพิเศษมากๆ มีหลายโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ อยากให้มาเที่ยวกัน ทาง ททท. เองยินดีให้ข้อมูลในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดสุโขทัย” นส.จิตติมากล่าว

ด้านจังหวัดพิษณุโลก หลังจากประสบภัยน้ำท่วมในช่วงก่อนหน้านี้ก็มีการจัดงานลอยกระทงยิ่งใหญ่เช่นกัน ในงานเทศกาลลอยกระทงประเทศไทย “ย้อนยุคทั่วไทย สุขใจที่พิษณุโลก” ระหว่างวันที่ 6-10 พ.ย. 54 ณ บริเวณหน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จากสะพานนเรศวรจนถึงสะพานเอกาทศรถ และถนนริมฝั่งลำน้ำน่าน อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการประดับตกแต่งโคมไฟทั้งเมืองและตลอดลำน้ำน่านทั้งสองฝั่ง และมีกิจกรรมที่แสดงถึงเอกลักษณ์และวิถีของประเพณีลอยกระทงในประเทศไทย ทั้ง 75 จังหวัดที่จะมารวมอยู่ที่พิษณุโลก และภายในงานยังจัดให้มีบรรยากาศงานลอยกระทงย้อนยุคตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ตอนต้นและตอนกลาง

นอกจากนั้นยังมีมหกรรมอาหารอร่อย ถนนย้อนยุค สองแควแลอดีต การประกวดร้องเพลงไทย ลูกทุ่ง ไทยสากล และสติง การแสดงคอนเสิร์ตเวทีลอยน้ำ การแสดงทางวัฒนธรรม ประกวดอาหารไทย ประกวดกระทงประดิษฐ์ฝีมือ หนูน้อยนพมาศ ประกวดนางนพมาศ รำวงย้อนยุค และงานวัดใหญ่ย้อนยุค การประกวดแต่งกายย้อนยุค การประกวดขบวนแห่ การประกวดกระทงใหญ่ การลอยกระทงสาย การปล่อยโคมลอย รวมถึงการแสดง สี เสียง เรื่อง “จตุรทิศเทพสถิติแห่งสายน้ำ”

สำหรับจังหวัดตาก ในเทศกาลลอยกระทงปี 2554 นี้ได้จัด “งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง” ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ประจำปี 2554 ขึ้น ระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤศจิกายน 2554 ณ บริเวณริมสายธาร ลานกระทงสาย เชิงสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี จังหวัดตาก

ทั้งนี้ทางเทศบาลเมืองตาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และอบจ.ตาก ร่วมกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีขบวนแห่กระทงพระราชทานของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 10 กระทง

โดยตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมานายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานและร่วมอัญเชิญกระทงพระราชทานทั้ง 10 กระทงลงลอยเป็นปฐมฤกษ์เปิดงาน จากนั้นมีการแสดงแสง สีเสียง บนเวทีขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดของประเทศมีการแสดงตำนานกระทงสายฯ การลอยกระทงสายจำนวน 10,000 ใบกลางแม่น้ำปิงส่องแสงระยิบระยับ จากนั้นมีการปล่อยโคมลอยอันสวยงามจำนวน 1,000 ใบสว่างเต็มท้องฟ้า และการจุดพลุอย่างสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาคอยเฝ้าชม

และในคืนวันที่ 10- 12 พ.ย. นี้ จะมีการแข่งขันการลอยกระทงสายฯชิงถ้วยพระราชทานฯ มีขบวนแห่ที่สวยงาม จากชุมชนต่างๆ 16 ชุมชน พร้อมทั้งหลายหน่วยงาน มีการลอยประทีป 8,000 ดวง ชมกระทงนำ กระทงกะลา กระทงปิดท้าย ของกระทงทุกสายที่ส่งเข้าประกวดแข่งขันการลอยกระทงสายของชุมชนต่าง ๆ จะสามารถมองเห็นสายกระทงเป็นสายคดเคี้ยวไปตามร่องน้ำที่เป็นธรรมชาติ มีไฟส่องแสงระยิบระยับอยู่กลางแม่น้ำปิงจนสุดสายตา ร่วมร้องรำทำเพลงพร้อมแสดงอย่างสนุกสนานครื้นเครงตามแบบประเพณีวัฒนธรรมไทย แล้วยังมีการแข่งขันศิลปหัตถกรรม ณ อาคารหอกิตติคุณ พร้อมกับงานในงานยังมีสินค้า "หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์" จำหน่าย และมีการการแสดงบนเวที

สุพรรณิการ์ สังวร หัวหน้าฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการเทศบาลเมืองตาก รายงานบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จ. ตาก ว่าในวันที่ 10 พ.ย.นี้ เมื่อเวลา 18.00 น. ได้มีการทำพิธีสวดมนต์แบบล้านนาเป็นภาษาเหนือจากพระสงฆ์จำนวน 9 รูป หลังจากพระสวดเสร็จแล้ว นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตากพร้อมภรรยาร่วมกล่าวราชสดุดี และจุดเทียนชัยถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พร้อมกับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี หลังจากนั้นก็อัญเชิญพระประทีปมาจุดที่กระทงสายที่จะทำการลอยกระทงสายไหลประทีปสืบดวงพระชะตาหลวง ถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ การลอยกระทงสายจะมีกระทงใหญ่ กระทงนำ และกระทงปิดท้าย

