xs
xsm
sm
md
lg

“ปายเขียว” เที่ยวปายหน้าฝน สุขสดชื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุ่งนาเขียวขจีของเมืองปายในหน้าฝน
“ปาย” เป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนยังเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากดั้นด้นฝ่าทางโค้งนับร้อยนับพันเพื่อมาสัมผัสความเงียบสงบเป็นธรรมชาติของเมืองปาย

สิบกว่าปีที่ผ่านมา ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างขึ้นที่ปาย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือปายกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พอถึงช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวของที่นี่ ในตัวอำเภอปายก็จะล้นหลามไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากทุกสารทิศ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จนถึงกับเกิดปรากฏการณ์น้ำมันหมดเมืองในช่วงวันปีใหม่เมื่อสองสามปีก่อนนั่นไง
วิถีชีวิตชาวบ้านในอำเภอปาย
จริงๆ แล้วเมืองปายมีเสน่ห์น่าเที่ยวเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้นหรือ? “ตะลอนเที่ยว” คิดว่าไม่ใช่ เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ที่ได้เดินทางไปปายเพื่อร่วมกิจกรรม “รักษ์ปาย ลดขยะ เพิ่ม(ปลูก)หญ้าแฝก” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับชมรมการท่องเที่ยวอำเภอปายจัดขึ้น จึงได้เห็นว่าปายหน้าฝนนั้นช่างเขียวขจีมีเสน่ห์ ทุ่งนาป่าเขาฉ่ำฝนมองแล้วสบายตา ในเมืองคนไม่พลุกพล่านแต่ก็ไม่เงียบเหงาเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติก็นิยมมาเที่ยวกันในช่วงนี้ แถมมาเที่ยวปายในตอนนี้ยังมีข้อดีตรงที่โรงแรมรีสอร์ทหรูๆ ต่างก็ลดราคาค่าที่พักกันกว่าครึ่ง เรียกได้ว่ามาเที่ยวปายหน้าฝนสบายใจแถมยังสบายกระเป๋าอีกด้วย
ขี่สองล้อเที่ยวเมืองปายสบายๆ
การมาเที่ยวปายในครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” เลือกการปั่นจักรยานท่องเที่ยวในตัวเมืองปาย โดยมุ่งหน้าไปยัง “วัดศรีดอนชัย” ที่อยู่ห่างออกไปนอกเมือง ในตำบลเวียงเหนือ วัดศรีดอนชัยถือเป็นวัดแห่งแรกในอำเภอปาย สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 1855 โดยพะกาหม่องซอที่นำทัพพม่ามาตั้งบ้านเรือนแห่งนี้ แล้วสร้างวัดใหม่ขึ้นเรียกว่าวัดบ้านดอนจองใหม่ (วัดใหม่) และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดศรีดอนชัย ตามลักษณะของหมู่บ้านซึ่งเป็นที่สูง และตามชื่อของเจ้าศรีไจยาผู้ปกครองเมืองปายในขณะนั้น
วัดศรีดอนชัย
วัดศรีดอนชัยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปสำคัญเป็นที่เคารพนับถือของคนปาย โดยใน พ.ศ. 2124 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งทรงนำทหารมาฝึกที่เมืองปาย ได้เสด็จมาทรงสักการะพระสิงห์องค์นี้ด้วย และในวันสงกรานต์ทางวัดจะอัญเชิญพระสิงห์ปายออกมาให้ชาวบ้านได้สรงน้ำและสักการะเป็นประจำทุกปี นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวที่มายังวัดศรีดอนชัยยังจะได้ชมความงดงามของวิหารที่เพิ่งบูรณะเสร็จใหม่ๆ อีกด้วย
พระสิงห์ปาย
ระหว่างทางที่ไปยังวัดศรีดอนชัย มีวัดร้างเล็กๆ ชื่อว่า “วัดหมากลาง” อ่านว่า หมาก-ลาง ซึ่งหมายถึงขนุน อย่าลืมแวะไหว้พระขอพรกันก่อนจะกลับเข้าสู่ตัวอำเภออีกครั้งเพื่อตระเวนไหว้พระเที่ยววัดในปาย ซึ่งวัดที่ “ตะลอนเที่ยว” แนะนำให้ไปเยี่ยมชมก็คือ “วัดกลาง” วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ใกล้กับท่ารถปาย ภายในวัดมีเจดีย์สีทองศิลปะแบบไทยใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือวิหารด้านในวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนอนที่แกะสลักจากไม้ทั้งต้น อีกทั้งรูปพระสาวก รูปเทวดา รูปยักษ์ ฯลฯ ต่างก็แกะสลักจากไม้ด้วยฝีมืออันงดงาม ส่วน “วัดหลวง” ก็เป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนปาย
วัดพระธาตุแม่เย็น
วัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนปาย นั่นก็คือ “วัดพระธาตุแม่เย็น” ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 ก.ม. ที่ตั้งของวัดอยู่บนภูเขาทางทิศตะวันออกของตัวอำเภอ จึงเป็นจุดชมวิวเมืองปายมุมสูงได้เป็นอย่างดี สามารถมองเห็นเมืองปายเมืองเล็กๆ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน ในฤดูฝนเช่นนี้ปายดูเขียวชอุ่มไปทั้งเมือง ได้ชมวิวสวยๆ และสูดอากาศบริสุทธิ์จากบนยอดเขาเข้าไปฟอกปอดแล้วก็ทำให้สดชื่นขึ้นได้มาก สำหรับวัดพระธาตุแม่เย็นนี้แม้จะไม่ไกลจากตัวเมืองแต่ถนนค่อนข้างลาดชัน ถ้าขี่จักรยานอาจจะต้องมีลงเข็นบ้าง แต่ถ้าแรงไหวใจพร้อมก็ปั่นมาเที่ยวได้เลย
ทิวทัศน์เมืองปายเมื่อมองจากพระธาตุแม่เย็น
นอกจากธรรมชาติและวัฒนธรรมอันงดงามของปายจะเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนแล้ว เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านขายของที่ระลึกเก๋ๆ ที่ใครผ่านมาก็มักจะต้องแชะรูปไว้เป็นหลักฐาน สำหรับร้านกาแฟนั้นมีอยู่แทบทุกมุมในตัวเมืองหรือแม้แต่นอกเมืองปาย ส่วนร้านขายของที่ระลึกนั้นจะมีมากในถนนชัยสงคราม สามารถมาเลือกซื้อของฝากประเภทเสื้อยืด กระเป๋า โปสต์การ์ด พวงกุญแจ ฯลฯ ไปฝากคนทางบ้านได้ และในตอนเย็นย่ำไปจนถึงค่ำมืดถนนสายนี้ก็จะจัดเป็นถนนคนเดิน นอกจากร้านรวงต่างๆ แล้ว ชาวบ้านและชาวเขาต่างก็นำของที่ระลึกมาวางขายแบบแบกะดินให้เลือกซื้อกัน นอกจากนั้น ถนนเส้นนี้และในซอยใกล้เคียงก็ยังเป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มยามราตรีที่มีให้เลือกหลายร้านอีกด้วย
ร้านขายของที่ระลึกบนถนนคนเดินปาย
และนอกจากถนนคนเดินแล้ว ทางอำเภอปายโดยชมรมการท่องเที่ยวอำเภอปายได้จัดให้มี “ถนนสายวัฒนธรรม” ขึ้น บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอปาย บนถนนสายวัฒนธรรมนี้จะต่างจากถนนคนเดินตรงที่มีการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ ให้ชม เช่น การแสดงรำนกกิงกะหล่าของชาวไทใหญ่ การเต้นจะคึของชาวลาหู่ เป็นต้น และยังมีสินค้า OTOP ของดีเมืองปายให้เลือกซื้อกันด้วย

พูดถึงสินค้าโอท็อปแล้ว ที่ “บ้านป้าแหลง” ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้อีกแห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดใหม่ อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลปาย ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมไทใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มชนส่วนใหญ่ในเมืองปาย ใครที่อยากประดิษฐ์โคมไทใหญ่ อยากรู้เรื่องประวัติศาสตร์เมืองปาย อยากซื้อสินค้าโอท็อปและสินค้าพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าต่างๆ ในปายแล้ว ก็สามารถมาที่บ้านป้าแหลงได้เลย
เมืองปายที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
ในส่วนของตัวอำเภอปายรอบนอกยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมาก แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพอาจจะขี่จักรยานมาไม่ไหว คงต้องอาศัยรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ โดยแหล่งท่องเที่ยวนอกเมืองที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้ไปเยี่ยมเยือนมา และรู้สึกประทับใจก็คือที่ “ไฮ่อุ๊ยต๋าคำปาย” (ไฮ่ = ไร่) ในตำบลทุ่งยาว ที่นี่เปิดเป็นโฮมสเตย์และป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตที่พึ่งพิงธรรมชาติ ไม่พึ่งพิงเทคโนโลยี ที่นี่ยังปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง สร้างบ้านจากวัสดุธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นที่ชื่นชมของชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก จึงมีฝรั่งหลายๆ คนมาอยู่อาศัยที่นี่และมาเรียนรู้การใช้ชีวิตกับธรรมชาติ และใกล้ๆ กับไฮ่อุ๊ยต๋าคำปายนั้น เป็นผืนนาขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองปาย คือมีพื้นที่กว่า 200 ไร่ เป็นที่นาของชาวบ้านหลายๆ ครอบครัวที่อยู่ติดกัน จะหาผืนนาขนาดใหญ่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว เพราะหลายๆ พื้นที่ได้เปลี่ยนไปเป็นรีสอร์ทเป็นเกสต์เฮ้าส์ไปบ้าง
กองแลน ฝีมือธรรมชาติที่ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
แหล่งท่องเที่ยวนอกตัวเมืองปายยังมีอีกหลายแห่งให้ได้ไปเยือนกัน เช่น วัดน้ำฮู ที่ตำบลเวียงใต้ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระอุ่นเมือง พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์เก่าแก่ ที่มีความมหัศจรรย์ตรงที่พระเศียรกลวง ส่วนบนเปิดปิดได้ และมีน้ำซึมออกมาอยู่เสมอ ไม่ไกลจากวัดน้ำฮู คือหมู่บ้านสันติชล ชุมชนชาวจีนยูนนานที่อพยพลี้ภัยคอมมิวนิสต์เข้ามาอยู่ในประเทศไทย ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้ไปเลือกซื้อของที่ระลึกต่างๆ เช่น ใบชา ผลไม้ดองและอบแห้ง ฯลฯ บรรยากาศภายในหมู่บ้านมองไปแล้วเหมือนกับอยู่ในประเทศจีน ร้านค้าและที่พักสร้างด้วยบ้านดินดูสวยน่ารัก ถ้ามาที่หมู่บ้านสันติชลแล้วอย่าลืมชิมขาหมูหมั่นโถวของขึ้นชื่อของที่นี่กัน
หมู่บ้านสันติชล
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติของปายก็มีอยู่หลายแห่ง เช่น โป่งน้ำร้อนท่าปายซึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อุณหภูมิของน้ำในโป่งสูงถึง 80 องศาเซลเซียส บางช่วงเป็นแอ่งสามารถลงแช่น้ำได้ กองแลน เป็นสถานที่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยเกิดจากการยุบตัวของดินที่อยู่ตามหุบเขาจนกลายเป็นทางเส้นเล็กๆ บนสันเขา ลักษณะเหมือนแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ ชาวบ้านเปรียบเส้นทางเดินนี้ว่าเป็นถนนของตัวแลน (กอง = ถนน แลน = ตะกวด) เนื่องจากเป็นถนนแคบๆ นั่นเอง
สะพานประวัติศาสตร์
อีกมุมหนึ่งของเมืองปายที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันก็คือสะพานประวัติศาสตร์ปายซึ่งเป็นสะพานนวรัฐของจังหวัดเชียงใหม่เดิมซึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว ทางอำเภอปายได้ขอนำมาใช้แทนสะพานไม้ข้ามแม่น้ำปายที่ถูกกระแสน้ำป่าพัดทำลายไปเมื่อปี 2516