และระหว่างที่ทำการลอยกระทงสายก็ได้รับเกียรติจากครูมืด มาขับเสภาเห่เรือถวายพระพรแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปพร้อมๆ กันด้วย แล้วหลังจากที่ลอยกระทงสายไหลประทีปสืบดวงชะตาฯ เสร็จสิ้น ก็จะมีการแข่งขันลอยกระทงสายจากผู้ที่เข้าร่วมแข่งขัน เพื่อชิงถ้วยพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

สำหรับบรรยากาศของงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1,000 ดวง จ. ตาก ในวันลอยกระทงวันนี้ ถือว่ามีความคึกคักเป็นอย่างมาก มีประชาชนชาวตาก และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวงานเป็นจำนวนมาก ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อย่างเช่น มีเวทีการประกวดดาวรุ่งลูกทุ่งกระทงสาย ซึ่งเป็นการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 2 ถ้วยรางวัล

ส่วนเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้จัดงานประเพณีเดือนยี่เป็งประจำปี 2554 พร้อมชวนสืบสานประเพณีเดือนยี่เป็ง "หมู่เฮา ฮ่วมใจ๋ หื้อยี่เป็งเจียงใหม่ ไร้แอลกอฮอล์" ตั้งแต่วันนี้ - 11 พ.ย. 54

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการแสดงประติมากรรมโคมไฟสีสันยี่เป็งเชียงใหม่บริเวณรอบคูเมือง อุทยานต้นโพธิ์โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ ฯ บริเวณ ประตูช้างเผือก อุทยานโคมไฟแห่งจินตนาการ "เชียงใหม่นครที่เป็นที่สุด แห่งความสง่างามทางวัฒนธรรม " บริเวณข่วงประตูท่าแพ อีกทั้งที่บริเวณสะพานเหล็กได้จัดเป็นถนนสายวัฒนธรรม มีกิจกรรมรำวงย้อนยุค ตกแต่งสะพานเหล็กเป็นรูปเรือสุพรรณ ส่วนบริเวณริมแม่น้ำปิงด้านหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ สะพานนครพิงค์ ด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สะพานเหล็ก จะมีการรณรงค์ให้ปล่อยโคมพร้อมกันในเวลา 21.59 น. จำนวน 1,984 ลูก

ทังนี้ในภาพรวมงานยี่เป็งเชียงใหม่ถือว่ามีบรรยากาศที่คึกคักไม่ต่างจากปีที่ผ่านๆมา เนื่องจากได้รับอานิสงส์ จากคนกรุงเทพฯที่นีน้ำท่วมขึ้นไปท่องเที่ยวผ่อนคลายความเครียดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20

โดยนายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาพรวมบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงงานเทศกาลยี่เป็งหรือลอยกระทงในปีนี้ ถือว่ามีความคึกคักมากพอสมควร เห็นได้จากข้อมูลอัตราการจองห้องพักโรงแรมของนักท่องเที่ยว ที่พบว่า มีอัตราการจองเฉลี่ยสูงถึงประมาณร้อยละ 70 โดยที่โรงแรมบางแห่งพบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าพักเต็มด้วย ซึ่งตลอดช่วงการจัดงานในปีนี้คาดว่า จะมีเงินสะพัดจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวหลายร้อยล้านบาท

สำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่คึกคักในช่วงนี้ ทาง ผอ.ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ให้ข้อมูลว่า นอกจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงงานเทศกาลยี่เป็งหรือสัมผัสอากาศหนาวเย็นของภาคเหนือโดยเฉพาะแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนไม่น้อยที่เป็นกลุ่มที่ต้องการหลบเลี่ยงสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ซึ่งกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมาในช่วงนี้

โดยกิจกรรมของงานในวันนี้(10 พ.ย.) ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป จะมีการประกวดขบวนแห่กระทงเล็ก บริเวณถนนราชดำเนิน-หน้าเทศบาล มีการปล่อยกระทงสายสืบสานล้านนา ณ ลำน้ำปิงหน้าเทศบาล การแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ ฯ ณ แพกลางน้ำหน้าเทศบาล และในเวลา 21.59 - 22.30 น. จะมีการปล่อยโคมไฟถวายเป็นพุทธบูชา 1,984 ลูก ณ บริเวณสะพานเหล็ก, นวรัฐ, นครพิงค์ และหน้าเทศบาล และจะมีการแห่กระทงใหญ่ในวันพรุ่งนี้(11 พ.ย.)

สำหรับบรรยากาศในงานของวันนี้ ตั้งแต่ตอนหัวค่ำมีขบวนประกวดกระทงเล็ก ซึ่งในปีนี้มีหลายๆภาคส่วนส่งเข้าประกวด 15 ขบวน โดยขบวนเริ่มจากประตูท่าแพ ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายภาพขบวนเป็นอย่างมาก

ส่วนการลอยกระทงนั้นจะมีการลอยในทุกพื้นที่ แต่ที่มีนักท่องเที่ยวรวมตัวกันเยอะจะเป็นสถานที่หลักๆ เช่น ที่สะพานนวรัตน์ ข่วงประตูท่าแพ จวนผู้ว่าฯ ริมน้ำปิงหน้าเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นต้น และกระทงที่ใช้ลอยก็จะเป็นกระทงที่ทำจากหยวกกล้วยใบตอง เนื่องจากมีการรณรงค์ให้ใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

และภายในงานยังมีการปล่อยโคมลอยประปรายตลอดงาน แต่ที่ในช่วงเวลา 21.59 น. ที่มีการปล่อยคอมลอยถวายเป็นพุทธบูชา 1,984 ลูกนั้น ทำให้ท้องฟ้าระยิบระยับสว่างไสว และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเก็บภาพเป็นที่ระลึกด้วย

แม้ว่าปีนี้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานประเพณียี่เป็งเมืองเชียงใหม่จะดูบางตากว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย แต่ก็ยังทำให้บรรยากาศของงานคึกคัก โดยส่วนมากนักท่องเที่ยวเป็นชาวต่างชาติ และในวันพรุ่งนี้(11 พ.ย.) ถือเป็นไฮไลท์ของงานที่จะมีการแห่ขบวนกระทงใหญ่ประกวดชิงถ้วยพระราชทานฯ ในเวลา 18.00 น. คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น

ส่วนที่ จ.สมุทรสงคราม มีการจัดกิจกรรมลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ซึ่งจะจัดขึ้น 2 กิจกรรม คือ กิจกรรมทอดผ้าป่าทางน้ำ และกิจกรรมลอยกระทงกาบกล้วยเท่านั้น เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีที่ดีงามต่อไป
 
โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ของวันนี้ (10 พ.ย. 54) ได้เริ่มขบวนเรือล่องออกมากจากวัดช่องลมไปตามแม่น้ำแม่กลอง และไปสิ้นสุดที่ที่ว่าการอำเภออัมพวา ในเวลา 10.00 น. มีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามเป็นประธานในพิธี ได้เงินบริจาคในกิจกรรมทอดผ้าป่าทางน้ำทั้งสิ้น 839,283 บาท และจะนำไปร่วมทำบุญสร้างอุโบสถวัดบุญนาคประชาสรรค์(ต้นลำแพน) ต่อไป
 
ส่วนกิจกรรมลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จะเริ่มขึ้นในเวลา 19.30 น. เป็นต้นไป สามารถชมการลอยกระทงกาบกล้วยกว่า 150,000 ใบ ได้บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ อุทยาน ร.2 , วัดภุมรินทร์กุฎีทอง และบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา
ที่ จ.นครปฐม ก็มีการจัดงานลอยกระทงเช่นกัน แม้จะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมไปแล้วในหลายอำเภอ แต่ทางเทศบาลนครนครปฐมมีการจัดงานลอยกระทงเหมือนเช่นทุกปี โดยให้เริ่มลอยกระทงได้ตั้งแต่เวลา 19.00 น. แต่ตั้งแต่ช่วงเย็นก็เริ่มมีประชาชนเดินทางมาร่วมงานที่จัดขึ้นบริเวณสองฝั่งของคลองเจดีย์บูชา ช่วงเขตเทศบาลนครนครปฐม โดยมีการจำกัดพื้นที่ของคลองเจดีย์บูชาที่จะให้ลอยกระทง และมีมาตรการในการเก็บกระทงและเศษวัสดุต่างๆ ออกจากคลองภายในคืนนี้ ส่วนงานนมัสการพระปฐมเจดีย์ที่จะจัดขึ้นในช่วงวันลอยกระทงของทุกปี ในปีนี้ก็ยังมีการจัดงานเช่นเดิม มีประชาชนเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประชาชนจากกรุงเทพฯ ที่หนีภัยน้ำท่วมมาพักอยู่ที่ จ.นครปฐม ก็เข้ามาร่วมงานนี้เป็นจำนวนมากเช่นกัน  ทำให้บรรยากาศงานคึกคักเป็นอย่างมาก
 
ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก มีการจัดงานลอยกระทงขึ้นเช่นทุกปี โดยมีพ่อค้าแม่ค้านำกระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุต่างๆ มาวางขายจำนวนมาก ทั้งบริเวณหน้าโรงเรียนสรรพวิทยาคม เขตเทศบาลนครแม่สอด และบริเวณแม่น้ำเมย ชายแดนไทย - พม่า มีชาวไทย และขาวพม่าใน อ.แม่สอด และตะเข็บชายแดน ซื้อกระทงไปลอยกันที่บริเวณแม่น้ำเมย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น