และนี่ก็คือความน่าสนใจของปายที่ “ตะลอนเที่ยว” ยังสัมผัสได้ถึงความน่ารักของผู้คน ความน่าอยู่ของบ้านเมือง และความสวยงามของธรรมชาติ ที่หากมาเที่ยวในช่วง “High Season” ก็อาจมองเห็นไม่ชัดนักเพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่คน คน คน แต่หากได้มาเที่ยวปายในช่วง “Green Season” ได้มาฟังเสียงฝนตก ได้สัมผัสกับความเขียวขจีของท้องทุ่งและป่าเขา เชื่อว่าน่าจะมีคนรักปายเพิ่มมากขึ้นอีกแน่นอน
แวะถ่ายรูปแม่น้ำปายในมุมมองสวยๆ
*  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *  *

สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในอำเภอปายได้ที่ ชมรมการท่องเที่ยวอำเภอปาย โทร. 0 5369 8055 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982-3

สำหรับผู้ที่มาเที่ยวปายในช่วงหน้าฝนนี้ ทางชมรมการท่องเที่ยวอำเภอปาย ททท. สำนักงานแม่ฮ่องสอน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอเชิญชวนช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นส่งผลงานเข้าประกวดในหัวข้อ "ปายสีเขียว" (Capture Green Pai) ชิงรางวัลมูลค่ากว่า 100,000 บาท และประกาศนียบัตรจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ที่สนใจสามารถส่งภาพเข้าร่วมประกวดได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2554 อีกทั้งผู้ที่เข้าร่วมประกวดยังจะได้รับส่วนลดพิเศษเมื่อสำรองห้องพักจากรีสอร์ทที่เข้าร่วมโครงการสูงสุดถึง 50% และสิทธิพิเศษสำหรับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกวดได้ที่ www.slowstylepai.com หรือสอบถามที่ โทร. 08 5037 7188, 08 9632 2444
กำลังโหลดความคิดเห็น